Tag Archives: dermatologist

ภาวะไม่มีผิวหนังตั้งแต่เกิด

ตัวอย่างเคส ภาวะไม่มีผิวหนังตั้งแต่เกิด
จาก Case Rep Dermatol 2018;10:182–186

เด็กชายอายุ 45 วัน หลังคลอดมีรอยโรคที่หนังศีรษะ ดังรูป

Photo credited: Case Rep Dermatol 2018;10:182–186

คล้ายเยื่อบาง ๆ ปกคลุม ไม่มีผมขึ้น
ตรวจพบมีติดเชื้อแทรกซ้อนที่ผิว
อัลตราซาวด์พบมี bullae over the
anterior fontanel, well-defined complex cyst, and an isolated subcutaneous lesion แต่สมองด้านในปกติดี

พี่ชายก็เป็นเช่นกันและหายเองในสามสัปดาห์หลังคลอด
พ่อแม่มีประวัติ second-degree relatives

วินิจฉัย Aplasia cutis congenita

ภาวะนี้พบไม่บ่อย เป็นกลุ่มอาการที่ไม่มีผิวหนังคลุม พบบ่อยที่หนังศีรษะ อาจเห็นเป็นแผล เยื่อบาง ๆ หรือตุ่มน้ำ ผมไม่ขึ้น

สาเหตุ

ไม่แน่ชัด เชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัย เช่น
• กรรมพันธุ์
• ติดเชื้อในครรภ์ เช่น varicellar, herpes, rubella
• ยาบางชนิด เช่น methimazole
• มีรายงานพบ 7% ในพ่อแม่ที่แต่งงานในเครือญาติ
• บางรายพบความผิดปกติทางโครโมโซมอื่น ๆ ร่วมด้วย

ควรวินิจฉัยแยกโรคจาก trauma ตอนคลอด

การรักษา

ทายาปฏิชีวนะ ขนาดเล็กอาจหายเอง ขนาดใหญ่แพทย์อาจพิจารณาทำ graft แปะภายหลัง

อ่านเพิ่มเติม
Case Rep Dermatol 2018;10:182–186
https://doi.org/10.1159/000490786


บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

“Tik Tok Tyloma” ตุ่มที่นิ้วจากการเล่นโซเชียลมีเดียประจำ

เคสตัวอย่าง Tik Tok Tyloma

ผช 19 ปี มีตุ่มหนานูนบริเวณด้าน radial aspect ของนิ้วก้อยข้างซ้าย ซึ่งตรงกับตำแหน่งเสียดสีกับโทรศัพท์มือถือในท่าจับเพื่อให้โทรศัพท์ตั้งอยู่บนมือ ดังรูป
เคสนี้ให้ประวัติว่าใช้โทรศัพท์เล่น social media เป็นประจำ เสียดสีในท่าเดิมซ้ำ ๆ จึงมาการตั้งชื่อ Tik Tok tyloma

Photo Reference: Dermatology Online Journal. 2021 Nov 15; 27 (11).

ที่จริงก็คือภาวะ Callus หรือ Tyloma นั่นเอง
ซึ่งเกิดจากการมีผิวหนังหนานูนขึ้นจากการเสียดสีซ้ำ ๆ ที่เดิม ไม่จำเป็นต้องเป็นจากมือถือเท่านั้น ก่อนนี้มีรายงานผื่นหนานูนที่นิ้วโป้งจากการเสียดสีเล่นเกมส์บ่อย ๆ เรียกว่า Play station thumb

ภาวะนี้ไม่อันตราย เพียงลดการเสียดสี ก็จะดีขึ้น

Reference
Dermatology Online Journal. 2021 Nov 15; 27 (11).
https://doi.org/10.5070/D3271156100

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

NICE Acne Guideline 2021 อัพเดทล่าสุด..การรักษาสิวสำหรับแพทย์ทั่วไป

ACNE GUIDELINE ของ The National Institute for Health and Care Excellence (NICE) ล่าสุด‼️

มีประเด็นที่น่าสนใจพูดเกี่ยวกับคำแนะนำการรักษา และ เมื่อไหร่ควรส่งต่อเคสสิว

การรักษาเบื้องต้นสำหรับแพทย์ทั่วไป

การรักษาไม่ต่างจากเดิมนัก รายละเอียดดังรูป

NICE acne guideline
Photo credited: British Journal of Dermatology

การส่งต่อเคสพบ Dermatologist

แบ่งตามความเร่งรีบคร่าว ๆ ดังนี้

Urgent

หากเป็นไปได้ควรรีบส่งต่อ ถ้าเป็น Acne fulminans เพราะต้องให้การรักษาเร็วหน่อย ซึ่งผู้ป่วยจะมี nodulocystic acne เพิ่มขึ้นรวดเร็วร่วมกับมีอาการทางกายอื่น ๆ เช่น ไข้ ปวดเมื่อยตามตัว

Consider

พิจารณาส่งต่อ แต่ไม่รีบมาก กรณีดังนี้
• ไม่แน่ใจการวินิจฉัยโรค
• Acne conglobata
• Nodulo-cystic acne

กรณีที่อยากลองรักษาเบื้องต้น สามารถทำได้ และพิจารณาส่งต่อ กรณีดังนี้
• สิวเล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่ดีขึ้นหลังรักษา 2 completed course
• ไม่ตอบสนองหลังให้ยาปฏิชีวนะ
• Acne with scarring มีแผลเป็นหรือหลุมสิว
• Acne with pigmentary change มีการเปลี่ยนแปลงสีผิว
• Medical conditions มีภาวะร่วมอื่น ๆ เช่น ถุงน้ำรังไข่หลายใบ ทานยา anabolic steroid เป็นต้น
• Mental change มีความกังวลใจ เครียด มีแนวโน้มซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย ซึ่งต้องปรึกษาทีมจิตแพทย์ร่วมดูแล

Photo credited: British Journal of Dermatology

ที่มา
https://www.guidelines.co.uk/skin-and-wound-care/nice-management-of-acne-guideline/456130.article
Photo credited: British Journal of Dermatology

สกินแคร์ชะลอวัย 101 ด้วย Retinaldehyde & Bakuchiol

หลายคนที่หวังผล Anti-aging จากการทา Tretinoin แต่ประสบปัญหาหน้าแดง แสบ ลอก ไม่ว่าจะลองปรับลดความถี่ ลดความเข้มข้น เสริมสกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นมากมาย แต่ก็ไปไม่รอด อยากให้ลองอ่านบทความนี้ เกี่ยวกับสกินแคร์ในรูปแบบทา ที่ออกฤทธิ์ anti-aging ได้คล้ายคลึงกับ tretinoin นั่นก็คือ อนุพันธ์วิตามินเอ (Vitamin A derivatives) และ Bakuchiol

เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานเล็กน้อยกันก่อนค่ะ

ก่อนจะมาเป็น Retinoic acid จะต้องผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงสารตั้งตั้น คือ Retinyl ester Retinol Retinaldehyde -> Retinoic acid ซึ่งเป็นสารตัวที่สามารถซึมลงสู่ผิวชั้นหนังแท้และออกฤทธิ์ได้ที่ผิวหนังในที่สุด

วิตามินเอ Tretinoin and Vitamin A Derivatives
กระบวนการเปลี่ยนแปลงวิตามินเอที่ผิวหนัง

โดยปกติมีการแบ่งวิตามินเอชนิดทา เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

  1. กลุ่มยา ได้แก่ Tretinoin ( retinoic acid) ต้องมีการสั่งจ่ายโดยแพทย์เพราะมีผลข้างเคียงระคายเคืองมากกว่า โดยปกติจึงไม่แนะนำให้ซื้อใช้เอง สามารถอ่านทบทวนบทความที่เคยเขียนไว้ก่อนนี้ได้ค่ะ
  2. กลุ่มสกินแคร์ ได้แก่ Natural vitamin A derivatives และ Bakuchiol ซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่ไม่ใช่ยา และมักถูกนำมาผสมในสกินแคร์เพื่อหวังผลด้าน antiaging ได้แก่
Tretinoin or Retinoic acid ​
Tretinoin or Retinoic acid

2.1 Retinaldehyde

เป็น retinoic acid precursor ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็น retinoid acid ได้ที่ keratinocyte ที่ผิวมนุษย์เพียง 1 ขั้นตอน พบว่าใช้ได้ผลในแง่ antiaging อยู่ที่ความเข้มข้น 0.05 – 0.5% โดยหลังการทาผิว 1-3 เดือน มีการเปลี่ยนแปลง ได้แก่

• ความหนาของผิวชั้นหนังกำพร้า (Epidermal thickness) เพิ่มขึ้น
• ความยืดหยุ่นผิว (cutaneous elasticity) เพิ่มขึ้น
• สภาพผิวเรียบขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ ดีขึ้น (Texture improvement)
• ค่าการสูญเสียน้ำจากผิว (TEWL) ลดลง ผิวชุ่มชื้นขึ้น
• ค่าการสร้างเม็ดสีผิว (Melanin index) ลดลง ในกรณี Retinaldehyde 0.1% ขึ้นไป

มีข้อมูลเปรียบเทียบการทา retinaldehyde 0.05% กับ การทายา retinoic acid 0.05% พบว่าหลังการทานาน 18 – 44 สัปดาห์ ริ้วรอยเล็ก ๆ (Fine wrinkle) และผิวที่ไม่สม่ำเสมอ (Roughness) ดีขึ้นทั้งสองชนิด

ดังนั้น การทา retinaldehyde จึงเป็นอีกทางเลือกที่มีข้อมูลรองรับและน่าสนใจสำหรับคนที่ไม่สามารถทนผลข้างเคียงของยาทากรดวิตามินเอ (retinoic acid) ได้ และสามารถใช้ได้ในระยะยาวแม้บริเวณผิวที่มีการระคายเคืองง่าย

Retinaldehyde
Retinaldehyde

2.2 Retinol

เป็นตัวตั้งต้นของ retinaldehyde และต้องผ่าน 2 ขั้นตอนในการเปลี่ยนเป็น retinoic acid นิยมใช้สำหรับผสมในสกินแคร์ ที่ผ่านมามีการศึกษาพบว่าหลังการทา retinol มีการเพิ่มขึ้นของ epidermal retinyl ester แต่ไม่มีการเพิ่มของ retinoic acid level

มีการศึกษาที่ใช้ 0.4-1% retinol ชนิดทาผิว พบว่าปริมาณ collagen ที่ผิว เพิ่มขึ้นหลังการทา 4 สัปดาห์ แต่ประสิทธิภาพต้องขึ้นกับ vehicle ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์นั้นร่วมด้วย คงต้องรอข้อมูลในอนาคตเพิ่มเติม และ retinol จะสลายตัวง่ายเมื่อถูกแสงและอากาศ ต้องเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะ

ข้อดีของกลุ่มนี้คือ อ่อนโยน ระคายเคืองน้อย

Retinol
Retinol

2.3 Retinyl-palmitate, retinyl propionate และ retinyl-acetate

จัดเป็น vitamin A ester derivatives กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ได้ผลน้อยที่สุดในบรรดา topical retinoids ทั้งหมด เพราะต้องผ่านขั้นตอนการตัดพันธะ ester ให้กลายเป็น retinol และเกิดการ oxidation เพื่อให้เป็น tretinoin อีกที เรียกได้ว่ากว่าจะออกฤทธิ์ได้ต้องผ่านถึง 3 ขั้นตอน และการดูดซึมก็ไม่ดีเท่าที่ควร

ข้อมูลการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มนี้อาจช่วยเรื่อง UV protection ได้เล็กน้อย แต่ยังไม่มีข้อมูลช่วยเรื่อง antiaging

Vitamin A Ester Derivatives
Vitamin A Ester Derivatives

2.4 Bakuchiol

เป็น purified meroterpene phenol สารสกัดจากพืช Psoralea corylifolia (babchi) พบว่ามีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผลัดเซลล์ผิว ลดการอักเสบ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเรื่องสิวได้

โดยพบว่าการทา 0.5% Bakuchiol นาน 12 สัปดาห์ ช่วยให้ริ้วรอยเล็ก ๆ ดีขึ้นได้เทียบเคียงกับการทา 0.5% Retinol

นอกจากนั้นยังช่วยให้รอยดำดีขึ้นเพราะช่วยยับยั้งในกระบวนการสร้างเม็ดสีผิวร่วมด้วย และยังพบผลข้างเคียงเรื่องระคายเคืองน้อยที่สุดและน้อยกว่า Retinol

ดังนั้น Bakuchiol จึงเป็นน้องใหม่ที่น่าสนใจอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ทนผลข้างเคียงเรื่องการระคายเคืองของ tretinoin ไม่ได้

Bakuchiol
Bakuchiol

เหนือสิ่งอื่นใดหากต้องการให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ไปนาน ๆ นอกจากการใช้สกินแคร์กลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอแล้ว ต้องไม่ลืมที่จะ ดูแลกำแพงผิวพื้นฐานให้แข็งแรงและเพิ่มความชุ่มชื้นควบคู่ไปด้วยเสมอ โดยมองหาสกินแคร์เหล่านี้ร่วมด้วย

สกินแคร์ที่มีส่วนผสมพื้นฐานของผิว ได้แก่ ceramide, hyaluronic acid หลายโมเลกุล และสกินแคร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น niacinamide, vitamin C, E, ferulic, ectoin เป็นต้น

การใช้สกินแคร์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลผิว เพื่อให้ผิวของเรามีสุขภาพดี ซึ่งคงต้องทำควบคู่ไปกับวิธีการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การออกกำลังกาย การทานอาหารที่มีประโยชน์ งดสูบบุหรี่ การปกป้องผิวจากแสงแดดร่วมด้วยอย่างถูกวิธี ทั้งนี้เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่า

ยกตัวอย่างการจัดสกินแคร์พื้นฐานเพื่อชะลอผิวเสื่อมตามวัย
▫️ชิ้นที่ 1 ผลิตภัณฑ์กันแดด

▫️ชิ้นที่ 2 The Concentrate 25.8 Serum Booster ซึ่งมีอนุพันธ์วิตามินเอ (0.1% Retinaldehyde, 1% Bakuchiol) + สารต้านอนุมูลอิสระและส่วนผสมลดการสร้างเม็ดสี (10% Niacinamide, 4% Ascorbyl glucoside, Purified bromelain)

▫️ชิ้นที่ 3 Be-Barrier 24.7 Restoring Serum ซึ่งมีส่วนผสมบำรุงกำแพงผิวพื้นฐาน (10% Ceramide complex, 8 Hyaluronic acid, 2% Ectoin) + ส่วนผสมลดการสร้างเม็ดสี (3% Tranexamic acid)
[อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมท้ายบทความ]

BOTTOM LINE

โดยสรุป วิตามินเอรูปแบบทาเพื่อหวังผลเรื่อง Antiaging

ตัวที่มีข้อมูลรับรองมากที่สุดคือ กลุ่มยาทา Tretinoin เป็นยาที่ต้องมีการสั่งจ่ายโดยแพทย์ การระคายเคืองมาก

ถ้าในแง่สกินแคร์ของอนุพันธ์วิตามินเอที่ได้ผลด้าน Anti-aging อาจพิจารณา Retinaldehyde ซึ่งมีข้อมูลประสิทธิภาพมากที่สุด หรือทางเลือกอื่นที่ระคายเคืองน้อยกว่าและข้อมูลรองลงมา เช่น Bakuchiol (ระคายเคืองน้อยที่สุด) หรือ Retinol

ส่วนกลุ่มที่ปัจจุบันพบว่าไม่ค่อยช่วยเรื่อง anti-aging ได้แก่ กลุ่ม Vitamin A ester คงต้องรอข้อมูลในอนาคตต่อไป

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการดูแลผิวสำหรับทุกท่านที่กำลังหาข้อมูลเรื่องวิตามินเอทาผิวอยู่นะคะ ถ้าชอบสามารถแชร์ให้เพื่อน ๆ อ่านได้เลย


References
J Cutan Med Surg. 2022 Jan-Feb;26(1):71-78.
Br J Dermatol. 2019 Feb;180(2):289-296.
J Cosmet Dermatol. 2018 Jun;17(3):471-476.
J Dermatolog Treat. 2017 Dec;28(8):684-696.
Aesthet Surg J. 2010 Jan;30(1):74-7.
Br J Dermatol 2008;158: 472-477.
Clin Dermatol 2008;26:633-635.
Arch Dermatol 2007;143:606-612.
Clin Interv Aging. 2006;1(4):327-48.
Dermatol Therapy 2006;19:289-296


[Disclaimer] สนับสนุนบทความโดย HERBITAGE

ทำการพัฒนาสูตรร่วมกับสถาบัน KAPI ม.เกษตร โดยเป็นการต่อยอดเชิงพาณิชย์ให้แก่งานวิจัยด้าน Purified Extract จากพืชผลการเกษตรของไทย

สูตรแรก HERBITAGE The Concentrate 25.8 Serum Booster (สีเขียว)💚

ช่วยเสริมการรักษาสิว ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูดีขึ้น รูขุมขนแลดูเล็กลง
ส่วนประกอบหลัก
0.1% Retinaldehyde เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอที่มีข้อมูลประสิทธิภาพด้าน anti-aging มากสุดในกลุ่มเครื่องสำอาง
1% Bakuchiol สารสกัดวิตามินเอจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์คล้ายเรตินอล อ่อนโยน
10% Niacinamide, 4% Ascorbyl glucoside ลดการสร้างเม็ดสีผิว
Purified bromelain เอนไซม์เหง้าสับปะรดบริสุทธิ์ จาก ม.เกษตรศาสตร์ สารต้านอนุมูลอิสระ

เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมง่าย ไม่ระคายเคือง
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร, คนแพ้วิตามินเอและอนุพันธ์, ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบ เช่น เซบเดิร์ม

สูตรสอง HERBITAGE Be-Barrier 24.7 Restoring Serum (สีน้ำเงิน)💙

ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เสริมกำแพงผิว ผิวแลดูกระจ่างใส ต่อต้านมลภาวะ
ส่วนประกอบหลัก
2% Ectoin ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว
10% Ceramide complex ช่วยฟื้นฟูกำแพงผิว
3% Tranexamic acid ช่วยยับยั้งในกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว
8 Hyaluronic acids ช่วยเติมน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นผิว
Liquid Crystal Emulsion ช่วยนำพาสารออกฤทธิ์เข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น

Herbitage Concentrate and Be barrier

ข้อมูลการทดลองจากทาง HERBITAGE โดยคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าหลังการใช้ผลิตภัณฑ์คู่กัน 28 วัน ในอาสาสมัคร 30 คน ริ้วรอยตื้นขึ้น 21.2%, ผิวชุ่มชื้นขึ้น 64.5% และ ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น 6.45%

*ผลลัพธ์ต่อผลิตภัณฑ์ขึ้นกับการตอบสนองของแต่ละบุคคล

ข้อมูลเพิ่มเติม Link ร้านค้าอย่างเป็นทางการ (ป้องกันของปลอม)
Shopee : https://bit.ly/2PmOxy7

Lazada : https://bit.ly/3fzwrUy

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

วิธีเลือกหมวกกันแดด

หมวกทุกชนิดกันแดดได้ แต่หมวกแต่ละชนิดกันรังสียูวีได้ไม่เท่ากัน ปกป้องส่วนต่าง ๆ ของผิวบนใบหน้าได้ไม่เท่ากัน

หากมองหาหมวกสักใบเพื่อเสริมการปกป้องผิวจากแสงแดด แนะนำแบบนี้ค่ะ

หมวก กันแดด

• ผิวที่เราต้องปกป้อง ควรต้องครอบคลุมทุกส่วนบนใบหน้า ทั้งหน้าผาก จมูก คาง แก้ม ท้ายทอย

ดังนั้น ควรเลือกหมวกที่มีปีกกว้าง โดยพบว่าหมวกที่มีส่วนปีกกว้างมากกว่า 7.5 เซนติเมตร และควรปีกกว้างรอบทุกด้าน จึงปกป้องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

• มองหาหมวกที่ทำจากวัสดุที่มีระบุค่าที่บ่งบอกถึงการปกป้องยูวีทั้ง UVA & UVB ที่เรียกว่า UPF (ต่างกับ SPF จะหมายถึงเฉพาะ UVB protection) โดยถือว่า

UPF 30-49 จัดเป็น Very good protection

UPF 50+ ขึ้นไป จัดเป็น Excellent protection

ดังนั้น ถ้าแดดแรงมากควรเลือก UPF 50 ขึ้นไป

• สีของหมวกก็สำคัญ แต่ละสีปกป้องแสงแดดไม่เท่ากัน สีเข้มจะสามารถดูดซับแสงไว้ที่ตัวได้ดี ทำให้ทะลุผ่านมาถึงผิวหนังได้น้อยกว่าสีอ่อน

ดังนั้น ควรเลือกสีเข้มจะปกป้องยูวีได้ดีกว่า

• ลักษณะของเนื้อผ้าและการถักทอของผ้า ถ้าผ้าหนา ทอละเอียดจะยิ่งมีโอกาสให้รังสียูวีทะลุผ่านได้น้อย ดังนั้น ควรเลือกผ้าที่หนา ทอแน่น จะดีกว่า ผ้าบาง ทอโปร่ง

กลุ่มปกป้องยูวีได้มากกว่า เช่น ผ้ายีนส์ ผ้าแคนวาส ผ้าขนสัตว์ ผ้าใยสังเคราะห์

• ผ้าอื่น ๆ เช่น

ผ้าฝ้ายไม่ฟอกสี จะยังมีสารลิกนิน ซึ่งเป็น UV absorber ช่วยกันยูวีได้ดีกว่าที่ฟอกสีแล้ว

ผ้าโพลีเอสเตอร์แบบเงา หรือ ผ้าไหมซาติน พวกนี้มีความเงาจะช่วยสะท้อนแสง และกันยูวีได้มากกว่าผ้าไม่เงา

ผ้าบางชนิดใช้เทคโนโลยีการผสม Chemical UV absorber ก็ช่วยได้เช่นกัน

• การสวมใส่ก็ปกป้องได้แตกต่าง แนะนำว่าควรสวมหมวกให้หลวมเล็กน้อย ไม่แน่นมาก เพราะการสวมแน่นจะเป็นการยืดเส้นใยของผ้าให้ถ่างออกและมีรูให้รังสียูวีทะลุผ่านมาได้มากขึ้น

ดังนั้น คนสองคนใส่หมวกใบเดียวกัน อาจจะปกป้องรังสียูวีได้แตกต่าง บางคนหัวเล็กหัวใหญ่ ใส่แล้วหลวมหรือแน่น

การสวมหมวก เป็นหนึ่งในวิธีการเสริมการปกป้องผิวจากรังสียูวี เหนือสิ่งอื่นใดต้องควบคู่กับการทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธี เพราะการสวมหมวกปีกกว้าง หรือ ใส่เสื้อแขนยาว ก็ไม่สามารถทดแทนการทาครีมกันแดดได้แน่นอนค่ะ

หากบทความมีประโยชน์ สามารถแชร์ให้เพื่อน ๆ อ่านได้เลย

——————————————

รวมลิ้งค์ https://opl.to/drwarayuwadee

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

วิธีจัดการตุ่มคันตามตัว (Prurigo nodularis)

ตุ่มคันที่ไม่มีใครไม่เคยเจอเคส เจอทีปวดหมอง หายคันยากจริงๆ

ลักษณะเป็น crusted or excoriated, hyperkeratotic, light to bright red papules, nodules or plaques with hyperpigmented margin ดังรูป

ขนาดเล็ก มิลลิเมตร ถึง 3 เซนติเมตร

Ref. J Dtsch Dermatol Ges 2017;8:860–72.

แบ่ง Grading เป็น mild (<20 lesions, moderate (20-100 lesions), severe (>100 lesions)

มักอยู่ตามบริเวณรอยโรคหรือบริเวณที่เกาถึง หากอยู่ที่หลัง จะเห็นบริเวณผิวหนังปกติที่เกาไม่ถึงเป็นรูปคล้ายผีเสื้อ เรียกว่า Butterfly sign 🦋

Ref. J Dtsch Dermatol Ges 2017;8:860–72.

อย่าลืมหาสาเหตุของโรคที่ทำให้เกิดอาการคัน ทั้งโรคผิวหนัง และ โรค systemic disease โดยเฉพาะ chronic renal disease, diabetes, neuropathic disease เป็นต้น

การรักษา

ปรับยาตาม algorithm step ตามรูป

Ref. J Dtsch Dermatol Ges 2017;8:860–72.

Reference
J Dtsch Dermatol Ges 2017;8:860–72.
Dermatol Clin 2018 Volume 36, Issue 3, July 2018, Pages 189-197
https://doi.org/10.1016/j.det.2018.02.003

——————————————

รวมลิ้งค์ https://opl.to/drwarayuwadee

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Licochalcone A คู่หูคู่ซี้ของ ไทอามิดอล ‼️

เชื่อว่ายุคนี้หากใครได้อ่านเรื่อง สกินแคร์ที่ช่วยเรื่องฝ้าและรอยดำ ก็ต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของไทอามิดอล ซึ่งเป็นตัวเต็งของ ingredient ที่ช่วยยับยั้งในกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว และในขณะเดียวกันอาจจะได้ยินชื่อของสารอีกตัวที่มักใช้ร่วมกับ Thiamidol เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น นั่นก็คือ ลิโคชาลโคนเอ (Licochalcone A) ลองมาทำความรู้จักกันในบทความนี้

Licochalcone A คู่หู Thiamidol คู่ซี้ของคนเป็นฝ้า

Licochalcone A เป็นสารสำคัญที่พบใน Glycyrrhiza inflata ซึ่งเป็น Chinese Licorice Root extract (รากชะเอมเทศ)

กลไกออกฤทธิ์ของ Licochalcone A ได้แก่

  • ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory effects)

ยับยั้งการสร้างและหลั่งสารก่อการอักเสบหลายชนิด เช่น PGE2, LTB4, IL-6, TNFa

  • ต้านเชื้อจุลชีพ (Anti-microbial effects)

โดยข้อมูลหลอดทดลองพบว่า สามารถยับยั้งกลุ่มแกรมบวกและแกรมลบได้ เช่น Staphylococcus aureus, Escherichia coli, Pseudomonas aeruginosa, Bacillus subtilis รวมถึง C.acne, H.pylori

  • ยับยั้งเชื้ออื่น ๆ

เช่น เชื้อมาลาเรีย P. falciparum, เชื้อราชนิด dermatophyte, C.albicans และเชื้อไวรัสบางชนิด

  • ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ (Antitumorigenic effects)
  • ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant effects)
กลไกออกฤทธิ์ของ Licochalcone A​
กลไกออกฤทธิ์ของ Licochalcone A

ในสมัยก่อนคนจีนจึงนิยมใช้เป็น ยาแผนโบราณในการรักษาโรค (Traditional Medicine) เช่น แผลในกระเพาะหรือลำไส้, ผิวหนังอักเสบ หรือ โรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบในร่างกาย เพราะสืบเนื่องจากคุณสมบัติข้างต้น

ปัจจุบันมีการนำ Licochalcone A มาผสมสกินแคร์ในรูปแบบของการทา

หลากหลายมากขึ้น และมีข้อมูลพบว่าช่วยให้ภาวะเหล่านี้ดีขึ้นได้

• ผื่นที่เกี่ยวกับการอักเสบ ได้แก่ ผื่นสะเก็ดเงิน, ผื่นคัน, ผื่นเซบเดิร์ม
• ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง Atopic dermatitis เพราะลดการอักเสบและยัง repair skin barrier ได้
• ผื่นโรเซเชีย, ผิว sensitive skin เพราะมีฤทธิ์ anti irritation ร่วมด้วย
• สิว เพราะลดการอักเสบและยับยั้ง C.acne ร่วมด้วย
• ฝ้าและรอยดำจากการอักเสบ

ในแง่การเกิดฝ้า

นอกจากกระบวนการสร้างเม็ดสีผิวที่ถูกกระตุ้นมากขึ้นแล้ว ยังพบว่า ผิวในชั้นลึกลงไปมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
ได้แก่

กระบวนการเกิดฝ้า​ Melasma
กระบวนการเกิดฝ้า

• เส้นใยอิลาสตินยืดหยุ่นลดลง เกิด solar elastosis คล้ายกับที่พบในผิวที่เกิดความเสื่อมจากการถูกแสงแดด (photoaging disorder)
• Basement membrane zone (BMZ) ที่กั้นระหว่างชั้นหนังแท้กับหนังกำพร้ามีรอยรั่ว ไม่แข็งแรง จึงเกิดฝ้าลึกตามมา
• เส้นเลือดใต้ผิวหนังถูกกระตุ้นให้มีการเพิ่มจำนวน & ขนาด และหลั่งสาร Endothelin ซึ่งกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้นตามมา
• มีการเพิ่มปริมาณของ mast cells หลั่ง histamine เพิ่ม และกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดสีผิวเพิ่มขึ้นตามมา
• เซลล์ไขมัน Sebocyte มีการหลั่งสารที่ทำให้เซลล์เม็ดสีทำงานมากขึ้น

ดังนั้น หากมองหาสกินแคร์เพื่อดูแลผิวที่เป็นฝ้าหรือผิวหมองคล้ำก็ควรต้องมองหาสารที่ออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการข้างต้น และถ้าหากยับยั้งได้หลายกลไกก็มีแนวโน้มที่จะเห็นผลการรักษาได้ดีกว่า

ยกตัวอย่างการจับคู่สกินแคร์

ชิ้นที่ 1: สกินแคร์ที่มีส่วนผสมหลักของ Licochalcone A + Thiamidol + Hyaluronic acid
ร่วมกับ
ชิ้นที่ 2: ครีมกันแดด
ก็ช่วยได้หลายกลไก ดังนี้

Sunscreen ช่วยลด photoaging และลดการสร้างเม็ดสี
Licochalcone A ช่วยทำให้ฝ้าและรอยดำจากการอักเสบดีขึ้น จากหลายกลไล
• ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสี โดยมีข้อมูลสามารถทาในระยะยาวได้อย่างปลอดภัย
• ลดการหลั่ง Endothelin จึงทำให้การสร้างเม็ดสีในฝ้าน้อยลง
• ช่วยลดการอักเสบ จึงเกิดรอยดำตามมาน้อยลง
Thiamidol เป็น potent tyrosinase inhibitors อ่านเพิ่มเติมในบทความก่อนนี้
Hyaluronic acid ช่วยเสริม skin barrier แข็งแรง

กลไก Licochalcone A รักษาฝ้า​
กลไก Licochalcone A รักษาฝ้า

มีข้อมูลพบว่า เมื่อใช้สกินแคร์ซึ่งมีส่วนผสมหลักของ Licochalcone A + Thiamidol + Hyaluronic acid พบว่าฝ้าจางชัดเจน และเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง 6 เดือน พบว่าฝ้าสามารถจางลงไปเรื่อย ๆ และสามารถป้องกันการกลับเป็นซ้ำของฝ้าหลังหยุดใช้ได้อย่างน้อย 3 เดือน
ดังนั้น จึงแนะนำให้ทาเป็นประจำสม่ำเสมอร่วมกับการทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธี เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการรักษาฝ้าค่ะ

Bottom line

สกินแคร์ นอกจากจะเป็นเป็นตัวเสริมการรักษาฝ้าด้วยยาแล้ว ยังสามารถใช้เพื่อ maintenance หลังการรักษาจบแล้ว เพื่อลดโอกาสการกลับมาเข้มขึ้นของฝ้าอีก แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้ 100% เพราะปัจจุบันยังไม่มีวิธีการใดรักษาฝ้าให้หายขาดได้ แต่สามารถรักษาเพื่อให้ฝ้าจางลงได้ การรักษาฝ้าให้ได้ผลดีควรต้องควบคู่ไปกับการปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างถูกวิธี และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น ฮอร์โมน ยาบางชนิด เป็นต้น

ปัจจัยกระตุ้นฝ้า​
ปัจจัยกระตุ้นฝ้า

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และทำให้ทุกท่านที่ได้จะรู้จัก ลิโคชาลโคนเอ (Licochalcone A) มากขึ้นในหลายแง่มุมนะคะ


References:

J Toxicol Environ Health A. 2020 Nov 16;83(21-22):673-686.
Curr Med Chem. 2020;27(12):1997-2011.
Clin Cosmet Investig Dermatol. 2019 Feb 19;12:151-161.
Pharm Biol. 2017 Dec;55(1):5-18.
J Eur Acad Dermatol Venereol. 2016 Feb;30 Suppl 1:21-7.
Acta Pharm Sin B. 2015 Jul;5(4):310-5.
Arch Dermatol Res. 2006 Jun;298(1):23-30.
Life Sci. 2002 Aug 9;71(12):1449-63.


[Disclaimer] สนับสนุนความรู้โดย
Eucerin Spotless Booster Serum

ส่วนประกอบหลัก :
Thiamidol เป็น The powerful Human Tyrosinase Inhibitor {อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.facebook.com/476743752739537/posts/1259180884495816/?d=n}
Hyarulonic acid small molecule ช่วยนำพาสาร Thiamidol ซึมลงสู่ผิวชั้นลึกได้ดีขึ้น
Licochalcone A ช่วยลดการอักเสบ ลดการหลั่ง endothelin จาก endothelial cell เสริมการทำงาน ช่วยลดเรื่องการเกิดฝ้าและรอยดำหลังการอักเสบได้ดียิ่งขึ้น

เทคโนโลยี Micro Targeted : เพื่อเพิ่มความเสถียรและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และจัดการฝ้า จุดด่างดำได้ดีกว่าเดิม ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น 2 สัปดาห์

Eucerin Spotless Booster Serum

อ่านบทความย้อนหลังที่
https://helloskinderm.com
รวมลิ้งค์ https://opl.to/drwarayuwadee
บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Fernblock Technology แต่ละรุ่นของ Heliocare

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของผลิตภัณฑ์กันแดด Fernblock Technology แต่ละรุ่นของ Heliocare ค่ะ

Heliocare Fernblock Technology ครีมกันแดด
Heliocare Fernblock Technology

แนะนำให้ลองเลือกดูตามความเหมาะสมของผิวแต่ละคนนะคะ


อ่านบทความย้อนหลังที่
https://helloskinderm.com
รวมลิ้งค์ https://opl.to/drwarayuwadee
บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

ผื่นเกาเรื้อรัง Butterfly-shaped area

จากรูปคือ บริเวณผิวที่ปกติ บริเวณหลังส่วนบนระหว่างกระดูกสะบัก จะเห็นว่า ไม่มีผื่นเหมือนบริเวณอื่นโดยรอบ

ที่เป็นแบบนี้เพราะเป็นบริเวณที่คนไข้เอื้อมมือไปเกาไม่ถึงนั่นเองค่ะ

ส่วนผื่นในบริเวณอื่นทั่ว ๆ ที่เกิดจากการเกาเรื้อรัง ต้องไปทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจแลปเพิ่มเติมว่าเข้าได้กับโรคอะไร

Butterfly-shaped area ผื่นเกาเรื้อรัง คัน
Butterfly-shaped area 🦋 Photo credited: DOI: 10.1056/NEJMicm2114503

รูป reference จาก NEJM
DOI: 10.1056/NEJMicm2114503
ได้รับการตรวจและวินิจฉัยเป็น Chronic generalized pruritus due to chronic kidney disease ผู้ป่วยได้รับการฟอกไต อาการคัน ผื่นดีขึ้นใน 2 เดือน

ถ้าเห็นผื่นลักษณะดังกล่าว อย่าลืมมองหาภาวะต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการคันนะคะ


อ่านบทความย้อนหลังที่
https://helloskinderm.com

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.