Retinol ก่อนเริ่มต้องรู้

หลายคนทราบดีว่า นอกจากครีมกันแดด antioxidants ดี ๆ แล้ว ถ้าอยากชะลออายุผิวต้องมีวิตามินเอชนิดทาร่วมด้วยใน skincare checklists

วิตามินเอตัวที่มีข้อมูลวิจัยทางการแพทย์สนับสนุนว่าช่วยเรื่อง anti aging ได้มากสุด คือ retinoic acid (ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นยา) และพบผลข้างเคียงได้บ่อย

ส่วนกรณีชนิดที่เป็นเวชสำอางค์ (ไม่ใช่ยา) ก็มีข้อมูลว่ากลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอที่ช่วยเรื่อง anti aging ได้คล้ายคลึงกันแต่ต้องมีการเปลี่ยนเป็น retinoic acid ในร่างกายก่อนจะออกฤทธิ์ได้ แต่ข้อได้เปรียบ คือ ผลข้างเคียงเรื่องการระคายเคืองน้อยกว่ายา ทำให้หลายคนเลือกที่จะเริ่มด้วยกลุ่มนี้ และที่สำคัญสามารถใช้ในระยะยาวได้ด้วย

หากไม่เคยทาอนุพันธ์วิตามินเอมาก่อนเลย สามารถเริ่มในกลุ่ม Retinol ได้ไหม ⁉️

คำตอบ คือ ได้ค่ะ

Retinol ไม่ได้ถูกจัดเป็นยา สามารถหาซื้อได้เอง เป็นตัวที่ถูกนำมาผสมในสกินแคร์ over-the-counter อย่างแพร่หลาย 

Retinol จะถูกเปลี่ยนเป็น Retinoic acid ก่อนออกฤทธิ์ที่ผิว ทำให้ประสิทธิภาพน้อยกว่าการทากรดวิตามินเอโดยตรง (เพราะไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงก่อนออกฤทธิ์)

พื้นฐานเรตินอล retinol

มีข้อมูลหลังการทาสกินแคร์ Retinol พบว่า

ทา Retinol 0.075-0.1% นาน 2-12 เดือน (แล้วแต่งานวิจัย) พบว่า สภาพผิวจากการประเมินภาพถ่ายผิวดีขึ้นชัดเจน คือ

✔️ ริ้วรอยตื้น (fine wrinkle) ดูดีขึ้น

✔️ จุดด่างดำจากแสงแดด (photo damaged spot) ดูจางลง

ทา Retinol 0.4% และตัดชิ้นเนื้อผิวหนังและย้อมพิเศษ พบว่า

✔️ ผิวชั้นบนหนาขึ้น (Epidermal thickness)

✔️ เส้นเลือดที่ผิวชั้นหนังแท้เพิ่มขึ้น (Dermal vascularity)

✔️ เซลล์ไฟโบรบลาสต์ทำงานเพิ่มขึ้น (Dermal fibroblast activation)

อยากชะลออายุผิว

ทั้งหมดนี้ทำให้เชื่อได้ว่า ถึงแม้ topical retinol จะประสิทธิภาพไม่เท่ายาทากรดวิตามินเอ แต่ข้อมูลพบว่ามีผล antiaging ต่อผิวมนุษย์ได้จริง แต่ข้อดีของ retinol คือ ผลข้างเคียงน้อย เหมาะกับผู้เริ่มต้น ผู้มีผิวระคายเคืองง่าย

คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มใช้ retinol skincare

  1. ล้างหน้าให้สะอาดด้วย gentle cleanser แนะนำเลี่ยงการสครับผิวในช่วงที่ใช้เรตินอล
  2. เริ่มทาบาง ๆ เว้นบริเวณที่ระคายเคืองง่าย เช่น รอบตา รอบปาก ซอกจมูก 
  3. เริ่มที่ความเข้มข้นต่ำก่อน เช่น 0.3% —> 1% Retinol
  4. เริ่มปริมาณน้อย pea-sized ประมาณถั่วลันเตาทั่วหน้า 
  5. เริ่มความถี่ต่ำ เช่น 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และค่อยเพิ่มถี่ขึ้นหากไม่มีการระคายเคือง เช่น วันเว้นวัน ทุกวัน
  6. ใช้ moisturizer ที่เสริมความแข็งแรงผิว และลดการระคายเคือง และ ครีมกันแดดร่วมด้วยเสมอ
วิธีการทา retinol

❌ เลี่ยงการใช้ Retinol ในช่วงที่ออกแดดจัด, ผิวอักเสบ มีแผล 

❌ หยุดใช้เมื่อมีการระคายเคือง แสบ แดง ลอก

❌ ควรเลี่ยงการใช้ Retinol ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร

PRACTICAL POINTs

สามารถใช้ Retinol ร่วมกับ สกินแคร์อื่นที่เสริมการดูแลผิวได้ บางเว้นบางกรณีควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เช่น

Retinol & Glycolic acid

เสริมการดูแลผิวกันได้ดี ทั้งรอยดำ สิว ริ้วรอยเล็ก แต่อาจระคายเคืองได้ อาจใช้สลับวันกัน

Retinol & Hyaluronic acid, Ceramide

เสริมกันได้ดี ทาร่วมกันได้ แนะนำลง Hya ก่อน เพื่อเติมความชุ่มชื้นผิว หรือ ลง Ceramide ก่อนหรือหลัง เพื่อลดการระคายเคืองจาก Retinol

Retinol & Niacinamide

เสริมกันได้ดีเรื่องสิว ทาร่วมกันได้ และ niacinamide ยังช่วยลดการอักเสบผิวจาก retinol ได้ด้วย

Retinol & Vitamin C

เสริมกันได้ดีในเรื่อง skin texture, ริ้วรอยเล็ก, รอยดำ แต่อาจระคายเคืองได้บางคน แนะนำทาสลับวันกัน หรือ อาจทา vitamin C เช้า + retinol เย็น ก็ได้เช่นกัน

Retinol & Salicylic acid

เสริมกันได้ดีเรื่อง สิว และ คุมมัน คู่นี้เหมาะสำหรับคนผิวมันเป็นสิว แต่อาจระคายเคืองได้บางคน แนะนำทาสลับวันกัน หรือ อาจทา salicylic acid เช้า + retinol เย็น

Retinol & Peptides

เสริมกันได้ดีมากเรื่อง antiaging ลดริ้วรอย 

Retinol เรตินอล

ยกตัวอย่าง นัมเบอร์เซเว่น เรตินอล ได้ค้นพบสูตร No7 Advanced technologies เอกสิทธิ์เฉพาะจากแบรนด์นัมเบอร์เซเว่น มี Matrixyl3000 plusTM ซึ่งเป็น peptide ทรงประสิทธิภาพสามารถซึมผ่านผิวชั้นบนได้ดี ไปกระตุ้นการผลิต collagen ในผิวชั้นหนังแท้ และยังเป็นส่วนประกอบของคอลลาเจนได้อีก ส่งผลให้ริ้วรอยเล็ก ๆ ลดลง ผิวเรียบขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใช้ต่อเนื่องระยะยาว

[อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมท้ายบทความ]

BOTTOM LINE

การเลือกสกินแคร์ไม่มีสูตรตายตัว ดีที่สุด คือ ต้องเลือกให้เหมาะกับผิวของแต่ละคน เพราะสิ่งหนึ่งดีกับผิวเพื่อน อาจไม่ใช่สำหรับผิวของเรา

ด้วยความปรารถนาดี

——————————————

References

Int J Cosmet Sci. 2017 Feb;39(1):56-65.

Clin Dermatol. 2019 Jul-Aug;37(4):365-372.

——————————————

สนับสนุนบทความโดย No7 Retinol

No7 pure retinol

No7 Advanced Retinol 1.5% Complex Night Concentrate *

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสูตรกลางคืน สูตรอ่อนโยน

มี Pure retinol 0.3% แนะนำสูตรนี้สำหรับผู้เริ่มต้นใช้  

No7 Pure Retinol 1% Serum *

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสูตรกลางคืน สูตรเข้มข้น

มี Pure retinol 1% เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผิวมากขึ้น 

No7 Post Retinol Soother

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า 

แนะนำให้ใช้ หลังใช้ผลิตภัณฑ์เรตินอล เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และลดการระคายจากการใช้เรตินอล

เทคโนโลยี No7 Advanced technologies เอกสิทธิ์เฉพาะจากแบรนด์นัมเบอร์เซเว่น

▫️ Retinol Optimizer ช่วยให้เรตินอลเสถียรและซึมได้ดี

▫️ Retinol Soother ได้แก่ Niacinamide, Bisabolol และ Ceramides ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง

▫️ Metrixyl 3000plusTM เปปไทด์ช่วยเสริมการกระตุ้นการผลิต collagen ในผิวชั้นหนังแท้

*ข้อมูลจากแบรนด์ No7 พบว่า ช่วยลดสัญญาณการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ดี 

  • ริ้วรอยแลดูเรียบเนียนขึ้น
  • สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอแลดูลดลง
  • ผิวแลดูใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • รูขุมขนดูดีขึ้น
  • สภาพผิวโดยรวมดูดีขึ้นอย่างชัดเจน

ปราศจากน้ำหอม อ่อนโยนต่อผิวที่บอบบาง

การตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ขึ้นกับสภาพผิวแต่ละบุคคล

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s