
Eye cream จำเป็นไหม ?
ใช้ครีมบำรุงผิวหน้าแทนได้รึเปล่า ?
ครีมบำรุงผิวหน้าที่เรามีอยู่ในกรุมากมาย สามารถใช้แทนอายครีมได้หรือไม่ ?
บางคนบอกว่า —> ต้องมี
บางคนบอกว่า —> ไม่จำเป็น
ขอแชร์บางมุมให้ทุกคนลองอ่านประกอบการตัดสินใจค่ะ

ผิวรอบดวงตา ผิวที่บอบบาง มีโอกาสระคายเคือง แห้ง และเกิดริ้วรอยได้ง่าย ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาใช้ในบริเวณนี้ก็ควรต้องอ่อนโยนมาก ๆ
ส่วนผสมของ Eye cream ส่วนใหญ่แล้ว active ingredients จะไม่ต่างจากครีมบำรุงผิวหน้ามากนัก เพียงแต่จะผสมในความเข้มข้นที่น้อยกว่า ทั้งนี้เพื่อลดความระคายเคือง
ส่วนผสมของ Eye cream มักจะไม่มีน้ำหอม (Synthetic fragrance) เพราะถ้าพูดตรงไปตรงมาก็คือ ไม่ได้จำเป็น และยังเพิ่มโอกาสการแพ้และระคายเคืองได้มากขึ้นอีก
ส่วนผสมของ Eye cream มักจะไม่มีแอลกอฮอล์ เพราะอาจเกิดการระคายเคืองง่ายและอาจแพ้ได้
หากผิวรอบดวงตาบวมคล้ำจากการคั่งของน้ำและการไหลเวียนของเลือด
อาจสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยความเย็น ดังนั้นบางคนอาจเก็บครีมไว้ในตู้เย็น หรือใช้เจลเย็นประคบ ก็ช่วยทุเลาการบวมจากสาเหตุนี้ได้
หากผิวรอบดวงตาแห้งคล้ำและมีริ้วรอยที่เกิดจากการขยี้ตาบ่อยๆ
โดยเฉพาะในคนที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนังและจมูก อาจบรรเทาได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้น เช่น Ceramide, hyaluronic acid และหลีกเลี่ยงการขยี้ตา
หากผิวรอบดวงตามีริ้วรอยเหี่ยวย่นตามวัย
ถ้าเป็นริ้วรอยเล็กน้อยอาจช่วยทุเลาได้ด้วยสกินแคร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ เช่น Vitamin C, peptides, retinol หรืออาจใช้มอยซ์เจอไรเซอร์เพื่อดูดน้ำทำให้ผิวเต่งตึงอิ่มฟูก็สามารถทำให้ริ้วรอยลดลงได้ แต่หากเป็นริ้วรอยจากการขยับกล้ามเนื้อต้องแก้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์
หากผิวรอบดวงตามีความหมองคล้ำตามวัย
ควรเลือกสกินแคร์ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี เช่น niacinamide, vitamin C, kojic หรือส่วนผสมอื่น ๆ ลองกลับไปดูเนื้อหาส่วนผสมลดการสร้างเม็ดสีที่หมอเคยเขียนไว้
บางคนมีใต้ตาคล้ำจากโครงสร้างผิว
เช่น ที่มีไขมันน้อย หรือ โครงหน้าเบ้าตาที่ลึกโบ๋ ทำให้เกิดเงามืดจากแสง สาเหตุนี้ต้องแก้ด้วยการผ่าตัดหรือฉีดสารเติมเต็ม หรือปัญหาถุงใต้ตา การใช้ครีมก็อาจไม่ช่วยอะไร
การสูบบุหรี่ และ แสงแดด เป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้มีริ้วรอยและรอยคล้ำรอบดวงตาได้ ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยทั้งสอง
อายุที่เหมาะกับการเริ่มบำรุงผิวรอบดวงตา คือ 20 ปี โดยเน้นสกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นเป็นหลัก เช่น กลุ่มที่มีส่วนผสมของ hyaluronic acid, squalane, ceramide, glycerin
ประสิทธิภาพของ Topical Caffeine เรื่องช่วยเรื่องการหดตัวเส้นเลือดบริเวณรอบดวงตา เพื่อหวังผลลดการบวมคล้ำที่ใต้ตาได้นั้น ยังมีข้อถกเถียงในรูปแบบทา มีทั้งบอกว่าได้ผลและไม่ได้ผล ส่วนในรูปแบบ 3% Caffeine pad มีงานวิจัยบอกว่าได้ผลหลังจากแปะก่อนนอนติดต่อกัน 1 เดือน ก็ขึ้นกับวิจารณญาณส่วนบุคคลร่วมกับรอข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคตต่อไป
สรุปว่าอายครีมจำเป็นไหม ⁉️
ถ้าหากถามความเห็นส่วนตัวหมอคิดว่าคงไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องมีทุกคน …
เพราะหากเรามีครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยนตามข้างต้นอยู่แล้ว ก็สามารถนำมาทาบาง ๆ รอบดวงตาได้เลย หากไม่มีปัญหาอะไร อาจจะไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อเพิ่มก็ได้ค่ะ
แต่ถ้าหากใครที่อยากใช้อายครีมแยกหลอดเฉพาะเจาะจง หรือไม่สามารถใช้ครีมบำรุงผิวหน้าได้ ก็ลองมองหาอายครีมส่วนผสมที่แก้ปัญหาได้ตรงจุดตามที่แนะนำไปค่ะ
หากไม่แน่ใจว่าคุณมีปัญหาผิวรอบดวงตาที่เกิดจากสาเหตุไหน ?
- ปัญหาริ้วรอยและหมองคล้ำจากวัย
- ปัญหาหมองคล้ำและริ้วรอยจากการขยี้ตาบ่อย ๆ เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง
- ปัญหาหมองคล้ำจากสีเข้มของเส้นเลือด
- ปัญหาเงามืดใต้ตา จากโครงสร้างใบหน้า
- ปัญหาหลาย ๆ อย่างรวมกัน
แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผิวหนังช่วยวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างตรงจุดนะคะ
บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.