Category Archives: Aesthetics

The impact of airborne pollution on skin

โพสนี้สำหรับใครที่อยากปกป้องผิวจากการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย ‼️

วันนี้หมอจะเน้น 9 ข้อสั้น ๆ ให้เห็นถึงความสำคัญของการปกป้องผิวจาก มลภาวะทางอากาศ เพิ่มเติมจากการป้องกันแดดค่ะ เพราะเชื่อว่าทุกคนที่ติดตามเพจอยู่ คงรู้หมดแล้วว่ากันแดดสำคัญขนาดไหน


Reference

The impact of airborne pollution on skin
JEADV vol 33 issue 8
First published: 21 March 2019

รวมลิ้งค์ https://linktr.ee/drwarayuwadee

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Step เลือกสกินแคร์เริ่มแบบนี้

Skincare Routine Step​ เริ่มต้นเลือกสกินแคร์
Skincare Routine Step
Skincare routine

Step 1

เช็คสภาพผิวของตัวเองก่อน และต้องเช็คเรื่อยๆ เพราะสภาพผิวสามารถเปลี่ยนได้

https://www.facebook.com/476743752739537/posts/994477387632835/?d=n

https://youtu.be/tjEx82EuhLU

Step 2

เลือกสกินแคร์เบสิคที่ควรมีให้ครบก่อน
หลังจากนั้นใช้ไป 1-2 เดือน มาดูยังเหลือปัญหาอะไรที่อยากแก้ไขเพิ่มเติม

Step 3

เลือกสกินแคร์แก้ไขปัญหาของแต่ละบุคคล เช่น
ผิวขาดน้ำ -> เติมน้ำ เติม hya
ผิวแห้งระคายเคือง -> เลือกส่วนผสมลดการระคายเคือง ส่วนมากจะรวมในมอยเจอไรเซอร์ ลองเลือกดู
ผิวชรา -> เน้นเพิ่ม antioxidant, กลุ่มวิตามินเอหรืออนุพันธ์ (ถ้าใช้ยาอยู่แล้วก็อาจไม่จำเป็นต้องเพิ่มสกินแคร์วิตามินเอก็ได้)
ผิวหมองคล้ำ รอยดำ ฝ้ากระ -> เน้นกันแดด เพิ่มกลุ่ม Lightening

Step 4

มองหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเอง สามารถดูในลิ้งค์ HELLOSKINDERM หรือ QR code แล้วแบ่งการทาเป็นเช้าเย็น ดังรูป

ปล. ผลิตภัณฑ์ในลิ้งค์เป็นเพียงตัวอย่างเพียงส่วนหนึ่งที่คัดมาแล้ว ให้สำหรับคนไม่มีเวลาหาข้อมูลค่ะ และจะมีการอัพเดทผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทุก 1 เดือน

#saveไว้ได้ใช้แน่


บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

รวมส่วนผสมชะลอผิวแก่ในครีมกันแดด

ส่วนผสมชะลอผิวแก่ในครีมกันแดด

ส่วนผสมที่เติมในครีมกันแดดแล้วเสริมการปกป้องผิวในครีมกันแดดได้มีข้อมูลอะไรบ้าง

Additives in sunscreen

การเผชิญกับ UV และ VL เป็นเวลานาน สามารถกระตุ้นให้มีการเพิ่มขึ้นของ ROS, MMPs และมีการทำร้าย DNA ที่ผิวหนังได้ ดังนั้น การทาครีมกันแดดสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งค่ะ

อ่านเจอข้อมูลงานวิจัยที่พูดถึงสารต่าง ๆ ที่นำมาผสมในครีมกันแดดเลยนำมาแบ่งปัน
ส่วนใหญ่วัตถุประสงค์ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการทำร้ายผิวจากสารอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสียูวี และเพื่อชะลอการเกิดผิวชราจากแสงแดด หรือ ที่เราเรียกว่า Photoaging นั่นเอง

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ถูกยกขึ้นมากล่าวถึงมากที่สุด เพราะเชื่อว่าช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นได้ เช่น

Vitamin C (L-ascorbic acid)

ตัวนี้สลายง่ายที่ค่า pH ปกติที่ผิวหนังเรา จึงเห็นมักผสมกับตัวอื่นเพื่อให้คงตัวมากขึ้น เช่น Vitamin E, Ferulic acid
โดย vitamin C จะเป็น cofactor ในกระบวนการ collagen synthesis และลดการสะสมของ elastin ได้

Vitamin E

มีข้อมูลว่าช่วยลด lipid peroxidation, photoaging, immunosuppression และ photocarcinogenesis

Retinoids

ช่วยยับยั้ง activation of protein-1 & MMP-1 expression ผลคือ กระตุ้นการสร้างคอลาเจน ผิวหนาขึ้นและแข็งแรงขึ้น แต่เนื่องจากความไม่คงตัวของกลุ่มนี้ ทำให้สลายได้ง่ายเมื่อถูกรังสี UV, VL จึงไม่ค่อยเห็นผสมในครีมกันแดดบ่อยนัก อาจเห็นพวกที่รูปแบบค่อนข้างเสถียรกว่า retinoids เช่น Retinyl
palmitate ที่มักผสมในสกินแคร์ต่าง ๆ โดยมักทำเป็น liposome เพื่อให้คงตัวมากขึ้น แต่ประสิทธิภาพก็อาจด้อยกว่า tretinoin or retinol
ส่วนประเด็น retinyl palmitate เมื่อถูกยูวีแล้วจะทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมาหรือไม่ ยังไม่ชัดเจน อันนี้ยังต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป

Polyphenols

พบใน botanicals เช่น tea leaves, grape seeds (Vitis vinifera), blueberries, almond seeds, and pomegranate extract พวกนี้จะมีสารที่เรียกว่า epigallocatechin-3-gallate ซึ่งช่วยลด MMP-1 ตัวทำร้ายคอลาเจน และตัวมันเองสามารถเพิ่ม SPF ได้ร่วมด้วยนิดหน่อย

Soy extracts

มีข้อมูลว่า soybean-derived serine protease inhibitors ช่วยลดรอยดำ และริ้วรอยเล็ก ๆ ตื้น ๆ ที่ผิวได้

Melatonin

ช่วยปกป้องเซลล์ผิว keratinocytes, melanocytes, and fibroblasts และป้องกัน UV-induced photoaging ได้

Algae extract

บางชนิดนอกจากพบว่าดูดซับรังสียูวีได้ ยังช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระที่ผิวได้ พบว่า Mycosporine-like amino
acids (MAAs) จาก algae ยังเป็น potent UV filters โดย maximum absorption 310 และ 362 nm ทีเดียว นอกจากนั้นยังอาจได้ยินชื่อ เช่น Porphyra umbilicalis, Corallina pilulifera methanol extract แต่กลุ่มนี้ยังอาจมีประเด็นถกเถียงเรื่อง eco-friendly photoprotection คงต้องติดตามต่อไปในอนาคต

Polypodium leucotomos extract (PLE)

ตัวนี้มีข้อมูลทั้งรูปแบบทา และ กิน ว่าช่วยได้ทั้ง antioxidative, chemoprotective, immunomodulatory,
and anti-inflammatory effects เรื่องสารตัวนี้เคยทำคลิป ลองไปดูเพิ่มเติมได้ค่ะ
https://youtu.be/DCOx4HMN_a4

ตัวอื่นที่มีข้อมูลว่าช่วยลด MMP-1 expression ได้ ก็เช่น
Caffeine
Echinacea pallida extract
Gorgonian extract
Chamomile essential oil

นอกจาก oxidants แล้วก็ยังมี Photolyases ที่ถูกนำมาผสมครีมกันแดด เพราะสามารถช่วย DNR repair ได้ ส่งผลให้มี photoprotective effects และ anti-oxidants ได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม การผสมสารเหล่านี้เข้าในครีมกันแดดแต่ละแบรนด์นั้นไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพออกมาดีเท่ากันเสมอไป จะดูแค่ว่า..มีหรือไม่มีชื่อเหล่านี้ในส่วนผสมอาจไม่พอ เพราะยังคงต้องดูในรายละเอียดเรื่อง ความเข้มข้นที่มากพอ, ความสามารถในการซึมผ่านผิวชั้น Stratum corneum และ ความคงตัวของครีมกันแดดตัวนั้นในที่สุดด้วยเช่นกัน

สุดท้ายแล้ว ก็อยากให้ทาครีมกันแดดกันสม่ำเสมอ เพราะนอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายด้วยรังสียูวี ป้องกันมะเร็งผิวหนังแล้ว ยังช่วยเรื่องชะลอผิวเสื่อมชราด้วยนะคะ..สภาพ

หวังว่าจะชอบบทความนี้กันนะคะ ถ้าชอบก็สามารถไลค์ เลิฟ แชร์ เป็นกำลังใจให้ด้วยน๊าค๊า


Reference
Guan, L.L., Lim, H.W. & Mohammad, T.F. Sunscreens and Photoaging: A Review of Current Literature. Am J Clin Dermatol 22, 819–828 (2021). https://doi.org/10.1007/s40257-021-00632-5

รวมลิ้งค์ https://linktr.ee/drwarayuwadee

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

แบบไหนเรียก “สิวจากแมสก์” Maskne

ช่วงเวลานี้เลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องใส่แมสก์เวลาจะไปไหนมาไหน แต่เราทราบกันว่าจะต้องปฏิบัติตัวดูแลผิวอย่างถูกวิธีอย่างไรเพื่อลดโอกาสการเกิด ผื่นแพ้ หรือ สิวจากการใส่แมสก์

โดยวัตถุประสงค์ของโพสนี้ คืออยากเล่าให้ฟังว่า กลไกทำไมสิวจึงเกิดเห่อขึ้นมา แต่ยังคงเน้นย้ำเสมอว่าการใส่แมสก์นั้นมีเหตุผลเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโรค และเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ที่ควรปฏิบัติ เมื่อเทียบกับเรื่องสิวค่ะ

รู้ไหมว่า..???

1. สิวจากการใส่แมสก์อาจเกิดในคนที่ไม่เคยเป็นสิวมาก่อนในชีวิตก็ได้ ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยว่าทำไมอยู่ดี ๆ ถึงเพิ่งจะมีสิวในตอนนี้

2. สิวจากการใส่แมสก์ อาจเกิดในคนที่กำลังรักษาสิวอยู่ และสิวสงบดี เพราะสภาพแวดล้อมใต้แมสก์เปลี่ยนไปสิวจึงเห่อขึ้นได้ ฉะนั้น อย่าเพิ่งโทษว่าดื้อยาหรือยาไม่ได้ผล แนะนำให้ลองปรับที่การดูแลผิวก่อนเลยอันดับแรก

3. สิวจากการใส่แมสก์ อาจพบมีอาการคันร่วมด้วยได้ และหลาย ๆ คนจะมีหน้ามันมากขึ้น ฉะนั้น ถ้าคันก็อาจทานยาแก้คัน และอาจปรับผลิตภัณฑ์ล้างหน้าหรือสกินแคร์เป็นกลุ่มที่ช่วยควบคุมความมันร่วมด้วย

4. มีงานวิจัยพบว่า การใส่แมสก์ต่อเนื่องเกิน 4 ชั่วโมงต่อวันขึ้นไป ทำให้อุณหภูมิผิวเพิ่มขึ้น และทุก ๆ 1°C ที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ squalene ที่ผิวเพิ่มขึ้น และมีการหลั่งน้ำมันผิวมากขึ้น 10% ส่งผลให้สิวเห่อตามมาได้มากขึ้นกว่าเดิม ฉะนั้น หากอยู่ในที่โปร่ง หรืออยู่บ้านคนเดียว อาจเปิดแมสก์เพื่อระบายอากาศบริเวณผิวใต้แมสก์เป็นช่วงๆ ก็ช่วยได้

5. นอกจากนั้น การใส่แมสก์ต่อเนื่องนาน ๆ จะทำให้ความชื้นที่ผิวเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้เซลล์ keratinocyte ที่ผิวและรูขุมขนบวมขึ้น จึงมีโอกาสเกิดรูขุมขนอุดตันและทำให้สิวเห่อตามมาได้อีกด้วย

6. สิวที่เกิดจากการใส่แมสก์ มักเป็นสิวอุดตันหรือตุ่มแดง ไม่ค่อยพบว่าเป็นสิวที่อักเสบนูนแดงรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่มีการติดเชื้อแทรกซ้อนตามมา

7. สิวจากการใส่แมสก์ มักเป็นที่บริเวณแก้มและจมูกเป็นส่วนใหญ่ หรือหากดูจากรูปก็คือบริเวณ O-zone เพราะเป็นบริเวณสัมผัสแมสก์ แต่มักจะไม่พบบริเวณหน้าผาก ใต้คาง หรือคอ

8. สิวจากการใส่แมสก์ อาจเกิดหลังจากใส่แมสก์ไปแล้วเป็นเดือน – หลายเดือน จนบางครั้งเราอาจไม่นึกว่าเป็นจากการใส่แมสก์ บางทีมีอาการคันร่วมด้วยนึกว่าแพ้จึงไปซื้อยาสเตอรอยด์มาทา ก็อาจทำให้สิวยิ่งเห่อหนักขึ้นไปอีก

9. Ideal Face Mask ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดสิว มีการ propose ไว้ดังรูปค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม เราคงต้องคำนึงถึงปัจจัยเรื่องการป้องกันโรคติดต่อร่วมด้วย การเลือก mask เป็นเพียงส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันเท่านั้น

การใส่แมสก์ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่อยากให้ละเว้น แต่เรามีวิธีปฏิบัติตัวเพื่อลดความรุนแรงของการเกิดสิวได้ และหากสิวเห่อแล้ว ก็มีวิธีรักษาดูแลได้เช่นกัน ดังนั้น อย่ากลัวการใส่แมสก์เลยนะคะ

หากไม่แน่ใจว่าคุณเป็นผื่นแพ้หรือสิวจากการใส่แมสก์ แนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางช่วยตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมนะคะ

▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️

References:

Diagnostic and management considerations for “maskne” in the era of COVID-19
J Am Acad Dermatol. 2021 Feb; 84(2): 520–521.

Increased flare of acne caused by long-time mask wearing during COVID-19 pandemic among general population.
Dermatol Ther. 2020 Jul; 33(4): e13704.

Seasonal aggravation of acne in summers and the effect of temperature and humidity in a study in a tropical setting. J Cosmet Dermatol. 2019 Aug; 18(4): 1098-1104.

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

ทาครีมเท่าไหร่..ให้เห็นผลและไม่สิ้นเปลือง

ปริมาณการทาครีมเท่าไหร่ที่เห็นผลและไม่สิ้นเปลือง ⁉️

ความจริงแล้วไม่มีปริมาณที่ระบุเป๊ะ ๆ ตายตัวที่แน่นอน เพียงแค่ว่า.. ปริมาณที่แนะนำนั้นควรตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า ….

ไม่มากเกินไป -> จนก่อให้เกิดการระคายเคืองและภาวะแทรกซ้อน และหากเป็นการทาตอนเช้า ก็อาจทำให้แต่งหน้าต่อได้ยากขึ้นอีกด้วย

ไม่น้อยเกินไป -> จนทาไปแล้วก็ไม่ได้ผล ไม่ต่างกับไม่ทาอะไรเลย

Sunscreen

ใช้มากกว่าครีมทั่วไป เพื่อการปกป้องที่ได้ผล อันนี้ต้องยอมลงทุน เพราะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ถ้าให้เลือกทาอย่างเดียวก่อนออกจากบ้าน สำหรับหมอเองก็คงต้องเป็นครีมกันแดดแน่นอนค่ะ ทราบไหมว่า..การทากันแดดอย่างถูกวิธี ช่วยให้หน้าขาวใสขึ้นได้ และป้องกันฝ้า กระ มะเร็งผิวหนังได้ด้วย ลองดูนะคะ

Vitamin A derivatives cream

ใช้แต่น้อยก็เห็นผล พวกนี้ต้องอาศัยความต่อเนื่องและใช้เวลา อย่างน้อยก็ 3 เดือนขึ้นไป ต้องทาไปเรื่อย ๆ และใจเย็น อย่ากลัวว่าจะไม่ได้ผลโดยการทาทีละมาก ๆ การทามาก ๆ จะทำให้มีผลข้างเคียงมากกว่าผลดี ส่วนใครที่ระคายเคืองมากก็อาจต้องลดปริมาณหรือทาเพียงบางบริเวณไปสักระยะ

Serum

กลุ่มนี้ทำมาเข้มข้นมากอยู่แล้ว ต่างจากพวกน้ำตบ โลชั่น หรือโทนเนอร์ ดังนั้น ใช้แต่พอเหมาะ ไม่ต้องเยอะมาก เยอะมากไปอาจระคายเคืองและสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ใช้เพียง 2-3 หยด แต้ม 5 จุดแล้วเกลี่ยบางๆ รีบทาเพราะซึมเร็ว พวก oil-based จะใช้น้อยกว่า water-based เนื่องจากเนื้อครีมที่หนากว่า คนหน้าใหญ่อนุโลม +1 หยดได้

Cleanser

ไม่ต้องใช้เยอะ เอาพอเหมาะ เยอะเกินไปจะชำระล้างไขมันหรือสารต่าง ๆ ที่เคลือบผิวออกไปหมด สุดท้ายผิวแห้ง เกิดการระคายเคืองได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันอย่าใช้น้อยไป เพราะอาจทำให้ชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปหมด เกิดสิวอุดตันตามมา

Eye cream

ไม่ต้องเยอะมาก เมล็ดถั่วเขียวต่อตา 1 ข้างเพียงพอสำหรับผิวที่บอบบาง ตอนทาควรใช้นิ้วนาง เพื่อลดการลงน้ำหนักตอนทาที่มากเกินไป บริเวณนี้เน้นเบาๆ ทาแรงไปอาจเกิดริ้วรอยตามมา

Scrub

ใช้เฉพาะบางราย ไม่แนะนำให้ใช้ทุกคน และการสครับควรเว้นบริเวณรอบตา รอบปาก ข้างจมูก บริเวณที่บอบบาง เพราะอาจระคายเคืองได้

Facial Mask

ไม่ต้องใช้ทุกราย ถ้าครีมเพียงพอแล้ว อาจไม่ต้องมาสก์ก็ได้

อย่าลืมว่าผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน คำแนะนำข้างต้นนี้เพื่อเป็นไอเดียให้ลองนำไปปรับใช้ในการดูแลผิวกันนะคะ ได้ผลยังไงมาเล่าสู่กันฟังได้เลย

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

ลองสำรวจดูว่ามีผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ มี BHA ซ้ำซ้อนกันในเวลาเดียวกันหรือไม่ ⁉️

BHA เช่น Salicylic acid, Lipohydroxy acid
ละลายได้ดีในไขมัน มีคุณสมบัติเด่นคือ

• ซึมผ่านบริเวณรูขุมขนลงไปผิวหนังชั้นที่ลึกกว่าได้ (Deep penetration through the lipid barrier of epidermis) ซึ่งเป็นสิ่งที่ AHA ทำไม่ได้
• ละลายสิวที่อุดตัน (Comedolytic effect)
ผลที่ตามมา คือ ทำให้สิวอุดตันลดลง
• ลดการสร้าง sebum (Minimized sebum production)
ผลที่ตามมา คือ ควบคุมความมันของผิว
• ออกฤทธิ์ลดการอักเสบได้ (Anti inflammatory effect)
ผลที่ตามมา คือ ช่วยลดการอักเสบของสิว ส่งผลให้เกิดรอยดำหลังการเกิดสิวลดลงตามมา

ดังนั้น BHA เหมาะสำหรับคนที่ปัญหาผิว ดังนี้
▫️สิวทุกชนิด ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน (Inflammatory and comedonal acne)
▫️หน้ามัน (Oily skin)

ส่วนคนที่ผิวแห้งหรือระคายเคืองง่าย ถ้าอยากใช้ BHA แนะนำว่าให้เลือกแบรนด์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการระคายเคืองและเพิ่มความความชุ่มชื้นร่วมด้วย หรือเลือก BHA รูปแบบที่ระคายเคืองน้อย โดยจะดูที่ปริมาณ % เท่านั้นไม่ได้ค่ะ เช่น Betaine Salicylate 4% เทียบผลแล้วอาจได้ประมาณ 1-2% Salicylic acid เป็นต้น ไว้จะมาเล่าให้ฟังทีหลัง

โพสนี้ไม่ได้เล่าละเอียดในส่วนผสมของแต่ละผลิตภัณฑ์ เพียงแต่มีหลายครั้งที่ชอบเจอคำถามว่าใช้ตัวหนึ่งทาทับกับอีกตัวได้ไหม อยากให้ลองสำรวจดูว่ามีผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ BHA ซ้ำซ้อนกันในเวลาเดียวกันหรือไม่ ถ้ามีก็ควรจะแยกเวลาใช้ หรือ เลือกตัวใดตัวหนึ่ง ก็จะช่วยลดผลข้างเคียงได้ค่ะ


ดูคลิป AHA & BHA เพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้
https://youtu.be/svfWKAe8niQ


บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

สิว 13 vs สิว 30 [รายการ Single Being Podcast]

สิววัยรุ่นกับสิววัยผู้ใหญ่ต่างกันไหม ลองมาฟังได้ในลิ้งค์นี้ค่ะ

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ Single Being และ พี่ผิง พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล ที่ชวนไปพูดคุยในคลิปนี้ค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังประสบปัญหาสิวอยู่นะคะ

7 สกินแคร์พื้นฐานที่ควรมี

แชร์ไอเดีย Step 1 เบสิคพื้นฐาน

❌ หากทาสกินแคร์เหมือนกัน 2 ชิ้นทับกัน แนะนำเอาออกไป 1 เช่น F วิตามินซีมา 3 ยี่ห้อ ทาทับ ๆ กันหลายชั้นอาจดูเป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น

❌ หากขาด แนะนำหาเพิ่มชิ้นเดียวพอค่ะ ไม่ต้องกวาดหรือ F มาหลายยี่ห้อให้สิ้นเปลือง ทดลองทีละขวดถ้าไม่ถูกใจค่อยเปลี่ยนใหม่

✅ บางอันผสมในชิ้นเดียวกันแล้ว ช่วยลดขั้นตอนได้ เช่น ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มี antioxidant รวมอยู่

✅ โพสนี้พื้นฐานแบบไม่มีปัญหาผิวอะไรต้องแก้เพิ่มเติม ถ้ามีปัญหาอื่น เช่น สิว ฝ้า รอยดำ ริ้วรอย ต้องเพิ่มสเต็ปถัดไป ถ้าครบพื้นฐานแล้ว -> รออ่าน Step 2

สรุปเบสิค

☀️ตอนเช้า
เน้นบำรุง ปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด จึงต้องเน้นครีมกันแดด และ antioxidants
🌙 ก่อนนอน
เน้นบำรุง แก้ไขปัญหา ซ่อมแซมผิว ฟื้นฟู จึงควรเน้นกลุ่มที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ เช่น วิตามินเอ

ไหนขอดูรูทีนของแต่ละคนหน่อยซิ

เคล็ดลับการดูแลผิวที่มือ

มือแห้งอันตรายกว่าที่คิด
เจลแอลกอฮอล์อาจติดไฟใช้อย่างระวัง 🔥🔥🔥

ไม่มีหลักฐานการติดเชื้อจากเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

แต่มีหลักฐานการติดเชื้อจากมือแห้งแตกหลังการล้างมือ

โพสนี้สรุปการดูแลผิวที่มือ นำไปปรับเลือกผลิตภัณฑ์ได้เลย และอีกอย่างคือ

ในทางทฤษฎี มีงานวิจัยระบุไว้ชัดเจนว่า การล้างมือบ่อยกว่า 8-10 ครั้งต่อวัน ทำให้เพิ่มโอกาสการเกิดมือแห้งอักเสบได้ และมาในวันนี้ การล้างมือบ่อย ๆ เป็นสิ่งจำเป็นที่เลี่ยงไม่ได้ที่ทุกคนต้องทำ

ผลที่ตามมาคือ มือแห้ง ลอก อักเสบ ซึ่งจะทำให้โครงสร้างในการปกป้องผิวสูญเสียหน้าที่ไป ผลคือ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่มือมากขึ้น

สรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับวิธีการดูแลผิวที่มือ

( เพิ่มเติมจากการล้างมือให้ถูกวิธี 20 วินาที )
ให้ทุกคนนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ดังนี้

1. ใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นก็ได้

ไม่มีผลต่อการกำจัดเชื้อโรค เพียงแค่ล้างให้ถูกวิธีและล้างให้นานพอ แต่ไม่แนะนำน้ำที่ร้อนเกินไป

2. ผลิตภัณฑ์ล้างมือ

ควรใช้ในรูปแบบที่เหมาะสมและปริมาณมากเพียงพอในแต่ละครั้ง

• กรณีใช้ alcohol ชนิดที่ไม่ต้องล้างออก และหวังผลในเรื่องการฆ่าเชื้อด้วย แนะนำเป็น gel ดีกว่า spray เนื่องจากเราต้องการ contact time ในการออกฤทธิ์ที่นานพอ
• หากมือสกปรก ควรล้างสิ่งสกปรกออกก่อน
• ควรมีส่วนผสมของสารเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น glycerin, aloe vera
• ปริมาณที่ใช้ ต่อการล้างมือ 2 ข้าง 1 ครั้ง คือ 3-5 ml (ประมาณ 0.5-1 ช้อนชา) ขึ้นกับขนาดของมือว่าเล็กหรือใหญ่
• Alcohol ติดไฟได้ หลังจากใช้โดยเฉพาะชนิดที่ไม่ต้องล้างออก ควรรอให้แห้งก่อนเข้าใกล้ไฟ เช่น ทำอาหาร สูบบุหรี่

3. หลังล้างมือ

ใช้ผ้าสะอาดซับหรือเป่าด้วยเครื่องเป่าลม และรีบทาครีมบำรุงทันทีตอนขณะที่มือยังมีความชุ่มชื้นจากน้ำอยู่ จะทำให้ครีมมีประสิทธิภาพมากกว่าการทาครีมบำรุงตอนมือแห้งสนิทแล้ว

4. ใช้ Hand cream ที่เหมาะสม

• แนะนำแบบ Cream หรือ Oil-based ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีกว่าแบบ gel เพราะแบบเจลจะทำให้มีการระเหยสูญเสียน้ำออกจากผิว ผลคือผิวจะยิ่งแห้ง
• หากใช้เป็นกลุ่ม Barrier cream ได้จะดีมาก
• เลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ระบุ Anti-aging เนื่องจากมักมีสารผลัดเซลล์หรือกลุ่ม retinol ที่มักก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม เพราะอาจแพ้ได้
• แนะนำส่วนผสมที่มี Petrolatum, urea, dimethicone, olive oil, shea butter
• แนะนำผลิตภัณฑ์ที่บรรจุในหลอดมากกว่าขวดปั๊ม เพราะบรรจุมิดชิดกว่า

5. การใส่ถุงมือหลังทาครีมตอนก่อนนอน

เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีมได้ดี เนื่องจากเสมือนเป็น Occlusive effect

สรุปโพสนี้อยากบอกว่า

✔️ การล้างมืออย่างถูกวิธี ที่ทุกท่านทราบกันดีว่า ล้างอย่างน้อย 20 วินาที และล้างให้สะอาดตามขั้นตอน สามารถช่วยชะล้างสิ่งสกปรกบนผิวมือได้ แต่เท่านี้อาจไม่เพียงพอ

✔️ การดูแลผิวที่บริเวณมือก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะสามารถช่วยป้องกันผลเสียที่ตามมาจากการล้างมือบ่อย ได้แก่ ผิวอักเสบ ผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย จนเกิดการเจ็บปวด เป็นบ่อเกิดของการติดเชื้อแทรกซ้อนทั้งแบคทีเรียและเชื้ออื่นๆจากการไปสัมผัสตามมาได้


บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.