Tag Archives: dermatologist

ลองสำรวจดูว่ามีผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ มี BHA ซ้ำซ้อนกันในเวลาเดียวกันหรือไม่ ⁉️

BHA เช่น Salicylic acid, Lipohydroxy acid
ละลายได้ดีในไขมัน มีคุณสมบัติเด่นคือ

• ซึมผ่านบริเวณรูขุมขนลงไปผิวหนังชั้นที่ลึกกว่าได้ (Deep penetration through the lipid barrier of epidermis) ซึ่งเป็นสิ่งที่ AHA ทำไม่ได้
• ละลายสิวที่อุดตัน (Comedolytic effect)
ผลที่ตามมา คือ ทำให้สิวอุดตันลดลง
• ลดการสร้าง sebum (Minimized sebum production)
ผลที่ตามมา คือ ควบคุมความมันของผิว
• ออกฤทธิ์ลดการอักเสบได้ (Anti inflammatory effect)
ผลที่ตามมา คือ ช่วยลดการอักเสบของสิว ส่งผลให้เกิดรอยดำหลังการเกิดสิวลดลงตามมา

ดังนั้น BHA เหมาะสำหรับคนที่ปัญหาผิว ดังนี้
▫️สิวทุกชนิด ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน (Inflammatory and comedonal acne)
▫️หน้ามัน (Oily skin)

ส่วนคนที่ผิวแห้งหรือระคายเคืองง่าย ถ้าอยากใช้ BHA แนะนำว่าให้เลือกแบรนด์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการระคายเคืองและเพิ่มความความชุ่มชื้นร่วมด้วย หรือเลือก BHA รูปแบบที่ระคายเคืองน้อย โดยจะดูที่ปริมาณ % เท่านั้นไม่ได้ค่ะ เช่น Betaine Salicylate 4% เทียบผลแล้วอาจได้ประมาณ 1-2% Salicylic acid เป็นต้น ไว้จะมาเล่าให้ฟังทีหลัง

โพสนี้ไม่ได้เล่าละเอียดในส่วนผสมของแต่ละผลิตภัณฑ์ เพียงแต่มีหลายครั้งที่ชอบเจอคำถามว่าใช้ตัวหนึ่งทาทับกับอีกตัวได้ไหม อยากให้ลองสำรวจดูว่ามีผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ BHA ซ้ำซ้อนกันในเวลาเดียวกันหรือไม่ ถ้ามีก็ควรจะแยกเวลาใช้ หรือ เลือกตัวใดตัวหนึ่ง ก็จะช่วยลดผลข้างเคียงได้ค่ะ


ดูคลิป AHA & BHA เพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้
https://youtu.be/svfWKAe8niQ


บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Rosacea โรคหน้าแดงเวลามีปัจจัยกระตุ้น 🌶🌶

บางคนสงสัยว่าจะเป็น Rosacea หรือไม่ ???

สำหรับคนที่มีอาการหน้าแดงเวลามีปัจจัยกระตุ้น เช่น ความร้อน แสงแดด ทานอาหารรสจัด แอลกอฮอล์หรือความเครียด โดยมักมีอาการแดงของใบหน้าบริเวณตอนกลางของใบหน้า จมูก แก้ม อาจมีตุ่มสิวอักเสบ เส้นเลือดขยายตัว แสบหน้า บางครั้งมีอาการแสบตา เคืองตา น้ำตาไหล ร่วมด้วย ภาวะนี้เราเรียกว่า โรคโรซาเชีย

ภาวะนี้ไม่ใช่โรคติดต่อ สาเหตุไม่ทราบแน่ชัด เชื่อว่าบางส่วนเกิดจากพันธุกรรม และมีรายงานว่าเกิดจากตัวไรบนใบหน้า ที่ชื่อ Demodex ทำให้เกิดผิวอักเสบขึ้นมา

หากมีอาการดังกล่าว ร่วมกับมีผื่นดังรูป ควรเข้าพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง

สิ่งที่พึงปฏิบัติคือ หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น แสงแดด อาการร้อนจัด เย็นจัด เลี่ยงการดื่มหรือรับประทานอาหารรสจัด, เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ใช้ครีมกันแดดสม่ำเสมอ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่าย

การรักษาอื่นๆร่วมด้วยที่ต้องได้รับการพิจารณาโดยแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง ในภาวะนี้รักษาได้หลายวิธี เช่น

• ยาทาในกลุ่มยาฆ่าเชื้อ clindamycin, erythromycin, metronidazole, azelaic acid

• ยารับประทานในกลุ่มยาฆ่าเชื้อ tetracycline

• ยากินกลุ่มเรตินอยด์

• เลเซอร์เพื่อลดรอยแดงและลดเส้นเลือด เช่น IPL, KTP, PDL

หากไม่รักษาอย่างถูกต้อง อาจเกิดผลที่ตามมาคือ จมูกผิดรูป, ผิวหน้าหนาขรุขระ มีภาวะแทรกซ้อนทางตารุนแรงได้ เช่น กระจกตาอักเสบ

โรคโรเซเชีย เป็นโรคเรื้อรัง รักษาหายแล้วก็กลับมาเป็นได้ใหม่อีก การกลับเป็นซ้ำขึ้นกับการดูแลเอาใจใส่และป้องกันปัจจัยเสี่ยงของแต่ละบุคคลค่ะ

หากสงสัยว่าเป็นโรคนี้ อย่าลืมไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังเพื่อรับการรักษาและคำแนะนำที่ถูกต้องนะคะ

ดูคลิปเรื่อง โรเซเชีย ได้ที่นี่ https://youtu.be/u7PpGBuqDh4

▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️
อ่านเพิ่มเติม https://www.jaad.org/article/S0190-9622(17)32297-1/fulltext

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Fernblock หรือ Polypodium leucotomos extract ปังจริงไหม ❓

โพสนี้รวมคำถามที่มีหลายคนถามเข้ามาเรื่อย ๆ เกี่ยวกับ Polypodium Leucotomos Extract ลองอ่านกันดูค่ะ

1️⃣ Fernblock คืออะไร ❓

Fernblock® Technology เป็นลิขสิทธิ์นวัตกรรมในการสกัด Polypodium Leucotomos Extract ซึ่งเป็น hydrophillic natural extract ซึ่งพืชชนิดเฟิร์นที่มีจุดกำเนิดในอเมริกากลาง มีคุณสมบัติพิเศษในการพัฒนากลไกการป้องกันแสงแดดด้วยตัวเอง ด้วยวิวัฒนาการจากพืชน้ำขึ้นมาเจริญเติบโตอยู่บนบกได้

Fernblock® Technology คิดค้นโดย Dr. Fitzpatrick และทีมแพทย์ Harvard Medical School ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า Dr. Fitzpatrick นั้นถือเป็นบิดาของวิทยาการแพทย์ผิวหนังสมัยใหม่ (Founder of Modern Dermatology) โดยท่านได้ริเริ่มเขียนตำราเรียนผิวหนังที่ได้รับการยอมรับและเชื่อว่าแพทย์ผิวหนังไทยทุกคนและทั่วโลกจะต้องเรียนตำราเล่มนี้ นอกจากนั้นท่านยังค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับ Photomedicine และได้รับสมญานามว่าเป็นบิดาแห่งการฉายแสงอีกด้วย

Polypodium Leucotomos Extract บางทีอาจเห็นเรียกย่อว่า PLE มีการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัย ทั้งในหลอดทดลอง (in vitro) สัตว์ทดลอง (in vivo) และ งานLiวิจัยทางคลินิกในมนุษย์ (Clinical Trial) ที่ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์กว่า 60 ฉบับเลยทีเดียว

2️⃣ PLE มีข้อมูลการศึกษาอะไรในทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับผิวหนังบ้าง ❓

PLE มีส่วนประกอบหลักคือ phenolic compounds และสารอื่นๆ เช่น biological acid molecules, monosaccharides, flavonoids

Fernblock หรือ Polypodium leucotomos
สารประกอบใน PLE

ซึ่งพบว่า PLE ช่วยเสริมการปกป้องผิวจากการทำลายด้วยรังสียูวี ด้วย กลไกหลายอย่าง คือ

• ต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสียูวี (Antioxidant properties)
• ช่วยป้องกัน DNA damage จากรังสียูวี และช่วย DNA repair ได้ (Protective activity) พบว่า sunburn cells ลดลงหลังถูกแดด
• ลดการอักเสบของผิว ช่วยปกป้อง langerhans cells ที่ทำหน้าที่ปกป้องในระบบอิมมูนผิว (Immune system) ทำให้ผิวทนต่อยูวีมากขึ้น ลดการเกิดผิวไหม้แดด
• ลดการสร้างเม็ดสีผิว รอยแดง รอยดำ หลังถูกแดด (Pigmentation)
• ช่วยชะลอปัญหาผิวแก่จากการถูกแสงแดด (Photoaging)

ดังนั้น เรียกได้ว่าเป็น potent immunomodulator ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีมกันแดด ในแง่การปกป้องผิวจากแสงแดดได้ถึงระดับภายในเซลล์ จึงเห็น PLE เข้ามามีบทบาทในผลิตภัณฑ์กลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายโดยรังสียูวี เช่น ครีมกันแดด, ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น

กลไกปกป้องผิวของสารสกัด Polypodium Leucotomos Extract
กลไกปกป้องผิวของสารสกัด Polypodium Leucotomos Extract

3️⃣ UV Absorbance & SPF ของ PLE คือเท่าไหร่ ❓

มีข้อมูลการศึกษาพบว่าความเข้มข้นของ UV spectrum absorbance จะเพิ่มขึ้นตามความเข้มข้น อยู่ในช่วงระหว่าง 250-700 nm และค่า peak ที่ 290 nm

ดังนั้น จะเห็นว่าเป็นช่วงคลื่นที่ broad spectrum จึงสามารถปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสี UVA, UVB, visible light, HEV (Blue light) และ Infrared

4️⃣ ในแง่ PLE กับ Photoaging ล่ะ❓

พบว่า PLE ช่วยชะลอภาวะผิวหนังเสื่อมชราได้จากหลายกลไก ได้แก่
• ช่วยลด oxidative stress จากรังสียูวี
• ช่วยเสริมการปกป้องผิวจากแสงแดด ลด sensitivity to UVR จึงลดความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง melanoma ได้ โดยเฉพาะคนที่มีประวัติครอบครัวร่วมด้วย
• จากการตัดชิ้นเนื้อพบว่า solar elastosis, angiogenesis ลดลง
นอกจากนั้น ยังมีงานวิจัยในหลอดทดลองพบว่า ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagn type 1,3,5 และยับยั้ง MMP-1 ซึ่งเป็นตัวทำลายคอลลาเจนได้อีกด้วย ส่วนงานวิจัยในมนุษย์ต้องรอข้อมูลต่อไปในอนาคต

5️⃣ ผลิตภัณฑ์กันแดดของ Heliocare ที่มีส่วนผสมของ PLE มีตัวไหนที่มีสารต้องห้ามตามประกาศกรมอุทยานแห่งชาติหรือไม่ ❓

ผลิตภัณฑ์กันแดด Heliocare ทุกสูตรเป็น natural sunscreen /Ecofriendly sunscreen / Reef safe กล่าวคือ ไม่มีสารอันตรายต่อปะการังและสิ่งแวดล้อมตามมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ได้แก่
Oxybenzone (Benzophenone-3, BP-3),
Octinoxate (Ethylhexyl methoxycinnamate),
4-Methylbenzylid Camphor (4MBC)
และ
Butylparaben

6️⃣ PLE ช่วยเรื่อง Antipollution (PM2.5) หรือไม่ ❓

มีข้อมูลใน In Vitro model ว่าช่วยปกป้องเซลล์ keratinocyte ได้ ด้วยการกระตุ้นกลไก NRF2 pathway ซึ่งช่วยในการต่อต้านพิษจากมลภาวะ PM2.5

กลไกปกป้องผิวของสารสกัด Polypodium Leucotomos Extract

7️⃣ PLE สามารถช่วยเรื่องฝ้าได้หรือไม่❓

มีข้อมูลพบว่า PLE ชนิดรับประทาน ร่วมกับทาครีมกันแดด ในคนที่เป็นฝ้าที่รุนแรงปานกลางถึงมาก ว่าช่วยให้ดีขึ้นได้ เมื่อเทียบกับยาหลอก

โดยพบว่ากลไลที่ PLE ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว คือ

  1. ช่วยลด UV-induced photodamage และยับยั้งการเกิดอนูมูลอิสระจากยูวี จึงลดการอักเสบของผิวและลดการสร้างเม็ดสีผิวที่จะเกิดตามมาได้
    นอกจากนั้นยังมีข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง
  2. การยับยั้งในกระบวนการสร้างเมลานินหลังการถูกกระตุ้นจาก blue light จากอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ โดยกลไกผ่าน Opsin-3 (ซึ่งเป็น sensor รับคลื่นรังสีช่วงความยาวคลื่นสั้นได้โดยเฉพาะ blue light) และช่วยลดการเกิด melanin photo-oxidation ได้

Dose ที่มีข้อมูลว่าช่วยเรื่องฝ้าให้ดีขึ้นได้ ขึ้นกับงานวิจัย
ขนาดต่ำ 120-720 มก. ต่อวัน แบ่งทาน 2-3 ครั้ง ทานต่อเนื่องไม่เกิน 8-12 สัปดาห์
ขนาดสูง 960-1,200 มก. ต่อวัน ทานต่อเนื่องไม่เกิน 2 สัปดาห์

ผลข้างเคียงแบบรับประทาน มีรายงานอาจมีมวนท้องคลื่นไส้อาเจียน มีอาการคันได้ แต่อย่างไรก็ตามมีข้อมูลจาก Pharmacovigilance พบว่าผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นไม่ได้สัมพันธ์จาก PLE

8️⃣ หากรับประทานอาหารเสริมที่มี PLE แล้วจำเป็นต้องทาครีมกันแดดด้วยหรือไม่ ❓

PLE ชนิดรับประทานในปริมาณข้างต้น ออกฤทธิ์เป็น photoimmunoprotection ช่วยปกป้องผิวจากการทำลายด้วยอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสีต่าง ๆ ชนิด board spectrum และ พบว่าช่วยให้ผิวทนแดดได้ดีขึ้นเมื่อทานอย่างต่อเนื่อง สามารถเพิ่มค่า MED ได้ 3 เท่าและเพิ่มค่า MPD ได้ 3-7 เท่า
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถทดแทนการทาครีมกันแดดได้
ดังนั้น แนะนำว่าควรใช้เพิ่มเสริมประสิทธิภาพควบคู่กับการทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธี

9️⃣ มีการรักษาโรคผิวหนังอะไรที่ PLE มีข้อมูล❓

• ช่วยลดอาการและการกำเริบของโรคผิวหนังกลุ่ม photodermatoses เช่น Polymorphous Light Eruption, solar urticaria, chronic actinic dermatosis, actinic prurigo, SCLE
• ป้องกันการกลับเป็นซ้ำของ Actinic keratosis หลังการรักษาด้วย PDT
[Oral PLE 480 mg/dayโดยเริ่มทาน 1 wk หลังทำ PDT]
• Vitiligo มี repigmentation มากขึ้นในระหว่างฉายแสงยูวีบี
[Oral PLE 480 mg/day ทานระหว่างที่รักษา หรือ Oral PLE 2 caps ทุกวันตอนเช้า + เพิ่ม 1 cap ทานเสริม 1 ชั่วโมงก่อน PUVA/NBUVB exposure]
• Psoriasis สามารถลดปริมาณ PUVA accumulative doseได้
[Oral PLE 720 mg/day ร่วมกับ PUVA 3 /weekly]
• Atopic dermatitis ลดการใช้ oral histamine (p=0.038), topical corticosteroids (p=0.012) ใน 6 เดือน
[Oral PLE 240 mg/day (12 years) for 6 months]

Oral PLE กับ โรคผิวหนัง

🔟 PLE หรือ Polypodium Leucotomos Extracts มีในผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดของ Heliocare ตัวไหนบ้าง ❓

มีในครีมกันแดดทุกรุ่นของ Heliocare ได้แก่
Heliocare Ultra Gel SPF50+/SPF90
Heliocare body spray SPF50
Heliocare 360 FLUID CREAM SPF50+ PA++++
Heliocare 360 gel 0il free SPF50
Heliocare 360 water Gel
Heliocare 360 Pediatrics Mineral SPF50+
Heliocare 360 Pediatrics Transparent Spray SPF50+PA++++
Heliocare 360° Color Cushion Compact SPF50

Heliocare Fernblock
Fernblock ในผลิตภัณฑ์กันแดด

มีข้อมูลการศึกษาเปรียบเทียบการใช้ครีมทากันแดด SPF50+/90 ที่มี 0.5% Fernblock (Heliocare UG SPF50+/SPF90) เทียบกับ SPF50+/90 ที่ไม่มี Fernblock โดยทำการทดลองใน 10 คน ผิวขาว Phototype II อายุ 18-55 ปี อายุเฉลี่ยประมาณ 32 ปี และวัดผล 5 อย่าง ได้แก่ อาการแดงหลังจากโดนแสงแดด, Sunburn Cell (เซลล์ที่เกิดขึ้นหลังจากโดนแสงแดด), Langerhans Cell (เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันผิวหนัง), MMP-1 (เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยสลายคอลลาเจน), Pigmentation (ความเข้ม/ดำ ของผิว/เม็ดสี)

พบว่า ผิวของคนไข้ที่ทาครีมกันแดด SPF50+/90 ที่มี Fernblock

  • มีอาการแดง erythema หลังถูกแดด น้อยกว่า
  • ปริมาณ Sunburn cell น้อยกว่า จึงช่วย DNA repair ได้ดีกว่า
  • ช่วยปกป้อง Langerhans cell ได้มากกว่า จากการย้อมดูด้วย CD1 marker
  • ปริมาณ MMP-1 ลดลงมากกว่า จึงช่วยปกป้องผิวจากการสลายคอลลาเจนได้ดีขึ้น
  • ลด tyrosinase expression และลดความเข้มของสีผิวได้มากกว่า
    เมื่อเทียบกับคนไข้ที่ทาครีมกันแดด SPF50+/90 ที่ไม่มี Fernblock
    ดังนั้น ข้อมูลงานวิจัยนี้จึงแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ PLE ในแง่ของ Photoimmunoprotection #ในระดับเซลล์ร่วมด้วย

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังสนใจเรื่อง Polypodium Leucotomos Extract อยู่นะคะ
ถ้าชอบบทความนี้สามารถไลค์หรือแชร์ได้เลยค่ะ


References

J Clin Aesthet Dermatol. 2021;14(2):50–60.
Front Med (Lausanne). 2021 Jun 2;8:684665.
Oxid Med Cell Longev. 2020; 2020: 2908108.
Int J Mol Sci. 2018 Aug; 19(8): 2250.
Dermatol Ther (Heidelb) 2017; 7: 305–318.
Int J Mol Sci. 2016 Jun 29; 17(7): 1026.
J Drugs Dermatol. 2014 Feb;13(2):148-53.
Int J Mol Sci. 2011;12(12):8466-8475.


[ Disclaimer ]
สนับสนุนความรู้โดย Heliocare

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

สิว 13 vs สิว 30 [รายการ Single Being Podcast]

สิววัยรุ่นกับสิววัยผู้ใหญ่ต่างกันไหม ลองมาฟังได้ในลิ้งค์นี้ค่ะ

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ Single Being และ พี่ผิง พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล ที่ชวนไปพูดคุยในคลิปนี้ค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังประสบปัญหาสิวอยู่นะคะ

เกลื้อน..รักษาอย่างไร

Pityriasis versicolor
ทราบหรือไม่ว่า ผื่นของเกลื้อนอาจมีสีได้หลากหลาย ได้แก่ ขาว ชมพู แดง จนถึงน้ำตาล

รูปแสดงลักษณะผื่น

เกลื้อน Pityriasis versicolor
สีขาว
สีแดง
สีน้ำตาล

ผื่นมักเริ่มจากรอบรูขุมขนแล้วขยายออกกว้างขึ้น อาจมีอาการคันเล็กน้อย หรือไม่คันก็ได้

ความร้อนและความชื้น เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรคนี้ขึ้นมาได้

การรักษา

การรักษาเกลื้อน
Reference: Up to date

การซื้อยาสเตอรอยด์มาทาจะทำให้โรคลุกลามมากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องเพื่อการรักษาที่เหมาะสม

ขออนุญาตใช้ภาพจากกูเกิ้ลเพื่อประกอบความเข้าใจเนื้อหา

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

7 สกินแคร์พื้นฐานที่ควรมี

แชร์ไอเดีย Step 1 เบสิคพื้นฐาน

❌ หากทาสกินแคร์เหมือนกัน 2 ชิ้นทับกัน แนะนำเอาออกไป 1 เช่น F วิตามินซีมา 3 ยี่ห้อ ทาทับ ๆ กันหลายชั้นอาจดูเป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น

❌ หากขาด แนะนำหาเพิ่มชิ้นเดียวพอค่ะ ไม่ต้องกวาดหรือ F มาหลายยี่ห้อให้สิ้นเปลือง ทดลองทีละขวดถ้าไม่ถูกใจค่อยเปลี่ยนใหม่

✅ บางอันผสมในชิ้นเดียวกันแล้ว ช่วยลดขั้นตอนได้ เช่น ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มี antioxidant รวมอยู่

✅ โพสนี้พื้นฐานแบบไม่มีปัญหาผิวอะไรต้องแก้เพิ่มเติม ถ้ามีปัญหาอื่น เช่น สิว ฝ้า รอยดำ ริ้วรอย ต้องเพิ่มสเต็ปถัดไป ถ้าครบพื้นฐานแล้ว -> รออ่าน Step 2

สรุปเบสิค

☀️ตอนเช้า
เน้นบำรุง ปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด จึงต้องเน้นครีมกันแดด และ antioxidants
🌙 ก่อนนอน
เน้นบำรุง แก้ไขปัญหา ซ่อมแซมผิว ฟื้นฟู จึงควรเน้นกลุ่มที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ เช่น วิตามินเอ

ไหนขอดูรูทีนของแต่ละคนหน่อยซิ

เคล็ดลับการดูแลผิวที่มือ

มือแห้งอันตรายกว่าที่คิด
เจลแอลกอฮอล์อาจติดไฟใช้อย่างระวัง 🔥🔥🔥

ไม่มีหลักฐานการติดเชื้อจากเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

แต่มีหลักฐานการติดเชื้อจากมือแห้งแตกหลังการล้างมือ

โพสนี้สรุปการดูแลผิวที่มือ นำไปปรับเลือกผลิตภัณฑ์ได้เลย และอีกอย่างคือ

ในทางทฤษฎี มีงานวิจัยระบุไว้ชัดเจนว่า การล้างมือบ่อยกว่า 8-10 ครั้งต่อวัน ทำให้เพิ่มโอกาสการเกิดมือแห้งอักเสบได้ และมาในวันนี้ การล้างมือบ่อย ๆ เป็นสิ่งจำเป็นที่เลี่ยงไม่ได้ที่ทุกคนต้องทำ

ผลที่ตามมาคือ มือแห้ง ลอก อักเสบ ซึ่งจะทำให้โครงสร้างในการปกป้องผิวสูญเสียหน้าที่ไป ผลคือ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่มือมากขึ้น

สรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับวิธีการดูแลผิวที่มือ

( เพิ่มเติมจากการล้างมือให้ถูกวิธี 20 วินาที )
ให้ทุกคนนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ดังนี้

1. ใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นก็ได้

ไม่มีผลต่อการกำจัดเชื้อโรค เพียงแค่ล้างให้ถูกวิธีและล้างให้นานพอ แต่ไม่แนะนำน้ำที่ร้อนเกินไป

2. ผลิตภัณฑ์ล้างมือ

ควรใช้ในรูปแบบที่เหมาะสมและปริมาณมากเพียงพอในแต่ละครั้ง

• กรณีใช้ alcohol ชนิดที่ไม่ต้องล้างออก และหวังผลในเรื่องการฆ่าเชื้อด้วย แนะนำเป็น gel ดีกว่า spray เนื่องจากเราต้องการ contact time ในการออกฤทธิ์ที่นานพอ
• หากมือสกปรก ควรล้างสิ่งสกปรกออกก่อน
• ควรมีส่วนผสมของสารเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น glycerin, aloe vera
• ปริมาณที่ใช้ ต่อการล้างมือ 2 ข้าง 1 ครั้ง คือ 3-5 ml (ประมาณ 0.5-1 ช้อนชา) ขึ้นกับขนาดของมือว่าเล็กหรือใหญ่
• Alcohol ติดไฟได้ หลังจากใช้โดยเฉพาะชนิดที่ไม่ต้องล้างออก ควรรอให้แห้งก่อนเข้าใกล้ไฟ เช่น ทำอาหาร สูบบุหรี่

3. หลังล้างมือ

ใช้ผ้าสะอาดซับหรือเป่าด้วยเครื่องเป่าลม และรีบทาครีมบำรุงทันทีตอนขณะที่มือยังมีความชุ่มชื้นจากน้ำอยู่ จะทำให้ครีมมีประสิทธิภาพมากกว่าการทาครีมบำรุงตอนมือแห้งสนิทแล้ว

4. ใช้ Hand cream ที่เหมาะสม

• แนะนำแบบ Cream หรือ Oil-based ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีกว่าแบบ gel เพราะแบบเจลจะทำให้มีการระเหยสูญเสียน้ำออกจากผิว ผลคือผิวจะยิ่งแห้ง
• หากใช้เป็นกลุ่ม Barrier cream ได้จะดีมาก
• เลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ระบุ Anti-aging เนื่องจากมักมีสารผลัดเซลล์หรือกลุ่ม retinol ที่มักก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม เพราะอาจแพ้ได้
• แนะนำส่วนผสมที่มี Petrolatum, urea, dimethicone, olive oil, shea butter
• แนะนำผลิตภัณฑ์ที่บรรจุในหลอดมากกว่าขวดปั๊ม เพราะบรรจุมิดชิดกว่า

5. การใส่ถุงมือหลังทาครีมตอนก่อนนอน

เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีมได้ดี เนื่องจากเสมือนเป็น Occlusive effect

สรุปโพสนี้อยากบอกว่า

✔️ การล้างมืออย่างถูกวิธี ที่ทุกท่านทราบกันดีว่า ล้างอย่างน้อย 20 วินาที และล้างให้สะอาดตามขั้นตอน สามารถช่วยชะล้างสิ่งสกปรกบนผิวมือได้ แต่เท่านี้อาจไม่เพียงพอ

✔️ การดูแลผิวที่บริเวณมือก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะสามารถช่วยป้องกันผลเสียที่ตามมาจากการล้างมือบ่อย ได้แก่ ผิวอักเสบ ผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย จนเกิดการเจ็บปวด เป็นบ่อเกิดของการติดเชื้อแทรกซ้อนทั้งแบคทีเรียและเชื้ออื่นๆจากการไปสัมผัสตามมาได้


บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Sign of Leser-Trelat


ผู้ป่วยมักมาด้วยผื่นของ seborrheic keratoses เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีอาการคันร่วมด้วย เราสามารถบรรยายได้ว่า explosive onset of multiple pruritic stuck-on brownish papules

Reference: Bolognia 4th Edition

สิ่งที่ทำให้ต้องนึกถึงว่า seborrheic keratoses ในรายนี้บ่งบอกถึง paraneoplastic syndrome คือ

• Abrupt onset ภายใน 3-6 เดือน
• Non-sunexposed area

ดังนั้นจึงต้องมองหามะเร็งเหล่านี้

• GI adenocarcinoma (stomach, liver, pancreas, colon) *most common stomach
• Breast cancer
• Lung cancer
• Lymphoid malignancies
• Melanoma

ภาวะอื่นที่เป็น non-malignancies ที่พบได้ มีดังนี้

• Pregnancy
• HIV infection
• Lepromatou leprosy
• Benign neoplasm
• Erythrodermic eczema
• During chemotherapy esp cytarabine

หรือแม้กระทั่งไม่พบภาวะร่วมใดเลยก็ได้เช่นกัน

• Absence of associated condition

หลังการรักษาสาเหตุแล้ว พบว่า Eruptive sebborrheic keratoses สามารถดีขึ้นได้ 50%

Reference: Bolognia 4th Edition

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Basic Skincare Routine สำหรับผู้เริ่มต้นดูแลผิว

Basic Skincare Routine
หากไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี เริ่มจากตรงนี้เลยค่ะ ‼️

สูตรนี้เหมาะสำหรับ

• กลุ่มช่วงอายุ 20-30 ปี
• คนที่เริ่มหันมาใส่ใจดูแลผิวหน้า แต่ไม่รู้จะเลือกใช้อะไรดี
• คนที่ผิวหน้าไม่ค่อยมีปัญหาอะไรที่ต้องแก้ไขพิเศษ

สิ่งที่ควรเน้นในวัยนี้

• บำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นด้วย Moisturizer
• ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย Sunscreen
• ผลัดเซลล์ผิวด้วย Exfoliants

1. Sunscreen

ครีมกันแดดควรทาทุกเช้า หากเป็นกิจวัตรประจำวันทั่วไป แนะนำให้ใช้ที่ป้องกันได้ทั้ง UVA, UVB อย่างน้อย SPF30 หรือหากเป็น physical sunscreen ควรอย่างน้อย 5% zinc oxide

2. Moisturizer

ช่วยบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้นผิว และช่วยให้กระบวนการต่าง ๆ ที่ผิวเป็นไปอย่างสมดุล

ผิวมันหรือผิวผสม
แนะนำกลุ่ม Humectant
เช่น Glycerin, Hyaluronic acid, Lactic, Urea เป็นต้น

ผิวแห้ง
อาจใช้กลุ่ม Emollient
เช่น Ceramide, Cholesteral, Squalene, Plant oil
หรือใช้กลุ่ม Humectant ข้างต้น ร่วมกับ Occlusive
เช่น Dimethicone, Petroleum jelly, Mineral oil, Bee wax เป็นต้น

3. Exfoliants

ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว ช่วยปรับสภาพผิวให้สมบูรณ์ ผลัดเอาเซลล์ผิวชั้นบนที่ตายแล้วให้หลุดออกไป โดยไม่ได้ทำให้ผิวหนังบางลงอย่างที่หลายคนกังวลใจ
ถ้าหากใครได้ฟังคาบที่หมอได้สอนเรื่อง Antiaging Skincare คงจำได้ว่ากระบวนการผลัดเซลล์ผิวเราจะเริ่มช้าลงตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปี ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ร่วมด้วย โดยอาจใช้เพียงแค่ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ก็เพียงพอค่ะ
กลุ่มนี้ เช่น alpha hydroxy acid เป็นต้น

4. Cleanser

การล้างหน้าให้สะอาดเป็นสิ่งจำเป็น และเป็นขั้นตอนแรกของการเริ่มดูแลผิวในแต่ละวันค่ะ หากล้างไม่สะอาดก็อาจเกิดการอุดตันของรูขุมขนตามมา และทำให้ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่จะทาลงไปนั้นลดลงได้ แนะนำให้ทุกคนหาผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเองไว้เลยค่ะ

ส่วนคนที่อายุ 20-30 ปี และเป็นสิวก็ใช้ step นี้ได้ แต่เลือกกลุ่ม Moisturizer เป็นสำหรับกลุ่มสิวแทน ลองดูในโพสก่อนนี้เพิ่มเติมได้ค่ะ

สุภาพบุรุษทั้งหลายที่ไม่ชอบทาครีม ทาเท่านี้ก่อนก็ได้ค่ะ เชื่อว่าถ้าผิวเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีแล้วจะอยากดูแลผิวมากขึ้นไปอีกแน่เลย

ใครผ่าน step นี้แล้ว มารอฟังขั้นตอนต่อไปจะเพิ่มอะไรยังไงดี

เป็นอย่างไรบ้างคะ ใครชอบบทความ Basic Skincare Routine นี้บ้าง
อยากให้ต่อไปแนะนำเป็นสูตรสำหรับใครดีคะ คอมเม้นท์มาได้เลยนะคะ

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.