Tag Archives: Dermatology

เป็นสิว ผิวมัน แต่ขาดน้ำ..แก้อย่างไร

โพสต์นี้อยากเขียนเรื่องเกี่ยวกับ ซีบุ่ม (Sebum) กับ การเกิดสิว เพราะหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิวนั้นเกี่ยวกับ Sebum ที่เปลี่ยนไป

ซีบุ่ม หลั่งออกมาจากต่อมไขมันซึ่งพบได้หลายส่วนของร่างกายรวมทั้งที่ผิวหนัง มีหน้าที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ไม่ให้ผิวแห้ง สร้างสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ เช่น วิตามินอี ซึ่งช่วยคงสมดุลของไขมันผิว และนอกจากนั้น ซีบุ่มยังมีสารป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนังได้อีก

หน้าที่ของ sebum

ผิวคนเป็นสิวง่าย พบว่าส่วนประกอบไขมันที่กำแพงผิว เช่น sphingolipids (ceramides, free sphingosine) ลดลง จึงทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่ายขึ้น และมีการก่อตัวของ comedone ขึ้นมา

Sebum กับ ผิวที่เป็นสิว ผิวมัน ขาดน้ำ

นอกจากนั้น ผิวคนเป็นสิวง่ายอาจมีโครงสร้างและการทำงานต่อมไขมันผิวที่ผิดปกติ ร่วมกับเกิดการเปลี่ยนแปลงไขมันผิวร่วมด้วย ได้แก่

1. การผลิตไขมันผิวมากขึ้น (Hyperseborrhea)

โดยเฉพาะบริเวณ T-zone (ในคนอายุน้อยกว่า 25 ปี) และ U-zone (ในคนอายุมากกว่า 25 ปี)

ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศชายที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น testosterone, progesterone, sex hormone binding globulin

2. การเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบไขมันผิว (Dysseborrhea)

Oxidised squalene, Oleic acid, triglyceride, wax ester/cholesterol ester สูงขึ้น

Linoleic acid, FFA ลดลง 

สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น vitamin E ลดลง

จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมผิวที่เป็นสิวง่ายจึงอาจมีความมันมากขึ้น ในขณะที่ผิวขาดน้ำเพราะกำแพงผิวหนังไม่แข็งแรงนั่นเอง

PRACTICAL POINT

เคล็ดลับการเลือกสกินแคร์สำหรับคนที่เป็นสิว มีผิวมัน แต่ขาดน้ำ แนะนำมองหาคุณสมบัติที่แก้ไขข้อบกพร่องตามข้างต้น ดังนี้

สกินแคร์สำหรับสิว ผิวมัน ขาดน้ำ

✔️ Sebum controller มีตัวช่วยควบคุมปริมาณและคุณภาพของน้ำมันผิว

✔️ Anti oxidation มีสารต้านอนุมูลอิสระ

✔️ Anti inflammation มีตัวช่วยลดการอักเสบสิว

✔️ Barrier repairment มีตัวเสริมความแข็งแรงของกำแพงผิวส่วนที่ขาดไป

ยกตัวอย่าง สกินแคร์ที่มีคุณสมบัติข้างต้น เช่น Bioderma Sebium Sensitive

Clinical trial : มีข้อมูลการศึกษาในคนเป็นสิว ผิวมัน ขาดน้ำพบว่าสามารถลดปริมาณไขมันผิว คุมมัน เสริมกำแพงผิว และพบว่าผิวมี TEWL ลดลง กล่าวคือ การสูญเสียน้ำทางผิวลดลง [อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมท้ายบทความ]

สกินแคร์สำหรับคนเป็นสิวควรเลือกให้เหมาะ และเป็นสิ่งที่ควรมีควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยาเพราะจะช่วยเสริมการรักษาให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นค่ะ 

ด้วยความปรารถนาดี

หมอลูกเจี๊ยบ แพทย์หญิงวรายุวดี อมรภิญโญ

——————————————

References

Arch Dermatol Res. 1995;287(2):214-8.

J Eur Acad Dermatol Venereol. 2013;27:301-306.

Int J Cosmet Sci. 2014 Jun;36(3):221-30. 

Clinical, Cosmetic and Investigational Dermatology 2015:8 187–191.

Arch Dermatol Res. 2017 Sep;309(7):529-540.

Br J Dermatol. 2019 Oct;181(4):677-690.

Sci Rep. 2021 Sep 3;11(1):17974. 

——————————————

[Disclaimer] สนับสนุนความรู้โดย

Bioderma Sebium Sensitive

ครีมบำรุงสำหรับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย ขาดน้ำ ปรับสมดุลความมัน เติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 12 ชม. สามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้

Bioderma sebium sensitive

ACTIONS:

SEBORESTORE technology ช่วยปรับสมดุลซีบัมและลดการเกิดสิวใหม่

• INFLASTOP™ Complex ช่วยลดการออกฤทธิ์ของสารอักเสบ ลดการระคายเคืองผิว

• FLUIDACTIV™ patent ลดความเหนียวข้นของซีบัม

Bakuchiol สารต้านอนุมูลอิสระ ออกฤทธิ์ 2 เท่าของวิตามินอี

Biomimetic Glycerin เสริมความชุ่มชื้นผิว

Zinc Gluconate ช่วยลดการผลิตน้ำมันผิว

Clinical Studies:

มีการศึกษาผิวคนไทย หลังการทาครึ่งหน้า เช้าเย็นติดต่อกัน 4 สัปดาห์ (เทียบกับหน้าอีกข้างที่ทายาสิว) พบว่า

✔️ ปริมาณไขมันลดลง

✔️ ความชุ่มชื้นผิวเพิ่มขึ้น

✔️ ค่าการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง (TEWL) หลังการทายาสิว เพิ่มขึ้นน้อยกว่าข้างที่ไม่ทา 

✔️ จำนวน comedone และ สิวอักเสบ น้อยกว่า

เมื่อเทียบกับอีกข้างที่ทาเฉพาะยาสิว

*การตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ขึ้นกับสภาพผิวแต่ละบุคคล

——————————————

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ไขข้อข้องใจ.. LIFE PLANKTON ทำไมไปอยู่ในสกินแคร์ มีประโยชน์ต่อผิวอย่างไร

โดยปกติที่เราได้ยินคำว่า Probiotics ที่ผสมในสกินแคร์ทาผิว เพื่อหวังผลในเรื่อง ปรับสมดุลของจุลินทรีย์ตามธรรมชาติที่ผิวหนังนั้น มักเป็น non-viable bacteria หรือ cell lysates ตัวตายแล้ว เพราะถ้าหากเป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่ ก็มักถูกทำลายไปในระหว่างกระบวนการผลิตตั้งแต่ตอนต้นแล้วค่ะ

แล้ว LIFE PLANKTON ในน้ำตบล่ะ …

LIFE PLANKTON ที่ผสมในสกินแคร์ เช่น น้ำตบ เอสเซนต์ เซรั่ม จัดเป็น Probiotic Fraction ค่ะ
กล่าวคือ เป็น สารสกัดจากจุลินทรีย์ชนิดดีที่ตายแล้วเช่นกัน โดย LIFE PLANKTON™ ได้มาจากการสกัด Vitreoscilla filiformis (Vf) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซึ่งมีต้นกำเนิดในเฟรนช์พีเรนีส (FRENCH PYRENEES)

LIFE PLANKTON™ ได้มาจากการสกัด Vitreoscilla filiformis (Vf)

ปกติแพลงตอนจะมีช่วงจำศีลเพื่อเก็บสะสมพลังงานไว้ในรูปสารชนิดหนึ่ง และจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานที่มีประโยชน์ต่อผิวได้ ทำให้ LIFE PLANKTON ถูกนำมาเป็นส่วนผสมของสกินแคร์หลายแบรนด์ โดยแบรนด์แรกที่บุกเบิกส่วนผสมนี้ คือ ไบโอเธิร์ม ซึ่งได้มีการเพิ่มจำนวนผ่านกระบวนการหมักชีวภาพที่มีชื่อว่า FERMOGENESE™ จดสิทธิบัตรของไบโอเธิร์ม ทำให้ LIFE PLANKTON มีความเข้มข้นสูงกว่าเมื่อเทียบกับแหล่งธรรมชาติถึง 400,000 เท่าเลยทีเดียว

ประโยชน์ของสารสกัดจาก Vitreoscilla filiformis (Vf) ดังนี้

ประโยชน์ของสารสกัดจาก Vitreoscilla filiformis (Vf)

• ช่วยลดการเกิด sunburn cells จากการกระตุ้นด้วย UVB ได้
• เพิ่ม MnSOD สารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ผิวได้ จึงช่วยลดการทำร้ายผิวจากสารอนุมูลอิสระและมลภาวะต่าง ๆ
• ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ลดการระคายเคือง และกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ จึงช่วยให้ผิวแลดูสุขภาพดีและริ้วรอยเล็กดูดีขึ้น
• ช่วยปรับสมดุลของ skin microbiome ที่ผิว

นอกจากนั้นยังมีการศึกษาในหลอดทดลอง (In vitro study) พบว่า หากใช้ LIFE PLANKTON ร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ เช่น vitamin C สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นได้ 2 เท่า โดยสามารถกระตุ้นการสร้าง Essential protein ที่เป็นส่วนผสมของกำแพงผิว และช่วยเพิ่ม Collagen-1 & Zo-1 enzyme expression ส่งผลให้กำแพงผิวแข็งแรงมากขึ้น

มี LIFE PLANKTON™ Probiotic Fraction

ยกตัวอย่างสกินแคร์ที่มี LIFE PLANKTON™ Probiotic Fraction ร่วมกับ Vitamin C เช่น Biotherm Life Plankton Essence [อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมตอนท้าย]

🏥🏥 BOTTOM LINE

ถึงแม้ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ชนิดทา topical probiotics ยังไม่มีสูตรใดที่ได้ FDA approved อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลที่รวบรวมถึงประโยชน์ต่อผิวหนังที่ได้รับหลังการทา และได้ผลไปในทางที่ค่อนข้างดี
โดยหลักการก็คือ ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ผิวให้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวแข็งแรงสุขภาพผิวดี จึงแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ เช่น สิว ริ้วรอยตื้น ๆ ผิวหนังอักเสบบางชนิด เป็นต้น

แต่ต้องอย่าลืมว่า สภาพผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความหลากหลายของจุลินทรีย์ผิวแต่ละคนก็ต่างกัน ดังนั้น ผลที่ได้อาจแตกต่างกันออกไป สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อผลลัพธ์ต่อผิวที่ดีขึ้นไปอีกค่ะ ไว้จะมาอัพเดทเรื่อย ๆ รอติดตามนะคะ

ด้วยความปรารถนาดี

หมอเจี๊ยบ

References:

Exp Dermatol. 2020 Jan;29(1):15-21.
Experimental Dermatology 2010; 19: e1–e8.
Genome announcements 2017; 5(34): e00913-17.
Int J Cosmet Sci. 2006 Aug; 28(4): 277-87.
Am J Clin Nutr 2000; 71: 861– 872.

J Appl Bacteriol 1989; 66: 365– 378.

[Disclaimer] สนับสนุนความรู้โดย

Biotherm LIFE PLANKTON™ Essence
เอสเซนต์น้ำตบบำรุงเพื่อฟื้นฟูปรับสมดุลผิว เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมไว

Biotherm LIFE PLANKTON™ Essence
Biotherm LIFE PLANKTON™ Essence

▫️ส่วนผสมหลัก

• Life Plankton Probiotic Fraction เข้มข้น 5% (สูงสุดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของแบรนด์) ช่วยฟื้นฟูผิว ลดการอักเสบ กำแพงผิวแข็งแรง
Hyaluronic acid 2 โมเลกุล ได้แก่ Sodium hyaluronate (โมเลกุลเล็ก) และ Fragmented hyaluronic acid (โมเลกุลใหญ่) และ Glycerin เพิ่มความชุ่มชื้นผิว
Ascorbyl glucoside ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งในกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น
Vitamin E ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
Salicylic acid ช่วยลดการหลั่งน้ำมันผิว คุมมัน ลดการเกิดสิวอุดตัน

▫️Scientific Data จากไบโอเธิร์ม
พบว่าช่วยเรื่อง soothing ลดการระคายเคืองผิว ลดปัญหาผิวแห้งลอกอักเสบเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสมดุลผิว ลดความมันผิว ผิวแลดูกระจ่างขึ้น


บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved

9 ข้อน่ารู้ เรื่อง ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิว

9 Tips : Face Wash for Acne-prone Skin

การล้างหน้าที่ดี ถือเป็นพื้นฐานของการเริ่มต้นการดูแลผิวที่สำคัญที่สุดในขั้นตอนแรก ผิวที่มักเป็นสิวก็ยิ่งต้องล้างหน้าให้สะอาดค่ะ
ไม่มากเกินไปจนก่อการระคายเคืองผิว
และไม่น้อยเกินไปจนไม่สามารถชะล้างสิ่งสกปรกหรือเครื่องสำอางที่ก่อการอุดตันออกได้หมด

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของคนเป็นสิว Syndet cleanser

1. ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของคนเป็นสิว ควรเลือก pH ที่ใกล้เคียงผิวปกติ (เช่นเดียวกับผิวที่ไม่เป็นสิว)

Skin’s pH คือประมาณ 5.3-5.9 จะเป็นช่วงค่า pH ตามธรรมชาติของผิวที่ skin-natural ingredients ต่าง ๆ ทำงานได้ดีที่สุด เช่น ceramides, cholesterol, enzymes ต่าง ๆ ส่งผลให้สุขภาพผิวหน้าดีและแข็งแรงที่สุดค่ะ และหาก pH สูงเกินไปจะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้เชื้อแบคทีเรีย C.acne เจริญเติบโตได้ดี ทำให้สิวบุกตามมา

2. แนะนำใช้เป็นกลุ่ม Syndets (synthetic detergent-based) cleanser

เพื่อลดการระคายเคือง ช่วยรักษาสมดุลให้ pH พอเหมาะ ลดสิวอักเสบได้ชัดเจน เห็นผลใน 3 เดือน และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพยารักษาสิวให้มากขึ้นได้อีกด้วย

3. คลีนเซอร์ที่เป็น Pure Soap ไม่แนะนำ

เพราะทำให้ค่า pH ของผิวเพิ่มขึ้นหลังใช้ได้นานถึง 4-8 ชั่วโมง ซึ่งพบว่าทำให้ C.acne เจริญเติบโตมากขึ้น และยังทำให้โครงสร้างผิวไม่แข็งแรง เพิ่มการสูญเสียน้ำมากขึ้น ผลคือ ทำให้ผิวแห้ง ลอก คัน แสบระคายเคืองตามมา ดังนั้น หากคลีนเซอร์ของใครที่ใช้แล้วหลังล้างหน้ารู้สึกตึง ๆ หรือแสบ แนะนำว่าควรเปลี่ยนค่ะ

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของคนเป็นสิว Botanical toner

4. คลีนเซอร์กลุ่ม Botanical

เช่น hops, willow bark extract, disodium cocoyl glutamate, chamomile, green tea ก็สามารถใช้ได้ดีกว่า Soap แต่ยังด้อยกว่า Syndet ในแง่ของการลดสิว

5. หากล้างหน้าสะอาดหมดจดดี ไม่จำเป็นต้องใช้โทนเนอร์เช็ด

หากไม่แน่ใจหรืออยากใช้ ก็แนะนำโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ Witch hazel ช่วยลดการอักเสบและลดความมันบนผิวได้

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย เลี่ยง SLES

6. หากมีสิวและผิวแพ้ง่าย

ควรเลี่ยง sodium laureth sulfate (SLES) ควรเลือกที่ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ สารผลัดเซลล์หรือเม็ดบีดต่าง ๆ ที่อาจระคายเคืองได้

7. กลุ่ม Antiseptic Cleanser

เช่น hexachlorophene, chlorhexidine, povidone-iodine ไม่แนะนำ เพราะระคายเคืองผิว และผลข้างเคียงมากกว่า

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของคนเป็นสิว

8. การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าในคนเป็นสิวแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป

เพราะคนเป็นสิวอาจมีพื้นฐานสภาพผิวที่ต่างกัน ดังนั้นต้องเลือกให้เหมาะกับผิวตัวเอง ยกตัวอย่าง

• หากมีสิว + ผิวแห้ง

ควรเสริมสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง เช่น glycerin, ceramide, hyaluronic acid, niacinamide เป็นต้น

• หากมีสิวอุดตันเด่น และผิวมัน

ควรเน้นกลุ่มสารผลัดเซลล์ผิวที่ช่วยลดการอุดตันของสิวให้หลุดออกมาง่ายขึ้น และสารที่ลดการหลั่งน้ำมันผิวได้ จะทำให้ความมันผิวลดลง
เช่น salicylic acid, glycolic acid, benzoyl peroxide, retinol เป็นต้น

• หากมีสิวอักเสบร่วมด้วยเยอะ

ควรเน้นกลุ่มที่ช่วยลดการอักเสบและช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย
เช่น bisabolol, sulfur, centella asiatica, green tea, chamomile, niacinamide (Vitamin B3), panthenol (Vitamin B5)

• หากมีรอยดำรอยแดงจากสิวเยอะ

อาจเพิ่มสารกลุ่มที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว
เช่น vitamin C, licorice, arbutin
และเน้นสารลดการอักเสบร่วมด้วยเพื่อลดการเกิดรอยสิวตามมาได้

ยกตัวอย่าง หากมีปัญหาสิวอุดตันหรืออักเสบ มีรอยแดงรอยดำจากสิว และผิวมัน ควรมองหาผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีคุณสมบัติลดการอักเสบ ไม่อุดตัน คุมมัน โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงเอี๊ยด เช่น Eucerin Pro ACNE SOLUTION Soft Cleansing Foam เป็นต้น [อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมท้ายบทความ]

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของคนเป็นสิว ล้างหน้าวันละ 1-2 ครั้ง

9. คนเป็นสิวควรล้างหน้า วันละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ

▫️ ตอนเย็น ควรล้างทุกวัน เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกและเมคอัพต่าง ๆ จะได้ไม่ก่อการอุดตันของรูขุมขนและเกิดสิวตามมา
▫️ ตอนเช้า อาจจำเป็นสำหรับบางคนที่มีการหลั่งน้ำมันผิวออกมามากในระหว่างคืน
▫️ และหากมีเหงื่อออก เช่น หลังออกกำลังกายหรืออากาศร้อนมาก ควรมีการล้างหน้าเสริมจากรูทีน โดยอาจชำระล้างเหงื่อด้วยน้ำเปล่าหรือ gentle cleanser ก็ได้ค่ะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ ช่วยให้ทุกคนที่มีปัญหาสิว สามารถนำไปใช้เลือกคลีนเซอร์ที่เหมาะสมกับผิวของตัวเองได้นะคะ

ถ้าชอบและเห็นว่ามีประโยชน์ —> ขอกำลังใจ ❤️❤️❤️ ตามระดับความชอบ เพื่อนำไปปรับปรุงบทความถัดไปค่ะ

หมอเจี๊ยบ


References
Cochrane Database Syst Rev. 2020 Mar 16;3(3):CD011154.
Exp Dermatol. 2019 Jul;28(7):786-794.
J Dermatolog Treat. 2018 Nov;29(7):688-693.
F1000Res. 2018 Dec 19;7:F1000 Faculty Rev-1953.
Int J Dermatol. 2013 Jul;52(7):784-90.

J Am Acad Dermatol 2009;60:5(sup. 1) S1-S50.


สนับสนุนความรู้โดย
Eucerin Pro ACNE SOLUTION Soft Cleansing Foam

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผู้มีปัญหาสิวอุดตัน ผิวมัน มีรอยสิว
▫️ส่วนประกอบหลัก
✔️ Bisabolol & Dio-Active ลดการอักเสบ ลดการระคายเคือง ลดการอุดตันและลดการเกิดรอยสิว
✔️ Fatty Acid & Glycerin เพิ่มความชุ่มชื้นผิว ไม่เกิดการแห้งตึงหลังล้างหน้า

Eucerin Pro ACNE SOLUTION Soft Cleansing Foam

▫️CLINICAL STUDIES [จากยูเซอริน]
ข้อมูลทดสอบในอาสาสมัครจำนวน 22 คน อายุระหว่าง 18-40 ปี โดย Spincontrol Asia Co.,ltd ตั้งแต่ธันวาคม 2559 – มกราคม 2560 พบว่า
82% ของผู้ใช้จริงยืนยัน สิวอุดตันลดลง
ความมันบนใบหน้า รอยสิวแลดูน้อยลง ผิวดูใสขึ้น

▫️ฟองโฟมนุ่ม อ่อนโยน ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ลดการเกิดสิวซ้ำ เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย
*ผลลัพธ์การตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ขึ้นกับสภาพผิวแต่ละบุคคล

สถานที่ขาย : Watsons, Boots, Eve and Boy และร้านขายยาขนาดใหญ่ทั่วประเทศ

ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม : https://www.eucerin.co.th/products/proacne/proacne-gentle-cleansing-foam-150ml


รวมลิ้งค์ https://opl.to/drwarayuwadee
บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Bathing’s Secret อาบน้ำอย่างไรให้ผิวสวยสุขภาพดี

บางคนอาบน้ำทุกวัน บางคนอาบน้ำเช้าเย็น บางคนอาบน้ำสองสามวันที บางคนอาบน้ำด้วยน้ำเปล่า บางคนใช้สบู่ก้อน สบู่เหลว ขัดถูด้วยแปรงเพราะกลัวไม่สะอาด สรุปแล้วยังไงคือเหมาะสมที่ควรทำ … ต้องลองอ่านบทความนี้ค่ะ

ควรอาบน้ำวันละกี่ครั้ง

การอาบน้ำช่วยให้เราผ่อนคลายและสดชื่นก็จริง แต่โดยปกติแนะนำอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอ ยกเว้นหากทำกิจกรรมที่ทำให้ผิวสกปรกหรือเหงื่อออกเยอะ เช่น เล่นกีฬา อากาศร้อนเหงื่อออกมาก ก็สามารถอาบบ่อยขึ้นได้ค่ะ

อาบน้ำร้อนได้ไหม

ดีต่อสุขภาพผิวที่สุดแนะนำให้อาบน้ำอุณหภูมิปกติหรืออุ่นเล็กน้อยค่ะ การอาบน้ำที่ร้อนเกินไปอาจทำลายไขมันตามธรรมชาติที่เคลือบผิว ส่งผลให้ผิวแห้งและอักเสบตามมาได้ง่ายขึ้น

อาบน้ำวันละกี่ครั้ง อาบน้ำร้อนดีไหม

อาบน้ำหรือแช่น้ำนาน ๆ มีผลเสียไหม

การอาบน้ำเพียง 5-10 นาที เพียงพอต่อการชำระล้างร่างกายค่ะ พบว่าการอาบน้ำนานกว่า 10 นาทีจะทำให้มีการสูญเสียน้ำ TEWL (ค่าการสูญเสียน้ำผ่านผิวชั้นหนังกำพร้า หรือ epidermis) มากขึ้น ส่งผลทำให้โครงสร้างผิวเสียความชุ่มชื้นไป

อาบน้ำด้วยน้ำเปล่าดีไหม

มีข้อมูลการศึกษาพบว่า การอาบน้ำด้วยครีมอาบน้ำหรือสบู่เหลวที่มีค่า pH balanced จะไม่ก่อการระคายเคืองและไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่า pH ผิวหนังชั้นบน จะส่งผลดีมากกว่าการล้างด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว

อาบน้ำเปล่าพอไหม

ครีมอาบน้ำที่ดี ควรเลือกอย่างไร

• ควรใช้ Cleanser ที่อ่อนโยน แนะนำ soap-free (synthetic detergent based)

หากใครที่ผิวแห้งมาก อาจเลือกครีมอาบน้ำที่ผสมสารบำรุงกำแพงผิวหรือสารเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น Dexpanthenol หรือ โปรวิตามินบี 5

หากใครที่ผิวแพ้ระคายเคืองง่าย แนะนำเลือกที่ปราศจากน้ำหอม

หากใครมีปัญหาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ควรเลี่ยงพวกที่ผสม organic substance ต่าง ๆ เช่น ข้าวโอ๊ต บาร์เร่ห์ เป็นต้น

ครีมอาบน้ำที่ดีต่อสุขภาพผิว

ทำไมสกินแคร์อาบน้ำควรมี pH 5

โดยปกติค่า pH ของผิวหนังชั้นบน ๆ จะอยู่ในช่วงความเป็นกรดเล็กน้อย คือ เฉลี่ยประมาณ 4.7-5.0 ซึ่งเป็นช่วงค่า pH ตามธรรมชาติของผิวที่ skin-natural ingredients ต่าง ๆ ทำงานได้ดีที่สุด เช่น ceramides, cholesterol, enzymes ต่าง ๆ ส่งผลให้สุขภาพผิวดีและแข็งแรงที่สุด

ดังนั้น จึงแนะนำครีมอาบน้ำที่มีค่า pH ช่วงประมาณ 4-7

pH ไม่ควรต่ำกว่า 2.5 และไม่ควรสูงกว่า 7 เพราจะเกิดความเป็นกรดหรือด่างมากไป ส่งผลทำให้กำแพงผิวถูกทำลายได้มากขึ้น

ยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์อาบน้ำชำระร่างกายที่มี pH5 และมีสารเพิ่มความชุ่มชื้นผิวที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง เช่น Eucerin pH5 Wash Lotion ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว เหมาะสําหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง [อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมตอนท้าย]

รู้ได้อย่างไรว่าครีมอาบน้ำที่ใช้อยู่ ไม่เหมาะสมกับผิวกายของเรา

วิธีสังเกตง่ายที่สุด คือ หลังอาบน้ำเสร็จแล้วจะรู้สึกเหมือนมีฟิล์มเคลือบผิวบาง ๆ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว ซึ่งไม่ควรเช็ดหรือถูฟิล์มนี้ออกค่ะ แต่หากครีมอาบน้ำที่ทำให้ผิวตึงเอี๊ยด แสบ ระคายเคือง ก็แนะนำควรเปลี่ยนค่ะ

ครีมอาบน้ำ pH5

หวังว่าบทความจะเป็นประโยชน์ผู้อ่านทุกท่านนะคะ ดูแลผิวหน้าแล้วอย่าลืมดูแลผิวกายกันนะ

ด้วยความปรารถนาดี

หมอเจี๊ยบ

——————————————

References:

Am J Clin Dermatol. 2002;3:261- 72.

Int J Cosmet Sci. 2011;33:17-24.

Pediatr Dermatol. 2012;29:1-14.

Allergy Asthma Proc. 2019 May 1;40(3):204-206.

J Dermatolog Treat. 2020 Nov;31(7):716-722.

Rev Paul Pediatr. 2020;38e2018319 

 

——————————————

[Disclaimer] สนับสนุนความรู้โดย

Eucerin pH5 Wash Lotion

โลชั่นอาบน้ำสําหรับฟื้นบํารุงเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง ช่วยปรับสมดุลผิว ทำความสะอาดอ่อนโยน เพิ่มความชุ่มชื้นผิว

Eucerin pH5 Wash Lotion

เหมาะสําหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง

pH5 Balance System ช่วยปรับสมดุลผิวให้มีค่า pH=5 ซึ่งจะช่วยเสริมกระบวนการผลัดเซลล์ผิว และเสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรง จึงช่วยให้ผิวนุ่ม แลดูสุขภาพดี ชุ่มชื้น สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น

มี Dexpanthenol (โปรวิตามินบี 5) เพิ่มความชุ่มชื้นขั้นสุด

ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกที่ผิว และเสริมการสร้างเซลล์ผิวที่ดี ให้ผิวแลดูสุขภาพดี เนียนนุ่ม

Soap-free ปราศจากความเป็นด่างของสบู่ จึง ช่วยคงสมดุลในการปกป้องชั้นผิวที่ค่า pH เท่ากับ 5 ซึ่งเป็นค่าตามธรรมชาติของผิวที่สุขภาพดีและแข็งแรงที่สุด ช่วยให้เซลล์ผิว สามารถกลับมาทํางาน และรักษาความชุ่มชื้นได้ตามปกติ ผิวจึงแข็งแรง สุขภาพดีขึ้น และสามารถเสริมเกราะปกป้องผิวไม่ให้กลับไป แห้งเสีย

Clinical Studies

เหมาะสําหรับ ผิวบอบบางแพ้ง่าย สามารถลดอาการแห้งและแพ้ง่ายของเด็กได้

สามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ (ใช้ได้กับทารกอายุ 1 เดือนขึ้นไป)

**ผลลัพธ์การตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ขึ้นกับสภาพผิวแต่ละบุคคล

——————————————

รวมลิ้งค์ https://opl.to/drwarayuwadee

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

รังสี UVA1 กับปัญหาผิว Skin

ภาพนี้สรุปได้ค่อนข้างครบถ้วนเรื่องผลของรังสี UVA1 หรือ Long UVA ต่อผิวหนัง
เราทราบดีว่ารังสีจากแสงอาทิตย์ที่ตกลงมาถึงพื้นโลกได้หลัก ๆ มี 3 อย่าง คือ UV, Visible light, Infrared

รังสี UV ที่ยิ่งความยาวคลื่นมากจะยิ่งทะลุทะลวงสิ่งกีดขวาง เช่น ก้อนเมฆ ชั้นโอโซน กระจก ความสูง สภาพอากาศ ฯลฯ ลงมาได้มาก โดยเฉพาะ UVA1 หรือ อาจเรียกว่า Long UVA (ซึ่งมีความยาวคลื่นมากกว่า UVA2 และ UVB ตามลำดับ) โดยพบว่า UVA1 สามารถทะลุทะลวงสู่โลกได้ถึง 80% ของรังสียูวีทั้งหมดทีเดียว

นอกจากนั้น UVA ยังสามารถทะลุผิวหนังลงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) ได้มากกว่า UVB ถึง 100 เท่า

กลไก คือ UVA1 หลังจากถูกดูดซับโดย UVA1 photon ก็จะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาในผิว ส่งผลให้มีการสร้างสารอนุมูลอิสระ Reactive oxygen species (ROS) มากขึ้น สารตัวนี้จะไปทำลาย DNA ของเซลล์โดยการเกิด oxidative stress และส่งผลต่อผิวหนังตามมาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว (ดังรูป)

ผลของ UVA1 ต่อผิวหนัง​
ผลของ UVA1 ต่อผิวหนัง

ดังนั้นการปกป้องผิวจากแสงแดดโดยเฉพาะ UVA จึงสำคัญมากถ้าหากไม่อยากเกิด Premature aging of skin ก่อนวัย

หากชอบบทความนี้ >> กดไลค์กดแชร์ และ กดติดตามเพจไว้ติดตามเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับผิวหนังที่จะมาเล่าให้ฟังเรื่อย ๆ นะคะ
..หมอเจี๊ยบ..👩🏻‍⚕️


Reference
The Damaging Effects of Long UVA (UVA1) Rays: A Major Challenge to Preserve Skin Health and Integrity. Int. J. Mol. Sci. 2022; 23: 8243.

รวมลิ้งค์ https://opl.to/drwarayuwadee
บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Summary topical retinoids for acne (Updated)

ปัจจุบันมียาทาวิตามินเอที่มีข้อมูลรักษาสิวได้ แต่ละตัวจะจับกับตัวรับ retinoid receptors แตกต่างกันไป (ดังตาราง)

ส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังการรักษาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป ซึ่งช่วยได้ทั้งสิวที่หน้าและสิวที่ลำตัว

Tazarotene 0.1% ทั้งชนิด foam และ gel มีประสิทธิภาพเท่ากันในการรักษาสิวที่หน้า และ ลำตัว โดยแนะนำใช้เพียงวันละ 1 ครั้งก็เห็นผลการรักษาดี

Trifarotene จับกับตัวรับจำเพราะ RARgamma ซึ่งพบว่ามีฤทธิ์ anti-comedogenic, anti-inflammatory, anti-pigmentary activities และพบว่ามีประสิทธิภาพในการใช้รักษาสิวที่หน้าและสิวที่ลำตัวได้ดี มีการศึกษาว่าการใช้ในระยะยาว 52 สัปดาห์ พบว่าปลอดภัย ระคายเคืองค่อนข้างน้อย

เรียกได้ว่าเป็นความหวังของคนที่ใช้ topical retinoids ไม่รอดก็ว่าได้
รายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมถ้ามีอัพเดทจะมาเล่าให้ฟังเรื่อย ๆ นะคะ ต้องรอติดตาม

Reference ตามแนบในรูป

รวมลิ้งค์ https://opl.to/drwarayuwadee
บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

4 ข้อควรรู้ ขุยรังแคที่หน้าหรือเซบเดิร์ม

(Seborrheic dermatitis or Dandruff)

1. สาเหตุของโรคเซบเดิร์ม

ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่ามีหลายปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะผิวหนังอักเสบชนิดนี้ ได้แก่

ปัจจัยกระตุ้นเซ็บเดิร์ม

✔️ ผิวมัน เห็นได้ว่า มักเกิดผื่นบริเวณที่มีต่อมไขมันเยอะ เช่น ร่องแก้ม หัวคิ้ว หนังศีรษะ อก หลัง เป็นต้น
✔️ เชื้อรา Malassezia ซึ่งชอบไขมัน
✔️ สภาพอากาศ โดยเฉพาะอากาศเย็น ความชื้นต่ำ ผิวแห้ง จะทำให้ผื่นเห่อมากขึ้น
✔️ ความเครียด นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้มีอาการกำเริบของผื่นได้
✔️ ดื่มสุรา
✔️ การเสียดสี แกะเกาผิวหนัง
✔️ กรรมพันธุ์ ที่มี Mutation of ZNF750

2. บุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเซบเดิร์ม
ได้แก่

ผื่นเซ็บเดิร์ม Seborrheic dermatitis

✔️ คนที่มีผิวมัน
✔️ ผู้ป่วยระบบประสาท เช่น อัมพฤกษ์อัมพาต พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ ลมชัก
✔️ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เอชไอวี (CD4 200-500 cell/mm3)
***ดังนั้นควรนึกถึงและตรวจหาภาวะเอชไอวีร่วมด้วยเสมอถ้าหากมีลักษณะของเซบเดิร์มที่น่าสงสัยเหล่านี้ คือ
🔥 อาการรุนแรง ผื่นลามบริเวณกว้าง (Severe, extensive disease)
🔥 ไม่ตอบสนองการรักษา (Refractory disease)
✔️ บางครั้งอาจพบผื่นคล้ายเซบเดิร์มได้ในกรณีภาวะขาดวิตามินบางชนิด เช่น B2, B6, Zinc

3. การรักษาเซบเดิร์ม

โรคเซบเดิร์มเป็นโรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาด การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาให้ภาวะกำเริบหายเร็วขึ้น ส่วนมากใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ต่อการรักษาในแต่ละครั้งของการกำเริบ

การรักษาเซ็บเดิร์ม

โดยแพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาด้วยยา ขึ้นกับอาการของแต่ละบุคคล
ยาทา เช่น ยาทาสเตอรอยด์, ยาทาฆ่าเชื้อรา, ยาทากลุ่ม Calcineurin inhibitor (Off-label)
ในกรณีมีผื่นที่หนังศีรษะ อาจใช้แชมพูสระผมที่มีส่วนผสมของ Selenium sulfide, Ketoconazole, Zinc, Tar
ยารับประทาน (กรณีโรครุนแรง ดื้อต่อการรักษา ควรได้รับการรักษาควบคุมโดยแพทย์) เช่น
ยากินฆ่าเชื้อรา, ยากินกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละราย
การฉายแสง Narrow Band UVB

4. PRACTICAL POINT

สกินแคร์สำหรับเซบเดิร์ม แนะนำดังนี้ค่ะ

สกินแคร์เซ็บเดิร์ม

• คนเป็นเซบเดิร์มสามารถทาสกินแคร์ได้ ไม่ได้เป็นข้อห้าม และยังเป็นการเสริมการรักษาด้วยยา และลดการเห่อของผื่นในระยะยาวได้
• ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด อาจใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ 2% zinc pyrithione ร่วมด้วยได้
• ควรเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์ที่จะทำให้ผื่นกำเริบ เช่น After shave, Toner, Hair spray
• ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิวเพื่อป้องกันผิวแห้ง จะช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการเห่ออักเสบผิวได้ โดยแนะนำเป็น oil-in-water
ในรูปแบบ light cream, emulsion, gel
• ควรใช้สกินแคร์ที่มีคุณสมบัติตรงจุด คือ
1* ลดการอักเสบ
2* ลดการระคายเคือง
3* ยับยั้งเชื้อรา
4* ลดการหลั่งน้ำมันผิว

ยกตัวอย่างส่วนผสมที่มีคุณสมบัติข้างต้น เช่น piroctone olamine, stearyl glycyrrhetinate, avenanthramides, biosaccharide gum-2, and zinc salt of L-pyrrolidone carboxylate (zinc PCA)
กลไกดังแสดงในรูป

ยกตัวอย่างสกินแคร์ที่มีข้อมูลเสริมการรักษาผื่นเซบเดิร์ม เช่น Nutradeica® DS Facial Gel Cream
ซึ่งมี Clinical study จาก ISDIN พบว่า
** ฤทธิ์ต้านเชื้อรา M.furfur ไม่แตกต่างจากยาต้านเชื้อรา 2% ketoconazole
** ฤทธิ์ต้านการอักเสบโดยลด TNF-α,IL-6, IL-8 ไม่แตกต่างจากยาทาสเตอรอยด์ 1% Hydrotisone
[อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมตอนท้าย]

BOTTOM LINE

เมื่อเป็นโรคเซ็บเดิร์มควรทำความเข้าใจให้ดีว่าเป็นโรคที่ไม่หายขาด การหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นเป็นการป้องกันการกำเริบของโรคที่ดีที่สุดค่ะ หลีกเลี่ยงการแกะเกาบริเวณผื่น เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนค่ะ และหากมีการกำเริบควรมาพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธี

ด้วยความปรารถนาดี
หมอเจี๊ยบ


References
• Fitzpatrick 8th edition
• Bolognia 4th edition
Textbook of Dermatology
The Journal of clinical and aesthetic dermatology: 14(9 Suppl 1);S39–S45.
Dermatol Ther (Heidelb) 2019:9;469–477.
Clinical, Cosmetic and Investigational Dermatology 2019:12;103–108.
Dermatol Ther (Heidelb) 2020:10;87–98.
J Cosmet Dermatol. 2021;20(Suppl. 1):14–17.
Clinical, Cosmetic and Investigational Dermatology 2022:15;483–488.


[Disclaimer] สนับสนุนความรู้โดย
📥📥 ISDIN Nutradeica® DS Facial Gel Cream

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เนื้อเจลครีม ซึมเร็ว
เหมาะสำหรับผิวเซบเดิร์ม ผิวระคายเคืองง่ายจากการใส่หน้ากากหรือยาสิว

ACTIONS:
▫️Acetamide MEA ช่วยลดการระคายเคือง ปรับสมดุลผิว เพิ่มความชุ่มชื้นผิว
▫️Dihydro-avenanthramide (SymCalmin®) ช่วยลดอาการคัน
▫️Piroctone olamine และ Biosaccharide gum-2 (Rhamnosoft®) มีฤทธ์ิต้านเชื้อรา
▫️Stearyl Glycyrrhetinate ลดการอักเสบ แสบ แดง
▫️Zinc PCA ลดความมันผิว

Clinical studies จาก ISDIN พบว่า
• ทดสอบในคนไข้ผื่นเซบเดิร์ม
หลังการใช้ 8 วัน อาการผิวลอกขุยลดลง 81% คันลดลง 61% ผื่นแดงลดลง 59%
• ทดสอบในทารกต่อมไขมันอักเสบที่ศีรษะ
หลังการใช้ 15 วัน ผื่นแดง ผิวลอก ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และหลังการใช้ 30 วัน ไขบนหนังศีรษะลดลง
• ทดสอบในคนใส่หน้ากากอนามัยเฉลี่ย 9 ชั่วโมงต่อวัน
หลังการใช้ 7 วัน อาการแสบ ระคายเคืองดีขึ้น
หลังการใช้ 4 สัปดาห์ พบว่าสิวดีขึ้น

*การตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ขึ้นกับสภาพผิวแต่ละบุคคล

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Botanicals skincare ลดอักเสบ..ทางเลือกของการทายาสเตอรอยด์

ปัญหาแสบคัน ระคายเคืองผิว ผิวหนังอักเสบ หรือแม้แต่สิวอักเสบ เป็นภาวะที่เรื้อรังและรักษาค่อนข้างนาน หลายคนกลัวและไม่อยากใช้ยาทากลุ่มสเตอรอยด์บ่อย ๆ นาน ๆ เพราะกลัวผลข้างเคียง เช่น ผิวบาง เกิดเป็นจ้ำเลือด หลอดเลือดที่ผิวขยายตัว ติดเชื้อที่ผิวหนังได้ หรือบางคนไม่สามารถทนผลข้างเคียงของยารักษาสิวได้เพราะผิวแห้งลอกแสบแดงมาก

การหันมาใช้สกินแคร์กลุ่มที่ช่วยลดการอักเสบและการระคายเคืองแทนก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ประสิทธิภาพอาจน้อยกว่าหรือเทียบเท่า แต่ผลข้างเคียงย่อมน้อยกว่าแน่นอน

ส่วนผสมจากธรรมชาติก็ที่นิยมใช้ในสกินแคร์บำรุงและลดการอักเสบผิว และ สกินแคร์สำหรับสิวอักเสบ เพราะมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ ลดการระคายเคืองได้ดี

ยกตัวอย่าง

Solanum Lycopersicum (Tomato) Fruit Extract หรือ IBR-TCLC®  Glycyrrhiza Inflata Root Extract

Glycyrrhiza Inflata Root Extract

เป็นสารสกัดจากรากชะเอมเทศ
มีสารสำคัญ คือ licochalcone A
ช่วยลดการอักเสบ ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวช่วยให้รอยดำจางเร็วขึ้น

Narcissus Tazetta Bulbs Extract หรือ BR-Dormin®

สารสกัดจากต้นนาร์ซิสซัสทาเซ็ตต้า
ช่วยคุมความมัน ลดการอักเสบสิวได้ดี หากใช้ในความเข้มข้น 2%

Solanum Lycopersicum (Tomato) Fruit Extract หรือ IBR-TCLC®

เป็นสารสกัดจากมะเขือเทศ Tomato Colorless Carotenoids
มีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ Phytoene และ Phytofluene ซึ่งเป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ เช่นเดียวกับไลโคปีน และเบต้าแคโรทีน ซึ่ง IBR-TCLC® มีข้อแตกต่างตรงที่เป็นแคโรทีนอยด์ที่ไม่มีสี จึงนิยมนำมาผสมในสกินแคร์
ช่วยกักเก็บน้ำให้ผิวชุ่มชื้น ยับยั้งการทำร้ายผิวจากสารอนุมูลอิสระ ริ้วรอยเล็กดูดีขึ้น
นำเข้าจากประเทศอิสราเอล ซึ่งนำมาสกัดผ่านเทคโนโลยีเฉพาะจนได้สารสำคัญ 2 ชนิด คือ Phytoene และ Phytofluene

ปัจจุบันมีการพัฒนาสูตรผสมที่รวม BR-Dormin® และ IBR-TCLC® เข้าด้วยกัน เรียกว่า IBR-ProPhyDerm® โดยมีการศึกษาทั้งในหลอดทดลองและในผิวหนังมนุษย์พบว่ามีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองและมีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบผิวได้เป็นลงตัวเป็นอย่างดี

กลไก คือ
▫️Anti oxidation ลดการทำร้ายผิวจากแสงแดดและ ROS เช่น hydroxy radicals, super oxides, nitric oxides
▫️Anti inflammation ลดการหลั่งสาร IL-6, IL-12, PGE-2 ซึ่งเกี่ยวข้องในระบบอิมมูนผิวและกระบวนการอักเสบผิว
▫️ ยับยั้งเอนไซม์ MMP-1 (collagenase) ซึ่งเป็นตัวย่อยสลายคอลลาเจนในชั้นผิว ส่งผลให้ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
▫️DNA & cell membrane lipoproteins protection ลดการทำร้ายผิวจากสารอนุมูลอิสระ

และมี Clinical study ของ IBR-ProPhyDerm® เมื่อทดสอบการทาในผื่นผิวหนังอักเสบ เช้าเย็น ทุกวัน นาน 28 วัน โดยพบว่าอาการแดง ตุ่มนูน ขุย และอาการคัน ดีขึ้นเทียบเท่ากับยาทาสเตียรอยด์ hydrocortisone 1% cream

ยกตัวอย่างสกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ลดการอักเสบ Solanum Lycopersicum (Tomato) Fruit Extract และ Narcissus Tazetta Bulbs Extract เช่น Acne Cycle Clear Serum โดยฟาร์มูล่า [ดูรายละเอียดเพิ่มเติมตอนท้าย]

Aloe barbadensis Leaf Extract , Scutellaria Baicalensis Root Extract

Aloe barbadensis Leaf Extract

สารสกัดจากใบของต้นว่านหางจระเข้
มีสารสำคัญ คือ mucopolysaccharide, anthraquinones, chrysophanic acid, aloctin A, amino acid, sterols, etc
ช่วยลดการอักเสบ แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

Centella Asiatica Extract

สารสกัดจากใบบัวบก
มีสารสำคัญ คือ triterpenoids, madecassid, Asiatic acid, asiaticoside, centelloside, brahmic acid
ช่วยสมานแผล ลดการบวมน้ำ ลดการอักเสบ ลดรอยแดงรอยดำหลังการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว

Portulaca Oleracea Extract

สารสกัดจากผักเบี้ยใหญ่
มีสารสำคัญ คือ omega 3, phenolic compounds esp. oleraceins, citric acid, vitamin A&C&E, CoQ10
ช่วยลดการอักเสบ ลดการระคายเคือง ลดอาการคัน
ยับยั้งการทำงานของไทโรซิเนสได้ดีกว่า kojic acid, arbutin แต่ด้อยกว่า ascorbic acid เล็กน้อย ผิวแลดูกระจ่างใส

Scutellaria Baicalensis Root Extract

เป็นสารสกัดของต้นสคิวลาเรีย
มีสารสำคัญ คือ baicalin ซึ่งเป็นกลุ่ม flavonoid
ช่วยลดการอักเสบ ลดการเกิดสิว ยับยั้งการทำร้ายผิวจากสารอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรียในหลอดทดลอง เช่น S. aureus

🏥🏥 BOTTOM LINE

ส่วนสกินแคร์ที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ลดการอักเสบหรือระคายเคือง อาจเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยบรรเทาอาการแสบ คัน ระคายเคืองได้ในเบื้องต้น หรือบางกรณี เช่น ผิวหนังแห้งอักเสบ หรือ สิวอักเสบ ก็สามารถใช้ในระยะยาวเพื่อลดผลข้างเคียงของการใช้ยาทาโดยเฉพาะในกลุ่มสเตอรอยด์

อย่างไรก็ตาม หากมีอาการที่สงสัยว่ามีผิวหนังอักเสบ หรือ สิวอักเสบหรือไม่ แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ


References
Int J Mol Sci. 2021 Oct 12;22(20):10978.
Biomed Pharmacother. 2021 Oct;142:112018.
J Clin Aesthetic Derm. 2009;2(1):36–40.


[Disclaimer] สนับสนุนบทความโดย
Pharmular Acne Cycle Clear Serum

เซรั่มสูตรเข้มข้น ช่วยลดการอักเสบสิว เสริมกำแพงผิว ปลอบประโลมผิว ลดโอกาสเกิดรอยแดงรอยดำและลดการเกิดสิวในอนาคต
ส่วนผสมหลัก

  • Solanum Lycopersicum (Tomato) Fruit Extract, 2% Narcissus Tazetta Bulbs Extract, Portulaca Extract, Licochalcone A, 4% niacinamide ช่วยลดการอักเสบของสิวและผิวหนัง ลดรอยแดงหลังการอักเสบ
  • Grean tea, vitamin E ช่วยลดการทำลายผิวจากสารอนุมูลอิสระ
  • Centella extract, hyaluronic acid, hydroxyethyl urea, aloe vera ช่วยให้ความชุ่มชื้นผิว เสริมกำแพงผิว
    ไม่มีพาราเบน, แอลกอฮอล์, น้ำหอม, สี, ซิลิโคน
    อ่อนโยน เหมาะกับผิวที่เป็นสิว ใช้ได้ทุกสภาพผิว

**ผลลัพธ์การตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ขึ้นกับสภาพผิวแต่ละบุคคล

Pharmular Acne Cycle Clear Serum

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Tannic acid ซุปตาร์ชะลอริ้วรอยแห่งวัย

หนึ่งในซุปตาร์ส่วนผสมชะลอริ้วรอยแห่งวัยอีกตัว ที่วันนี้อยากให้รู้จักกัน คือ Tannic acid

Tannic acid เป็นสาร phenolic compound ที่ได้จากการไฮโดรไลซ์ Tannin มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น การใช้เป็นยารักษาโรคบางอย่าง ใช้ปรุงแต่งรสในอาหารและเครื่องดื่ม สามารถพบได้ในใบของพืชและเปลือกผลไม้หลายชนิด เช่น Japanese gall (Rhus javanica) หรือ gallnut (Quercus infectoria) หรือ เปลือกผลไม้พวกองุ่น ชาเขียว และสิ่งทีทำให้มหัศจรรย์กว่านั้น คือทำให้ ต้นสนยักษ์ ซีคัวญา มีอายุยืนยาวได้มากกว่า 3,000 ปี (ต้นสนยักษ์ในรูป)

Tannic acid ชะลอวัย
Tannic acid

ในแง่ผิวหนัง ปัจจุบันมีการกล่าวถึงประโยชน์ของการนำกรดแทนนิกมาผสมในสกินแคร์มากขึ้น
Tannic acid เป็นที่นิยมนำมาผสมในสกินแคร์กลุ่มต้านอนุมูลอิสระเพื่อหวังผลเรื่องการชะลอผิวเสื่อมจากวัย, แสงแดดและมลภาวะ เพราะมีคุณสมบัติ ดังนี้

✔️ Photoprotection
สามารถดูดซับแสงได้หลายความยาวคลื่น และ ช่วยปกป้องและลดความเสียหายของ DNA & fibroblast และลดการทำร้ายผิวจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสียูวีและมลภาวะ
✔️ Anti oxidation
ยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ Hydroxy radical ได้ดี และมีฤทธิ์เสริมการทำงานกับ L-ascorbic acid ทำให้ต้านอนุมูลอิสระโดยยับยั้งปฏิกิริยา Fenton ได้ดีมากยิ่งขึ้น
✔️ Anti inflammation
ช่วยลดการอักเสบที่ผนังหลอดเลือด และลดการเกิดอนุมูลอิสระในผนังเส้นเลือดได้ ช่วยสร้างและกระตุ้น KLF2 (Kruppel-liked Factor 2) ซึ่งช่วยลดการอักเสบในผนังเส้นเลือด
✔️ Scavenger
กำจัดโลหะหนักและสารอนุมูลอิสระ เช่น DPPH, superoxide anion, peroxyl, nitric oxide and peroxynitrite
✔️ Anti collagenase, elastase & MMP-1
ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่มาทำลายโครงสร้างผิว เช่น อิลาสติน คอลลาเจน ไฮยาลูรอน

ดังนั้น โดยรวมจึงส่งผลให้ผิวแลดูมีสุขภาพดี ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูลดลง จากคุณสมบัติดังกล่าวทำให้ tannic acid ถูกขนานนามว่าเป็น Anti photoaging agent ที่ดีมากตัวหนึ่ง

ในแง่ของการ เสริมกำแพงผิวและลดผื่นผิวหนังอักเสบ พบว่า Tannic acid ยังมีข้อมูลเรื่องการทาเพื่อลดการอักเสบผิวและสามารถเสริมกำแพงผิวให้แข็งแรงขึ้นได้ จากข้อมูลทดลองในหนู พบว่าสามารถยับยั้ง NFsignaling, เพิ่ม PPARγ protein expression
และลดการอักเสบของผื่นผิวหนังได้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าสนใจและน่าติดตามว่าอนาคตจะมีการนำมาประยุกต์กับผิวมนุษย์ในแง่การทำสกินแคร์เสริมกำแพงผิวหรือไม่

นอกจากนั้น Tannic acid ยังมีข้อมูลช่วยลดการหายของแผล ต้านเชื้อแบคทีเรีย และลดการเกิดรอยแดงจากการอักเสบได้

PRACTICAL POINT

ปัจจุบันแนวโน้มของการใช้สกินแคร์กลุ่มฟื้นฟูผิว เพื่อการบำรุงผิวมีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Anti-aging เพราะมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของ Anti-oxidant และ Photoprotection ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยชะลอให้ความเสื่อมของผิวเราเกิดขึ้นได้ช้าลง เพราะไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตปัจจุบันที่ต้องเผชิญแสงแดดและมลภาวะเป็นประจำ ทำให้ผิวถูกทำร้ายโดยไม่รู้ตัว

สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Tannic acid เป็นอีกตัวที่มีข้อมูลการทาเพื่อช่วย Anti-aging ได้ดี และหากใช้ร่วมกับ L-ascorbic acid จะช่วยเสริมฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระได้มากขึ้นอีก

ยกตัวอย่าง Tannic [CF] Serum ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Alphascience แบรนด์เวชสำอางผู้นำด้าน Cutting-edge antioxidant technology จากฝรั่งเศส ก็มีส่วนผสมหลักเป็น 2% Tannic acid และ 10% Stabilized L-Ascorbic acid ร่วมด้วย (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมตอนท้าย)

หวังว่าบทความจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปประยุกต์ใช้ในการดูแลผิวของทุกท่านนะคะ

ด้วยความปรารถนาดี


References
Int J Biol Macromol. 2021 Nov 30;191:918-924.
Adv Wound Care (New Rochelle). 2019 Jul 1;8(7):341-354.
Exp Dermatol. 2018 Aug;27(8):824-826.
Cytokine. 2015 Dec;76(2):206-213.
J Invest Dermatol. 2010 May;130(5):1459-63.


[Disclaimer] สนับสนุนความรู้โดย
Tannic [CF] Serum
จาก AlphascienceThailand แบรนด์เวชสำอางผู้นำด้าน Cutting-edge antioxidant technology จากฝรั่งเศส

Tannic [CF] Serum จาก Alphascience Thailand
Tannic [CF] Serum

เซรั่มช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอริ้วรอยแห่งวัย ผิวแลดูใสและจุดด่างดำจางลงเร็ว
เหมาะกับผิวธรรมดา ผิวแห้ง

ส่วนผสมหลัก
▫️2% Tannic acid ลดการทำร้ายผิวจากอนุมูลอิสระ ยับยั้งในกระบวนการผลิตเม็ดสีผิวเมลานิน เสริมการสังเคราะห์คอลาเจนใต้ผิว
▫️10% Stabilized L-Ascorbic acid รูปแบบที่เสถียรสูงจากการทดสอบโดย SGS Multilab พบว่าการออกฤทธิ์คงตัวเกือบ 90% แม้อยู่ในอุณหภูมิสูงถึง 40°C เป็นเวลา 3 เดือน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาเจนใต้ผิว ผิวแลดูกระจ่างใส
▫️0.5% Ferulic acid ลดการทำร้ายผิวจากอนุมูลอิสระและซ่อมแซมผิวถึงระดับ DNA
▫️Ginkgo Biloba ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และ ช่วยผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น

*ข้อมูลจาก Alphascience ในหญิง 22 คน เฉลี่ยอายุ 59 ปี หลังการใช้ Tannic [CF] Serum ทุกเช้า นาน 1 เดือน พบความพึงพอใจ ผิวนุ่มยืดหยุ่นขึ้น 98%, ผิวหน้าเนียนขึ้น 75%, จุดด่างดำแลดูลดลง 58%, ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสขึ้น 70%

ไม่แนะนำให้ใช้ในผิวที่เป็นแผล หรือ หลังทำหัตถการ 48 ชั่วโมง
ปราศจากพาราเบน น้ำหอม สารกันเสีย และไม่มีการทดลองในสัตว์
เหมาะสำหรับคน ผิวปกติ และผิวแห้ง

**ผลลัพธ์การตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ขึ้นกับสภาพผิวแต่ละบุคคล

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.