วันนี้มีคนไข้ที่ตัดไฝและนัดมาตัดไหมหลายคนเลย ทุกคนถามด้วยคำถามเดียวกันว่า ทาอะไรป้องกันแผลเป็นนูนได้บ้างคะ/ครับคุณหมอ ‼️
หมอเคยเขียนเรื่อง #การรักษาแผลเป็นนูนคีลอยด์ ไปแล้วก่อนนี้ สามารถกลับไปทบทวนได้ค่ะ ในลิ้งค์นี้เลย
https://www.facebook.com/476743752739537/posts/959204974493410/?extid=0&d=n
วันนี้เลยจะมาเล่าเพิ่มเติมนิดหน่อยว่า กรณีที่เกิดแผล แกะสิว หรือ หลังทำเลเซอร์ หลังผ่าตัด เราจะใช้ซิลโคนเจลอย่างไรดีเพื่อ ลดโอกาสการเกิดแผลเป็นนูนคีลอยด์ได้ในอนาคต
1. วิธีที่สามารถดูแลตัวเองเองเบื้องต้นที่บ้านได้สะดวกและปลอดภัยที่สุด คือ การทาหรือแปะแผ่นซิลิโคนเจล
ดังนั้น หากลองแล้วประมาณ 2-3 เดือน ไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์เพื่อพิจารณาปรับการรักษาวิธีอื่นตามความเหมาะสม
2. ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาแผลเป็นนูนคีลอยด์ที่ได้ผลดีที่สุด การใช้หลายวิธีร่วมกันก็ยังคงเป็นสิ่งที่แนะนำเสมอ ร่วมกับ การรักษาแผลอย่างถูกวิธี
ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือ ระวังการเกิดบาดแผลโดยเฉพาะบริเวณที่มักเกิดแผลเป็นนูนได้บ่อย เช่น หน้าอก ไหล่ หลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นสิวและชอบแกะเกา เป็นต้น
3. ซิลิโคนเจล สามารถใช้แบบชนิดทา หรือ แบบแผ่นแปะก็ได้ หากใช้อย่างถูกวิธีจะได้ผลการรักษาใกล้เคียงกัน แบบชนิดทาจะช่วยลดอาการคันได้ดีกว่าแบบแปะนิดหน่อย แต่ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้น ใช้อะไรก็ได้ตามความสะดวก แต่ต้องใช้ให้ถูกวิธี
4. กลไกป้องกันและรักษาแผลเป็นนูนคีลอยด์ของซิลิโคนเจล คือ เพิ่มความชื้นและลดการระเหยน้ำจากแผลเป็นคีลอยด์ ช่วยลดการทำงานของไฟโบรบลาส ลดการสร้างคอลลาเจนที่ผิดปกติ ทำให้แผลเป็นนุ่มขึ้นและแบนราบขึ้น
ดังนั้น การใช้ซิลิโคนเจล จึงแนะนำให้ทาต่อเนื่องอย่างน้อย 6-12 เดือนหลังแผลหาย เพราะถึงแม้ผิวด้านบนดูสมานดี แต่ด้านล่างยังคงมีกระบวนการซ่อมแซมผิวอย่างต่อเนื่องอยู่
5. การใช้ซิลิโคนแบบแผ่นแปะให้ได้ผล ควรแปะแผ่นซิลิโคนเจลต่อเนื่อง อย่างน้อยวันละ 12 ชั่วโมง นานอย่างน้อย 6-12 เดือน ขึ้นกับงานวิจัย และเลือกแปะบริเวณที่สะดวก เลื่อนหลุดได้ยากหน่อย เช่น หลัง อก เป็นต้น
ดังนั้น บริเวณที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เช่น มือ เข่า ศอก หรือบริเวณใบหน้าที่ต้องคำนึงถึงความสวยงามร่วมด้วย ก็อาจไปใช้ชนิดทาจะเหมาะสมกว่า
6. การใช้ซิลิโคนเจลรูปแบบทา ให้เริ่มทาตั้งแต่ตอนที่แผลแห้งและปิดสนิทมีสีชมพู หรือหลังตัดไหมแล้ว โดยทาเช้าเย็น ปาดครั้งเดียว ไม่ต้องถูไปมา หลังทาแล้วจะแห้งเหมือนฟิล์มบาง ๆ เคลือบผิวไว้
ดังนั้น แนะนำว่าหลังทาแล้วควรปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง 3-5 นาที ก่อนจะแต่งหน้าหรือใส่เสื้อผ้าทับ เพื่อป้องกันการลอกหลุดของเจล และหากเวลารีบด่วนอาจใช้ไดร์หรือพัดลมเป่าช่วยแห้งเร็วขึ้นได้
7. ส่วนผสมอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลแผลเป็นในซิลิโคนเจล ได้ก็อย่างเช่น
Vitamin C : ช่วยปรับสีของแผลเป็นให้จางลง
Vitamin E : ช่วยลดการอักเสบและสมานแผล แผลนุ่มชุ่มชื้น
Moisturizer : ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวเพื่อรักษารอยแผลเป็นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น glycerin, allantoin
ดังนั้น ลองเลือกดูตามความเหมาะสม
8. ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์กลุ่มที่เป็น ซิลิโคนเจลที่ใช้ได้มีหลายยี่ห้อ เช่น

• Strataderm & Stratamed
มี Polydimethylsikoxanes, Slioxanas, Alkylmethyl Silicones
• Hiruscar Silicone Pro
มี MPS, VitC
• Smooth E Scar Silicone Gel
มี Cyclopentaxyloxane, dimethicone
• Dermatix Ultra
มี Cyclopentaxyloxane, VitC
• Provamed Scar Silicone
มี Cyclopentaxyloxane (CPX), vitC, vitE
• Vitara Ultra Silicone gel
มี Cyclopentaxyloxane (CPX), vitC, vitE
• Kelosil Silicone Scar gel
มี Dimethylpolysiloxane (DPX) และ Cydopentasiloxane (CPX), VitC
• Actewound SI silicone gel
มี Cyclopentasiloxane, Polydimethylsiloxane
• Clenascar silicone gel
มี Cyclopentaxyloxane (CPX), vitC
9. การทาซิลิโคนเจลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการป้องกันและรักษาแผลเป็นนูนคีลอยด์ที่สามารถทำได้เองไม่ยากในระยะเริ่มแรก อาจลองเลือกผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ดูตามความชอบเนื้อสัมผัส, ส่วนผสมอื่นเพิ่มเติม รวมทั้งงบประมาณของแต่ละบุคคล และโดยส่วนใหญ่หากแผลเป็นมานานเกิน 6 เดือนขึ้นไป มักไม่ค่อยได้ผลกับการรักษาด้วยวิธีนี้
ดังนั้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อพิจารณาการรักษาด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติมต่อไปค่ะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในการดูแลสุขภาพผิวเวลาเกิดบาดแผล และโดยเฉพาะคนที่มีประวัติการเป็นแผลเป็นนูนมาก่อน ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืม #พิมพ์หัวใจสีเขียว 💚 เป็นกำลังใจให้ตามระดับความชอบด้วยค่ะ
– No Sponsored Content –
Reference
J Clin Aesthet Dermatol. 2020;13(2):33–43.
J Cutan Aesthet Surg. 2009 Jul-Dec; 2(2): 104–106.
บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.