Category Archives: Aesthetics

How to ป้องกันผิวไหม้แดด เมื่อไปเที่ยว

เคยสังเกตไหม เวลาไปทะเลทีไร กลับมาผิวไหม้ หมองคล้ำตลอด อาจเป็นเพราะเรายังปกป้องผิวจากแสงแดดไม่พอ

ไปเที่ยวธรรมดา ก็ว่าคล้ำแล้ว แต่รู้ไหมว่าไปเที่ยวทะเล ยิ่งมีโอกาสผิวไหม้แดดมากกว่า เพราะพื้นผิวมีผลกับการสะท้อนรังสียูวีแตกต่างกัน เช่น หิมะสะท้อนรังสียูวีได้ 80% ส่วนผิวน้ำสะท้อนรังสียูวีได้ 25% และ พื้นทรายสะท้อนรังสียูวีได้ 15% ทำให้รังสียูวีที่เราได้รับนั้นมากขึ้นไปอีก

☀️ อันตรายของรังสียูวี

รังสี UVA สามารถลงลึกถึงชั้นหนังแท้ หรืออาจลึกกว่านั้นในกรณีของ UVA1
ส่งผลให้เกิด aging ผิวชรา หลอดเลือดขยายตัว กระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิว ทำให้เกิดความหมองคล้ำ ฝ้ากระเข้มขึ้น ทำลาย DNA ทำให้เกิดรอยโรคที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้

รังสี UVB สามารถลงลึกถึงชั้นหนังกำพร้า
ส่งผลให้เกิดการไหม้ของผิว และในระยะยาวอาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้

UV รังสียูวี
UV

☀️ ผิวไหม้แดด หรือ Sun burn คืออะไร

เกิดจากผิวถูกแดดมากเกินไป จนทำให้มีการอักเสบ ทำลายเซลล์ผิว จนเกิดการ แดง บวม ปวด
อาการเหล่านี้มักเกิดไม่กี่ชั่วโมงหลังถูกแดดจัด และหากเป็นรุนแรงอาจทำให้เกิดตุ่มน้ำ ผิวลอก มีไข้ หนาวสั่นตามมาได้

Sun burn​
Sun burn

☀️ วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดผิวไหม้แดด

  • ประคบเย็น หรือ อาบน้ำเย็น ช่วยลดอุณหภูมิและการอักเสบของผิวได้
  • ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพิ่มความชุ่มชื้นผิว
  • ทาครีมบำรุง หรือ Post sunburn gel เพื่อช่วยให้ผิวซ่อมแซมได้เร็วขึ้น
  • หากมีอาการปวด สามารถทานยา NSAIDs ลดอาการปวดได้
  • หากมีอาการรุนแรง มีตุ่มน้ำ มีไข้ ผิวไหม้เป็นบริการกว้าง แนะนำพบแพทย์

☀️วิธีป้องกันผิวไหม้แดดเมื่อไปทะเล

  1. ป้องกันแดด ด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้แก่ หมวกปีกกว้าง (Wide-brimmed hat), เสื้อผ้ากันยูวี (UV-protective clothing), แว่นตากันรังสียูวี (UV-protective sunglasses), ชุดว่ายน้ำที่ทำจากเส้นใยกันแดดได้ (UV-protective fabric swim gear) เป็นต้น
  2. อยู่ในร่ม พยายามหาที่ร่ม เดินตามร่มเงาของต้นไม้หรืออาคารต่าง ๆ
  3. พยายามเลี่ยงแดดในช่วง 10 โมงเช้า ถึง บ่ายสี่โมงเย็น
  4. ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพราะหากร่างกายขาดน้ำ จะเพิ่มความไวของผิวต่อการไหม้แดดกว่าเดิม
  5. ทาผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดด สม่ำเสมอ แนะนำทาก่อนออกแดด 15-20 นาที ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง และทาบ่อยขึ้นหากเหงื่อออกเยอะหรือมีการอาบน้ำล้างหน้าใช้ผ้าเช็ดตัวถูร่างกาย
    Physical หรือ Chemical sunscreen โดยเลือกตามลักษณะกิจกรรมในแต่ละวันเป็นหลัก ซึ่งแปลว่าเราอาจจะมีครีมกันแดดหลายตัว เลือกใช้สลับไปมาก็ได้ขึ้นกับว่าวันนั้นเรามีกิจกรรมอะไรบ้าง เช่น ถ้าหากเป็นกิจกรรมที่ต้องลงน้ำ สัมผัสทราย เล่นกีฬาที่ต้องมีการเสียดสีหรือมีเหงื่อเยอะ ต้องเลือกที่มีประสิทธิภาพกันน้ำกันเหงื่อ (Water resistant)
    ✅ สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งควรเป็น Board spectrum กันรังสี UVA (PA++++ ขึ้นไป), UVB (SPF 30 ขึ้นไป) ถ้าหากแดดจัดก็อาจต้องเพิ่มค่าขึ้นไปอีก
    ✅ ผสม Antioxidants หรือ DNA repair enzymes จะช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาของสารกันแดดที่ผิว หรือ สารอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสียูวีที่ทะลุผ่านการป้องกันของสารกันแดดโดยตรง ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายของ UV-induced ROS
    ✅ เลือกเนื้อครีมหรือโลชั่น แนะนำที่สุด เพราะสามารถคำนวณปริมาณในการทาได้ค่อนข้างดี โดยครีมกันแดดที่มี SPF เท่ากัน หากเป็นรูปแบบ water in oil (W/O) จะทำให้ทาแล้วได้ค่า SPF ใกล้เคียงตัวเลขที่ระบุไว้มากที่สุด และสามารถกันน้ำได้ดี ทำให้ได้ประสิทธิภาพที่มากกว่ารูปแบบ oil in water (O/W) ซึ่งมักจะไม่ค่อยกันน้ำเท่าไรนัก
    ✅ หากจะให้ดีควรเลือกที่ labeled as “reef-safe” or “reef-friendly เพื่อเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยต่อระบบนิเวศน์ในท้องทะเล มองหา mineral-based sunscreens เช่น zinc oxide, titanium dioxide และไม่ควรมีสารกลุ่มนี้ Oxybenzone (Benzophenone-3), Octinoxate (Ethylhexyl methoxycinnamate), 4-Methylbenzylid Camphor (4MBC), Butylparaben เป็นต้น

BOTTOM LINE

การป้องกันผิวไหม้แดด ย่อมดีกว่ามาแก้ไขภายหลังแน่นอนค่ะ การทาครีมกันแดดสม่ำเสมอเวลาไปเที่ยวทะเลจำเป็นอย่างยิ่ง อย่าลืมทาครีมกันแดดบริเวณที่มองเห็นได้ยาก เช่น ใบหู ริมฝีปาก หลังเท้า ท้ายทอย และหากใช้ครีมกันแดดชนิดกันน้ำ แนะนำให้ใช้ตัวล้างเฉพาะ ก่อนทำการล้างหน้าปกติ การทาครีมกันแดดนอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายด้วยรังสียูวี ป้องกันผิวไหม้แดด ป้องกันมะเร็งผิวหนังแล้ว ยังช่วยเรื่องชะลอผิวเสื่อมชราด้วยค่ะ

PRACTICAL POINTs

เทคนิคอีกอย่างที่ช่วยป้องกันผิวไหม้แดดได้ดี คือ การทาครีมกันแดด ร่วมกับ Post sunburn product จะช่วยลดการอักเสบผิวและช่วยฟื้นฟูผิวจากการออกแดดจัดหลังไปเที่ยวได้ดี จับคู่ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของ ANESSA ที่มีคนถามถึงเยอะ คือ

ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk (Gold Milk) เป็นครีมกันแดดสูตรน้ำนม เนื้อบางเบา

  • SPF50+ PA++++, Very water resistant กันน้ำ กันเหงื่อ, sand proof ทรายไม่ติดผิว เอาอยู่ทุกกิจกรรม
    มีการพัฒนาจากสูตรใหม่ เพิ่มเติม ได้แก่
  • Auto Repair Technology เทคโนโลยีปกป้องผิวจาก UV ต่อเนื่องและครอบคลุมผิวยิ่งขึ้น
  • Auto Booster Technology เทคโนโลยีบูสประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากรังสี UV มากยิ่งขึ้นเมื่อผิวสัมผัสกับความร้อน เหงื่อ น้ำ และความชื้นในอากาศ
  • Skin Beautifying Sun Essense เพิ่มส่วนผสมสารบำรุงกว่า 50% ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการสร้างเม็ดสีผิว ได้แก่ Unshiu citrus peel extract, Purple tea extract, Green tea extract, Potentillaerecta root extract, Collagen GL, hyaluronic acid
  • Coral respect เป็นมิตรต่อทะเล ไม่มีสารทำร้ายปะการัง
  • New sustainable paper box บรรจุในกล่องกระดาษผลิตจากแหล่งวัตถุดิบที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk (Gold Milk)
ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk (Gold Milk)

ANESSA Night Sun Care Serum จะมีส่วนผสมของ Natural extracts ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวจากการถูกแสงแดดในระหว่างวัน ให้ความชุ่มชื้น 24 ชั่วโมง ได้แก่

  • Niacinamide ช่วยรอยดำ ความหมองคล้ำ ช่วยผิวและดูกระจ่างใส
  • Glycyrrhizate หรือ Licorice รากชะเอมเทศ ช่วยลดการอักเสบ ลดการสร้างเม็ดสีผิว
  • Green Tea Extract สารสกัดชาเขียว เป็น anti oxidant ลดการทำร้ายผิวจากสารอนุมูลอิสระจาก UV
ANESSA Night Sun Care Serum
ANESSA Night Sun Care Serum

พิกัด ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk (Gold Milk) https://bit.ly/3VnqmiZ
พิกัด ANESSA Night Sun Care Serum ขายที่วัตสันเท่านั้น

#ANESSAULTIMATEPREVENTION #ANESSAThailand #ANESSABeautySuncare

References
Can J Public Health. 2010 Jul-Aug;101(4):15-9.
Health Educ Res. 2012 Apr;27(2):200-13. doi: 10.1093/her/cyr050.
Int. J. Cosmet. Sci. 2013; 35(3): 224–232.
Am J Clin Dermatol. 2017 Oct;18(5):643-650.
J Am Acad Dermatol. 2017 Aug;77(2):377-379.J Cutan Med Surg. 2019 Jul/Aug;23(4):357-369.

อ่านบทความย้อนหลัง http://www.helloskinderm.com
รวมลิงค์ https://opl.to/drwarayuwadee
บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Melaphenone® โครงสร้างโมเลกุลที่ออกแบบโดย AI เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว

ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับสารนวัตกรรมตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Melaphenon® อยากให้รู้จัก cosmelan กันก่อน

cosmelan

ประกอบด้วย Cosmesome + Melaphenone®

Cosmesome เป็น Encapsulated complex ในถุง Liposome ชนิด Transethosome ที่ภายในประกอบด้วย Flavonoids 2 อย่าง คือ Apigenin และ Phloretin ที่ต้องอยู่ในถุง Transethosome เพื่อให้คงตัว และ เพื่อให้ Transethosome นำพาสารสำคัญลงสู่ผิวชั้นลึกได้เนื่องจากมีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นได้ดี

cosmelan 2
ส่วนประกอบของ cosmelan

Cosmesome มีคุณสมบัติหลัก คือ

1. กลไกช่วยชะลอวัย (Anti-aging)

– กระตุ้นการสร้าง collagen,elastin

– ลดเอนไซม์ MMP ที่ย่อยสลายคอลลาเจน

– เพิ่ม TIMP1 ซึ่งช่วยยับยั้ง MMP

2. กลไกลดการสร้างเม็ดสี (Depigment)

– ยับยั้งกลไกสร้างเม็ดสี

– กำจัดกินเซลล์เม็ดสี (Autophagy)

– ลดระดับยีน DCT, MITF และ TYRP1 ซึ่งมีผลต่อการสร้างเม็ดสี

Melaphenon® เป็นโครงสร้างเอกสิทธิ์เฉพาะ ของ mesoestetic ซึ่งออกแบบโดย Computer design (AI) ซึ่งมีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่ารุ่นเก่า โดยมีคุณสมบัติหลัก คือ

1. กลไกช่วยชะลอวัย (Anti-aging) ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้

– Anti glycation ป้องกันปฏิกิริยาการเกิด AGEs ซึ่งจะไปทำลายคอลลาเจนที่ผิว

– Anti oxidative stress ลดการเกิดสารอนุมูลอิสระ

2. กลไกลดการสร้างเม็ดสี (Depigment)

– ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase

การศึกษาที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของ cosmelan มีทั้ง In vitro & Ex vivo

การศึกษาในหลอดทดลอง In vitro พบว่า ลดการสร้างเม็ดสีเมลานินได้ 90% ใน 72 ชั่วโมง

การศึกษาในเนื้อเยื่อมนุษย์ Ex vivo พบว่า เริ่มลดเม็ดสีเมลานินในผิวได้จริงหลังใช้ 8 วัน

cosmelan 2
cosmelan 2

สกินแคร์ไลน์ cosmelan มีคุณสมบัติช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิวเป็นหลัก โดยผ่านกลไกยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase และอื่น ๆ ต่อมา Mesoestetic® ได้มีการปรับสูตรนวัตกรรมใหม่เป็น cosmelan2 new formula ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม ช่วยป้องกันกลับเป็นซ้ำของฝ้าและรอยดำได้ดีขึ้น และช่วย anti-aging กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ริ้วรอยเล็กแลดูลดลง สุขภาพผิวดีขึ้น โดยเพิ่มส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพอีกหลายอย่างที่ออกฤทธิ์ยับยั้งตามกลไกของการเกิดฝ้า เช่น

– ปรับ Salicylic acid เข้มข้นขึ้น

– เปลี่ยน Kojic -> Kojic dipalmitate ซึ่งคงตัวมากขึ้น

– มีการเพิ่มสาร retinol, hexyl resorcinol, idebenone, hesperidin ซึ่งเพิ่มการต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มความกระจ่างใส (เดิมมีเพียง retinyl palmitate)

– มีการเพิ่ม melaphenone เป็น patented ซึ่งเพิ่มคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระ และช่วยยับยั้งการทํางานของเอนไซม์ tyrosinase

– มีการเพิ่ม cosmesome เป็ น encapsulated ซึ่งประกอบด้วยสาร apigenin และ phloretin ช่วยซึ่งกระตุ้นการสร้าง collagen และลดการสร้างเม็ดสี

cosmelan 2 new formula
cosmelan 2​
cosmelan 2

สิ่งที่สำคัญอีกประการ คือ เมื่อทุกอย่างรวมอยู่ในชิ้นเดียวกันแล้ว ส่งผลให้ช่วยลดขั้นตอนการทา ทำให้ง่ายต่อการใช้มากขึ้น

BOTTOM LINE

การรักษาฝ้าที่มีประสิทธิภาพนั้นนอกจากจะใช้ยาหรือวิธีต่าง ๆ แล้ว จึงควรเน้นเรื่องการปกป้องแสงแดดอย่างถูกวิธี ดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงยาหรือฮอร์โมนและปัจจัยต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ้ากลับมาเข้มขึ้นใหม่ได้อีก

————————————-

References

Biofactors. 2009 Mar-Apr;35(2):193-9.

————————————-

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

ไขข้อสงสัยเรื่อง การตรวจพบ Benzene ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ในยาและผลิตภัณฑ์รักษาสิวบางอย่าง

ข่าวเรื่อง .. การตรวจพบ Benzene ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ในยาและผลิตภัณฑ์รักษาสิวบางอย่าง .. คืออะไร ยังไงดี

แอดมินไปรวบรวมมา ดังนี้

1. เมื่อ 2 วันก่อน มี Breaking news หลายสำนักจากอเมริกา ว่ามีการตรวจพบ Benzene ใน consumer products หลายกลุ่ม หลายยี่ห้อในท้องตลาด รวมทั้งพบ Benzene ในผลิตภัณฑ์กลุ่มยา Benzoyl Peroxide (BPO) ด้วยเช่นกัน ซึ่งพบว่าข้างต้นมักเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสิว

2. Benzene เป็นสารที่ก่อมะเร็งในมนุษย์ได้ เรียกได้ว่าเป็น Human carcinogens นั่นเอง

3. ความจริงแล้ว FDA กำหนดให้ Benzene level ในผลิตภัณฑ์ปลอดภัย คือ undetectable หรือ ไม่เกิน 2 parts per million (ppm)

4. ห้องแลปตรวจสอบ พบว่า Benzene ที่พบนี้ ไม่ได้เกิดจากการเจือปนในผลิตภัณฑ์หรือยาตั้งแต่แรก แต่เกิดจากปฏิกิริยาการสลายตัวเมื่ออยู่ในที่อุณหภูมิสูง

จากการทดลองที่อุณหภูมิ 3 ระดับ พบว่า

🆘 ที่ 37°C/98.6°F (อุณหภูมิร่างกายปกติ)

พบว่า ทำให้ก่อ benzene ได้ในไม่กี่สัปดาห์

🆘 ที่ 50°C/122°F (อุณหภูมิแลปมาตรฐาน ที่ใช้ทดสอบ stability testing)

ข้อมูลจากการทำสอบผลิตภัณฑ์ 66 ชนิด นาน 18 วัน

❗️พบ 1,500 ppm ใน 2/66 products

❗️พบ >100 ppm ใน 17/66 products

❗️พบ >42 ppm ใน 42/66 products

🆘 70°C/158°F (อุณหภูมิในรถที่ร้อน)

พบว่า ก่อ benzene ได้มากจนอาจทำให้เกิดการเสียหายต่อ packaging ได้

5. สมาคมแพทย์ผิวหนังอเมริกา AAD (American Academy of Dermatology) โดย Terrence A. Cronin Jr., MD, FAAD, President of the AAD Association ได้ให้คำแนะนำตอนนี้ว่า

“เรื่องการตรวจพบ Benzene ในผลิตภัณฑ์ที่มี Benzoyl peroxide ที่อยู่ในอุณหภูมิที่สูงนั้น ให้รอข้อมูลเพิ่มเติมและประกาศจาก FDA ว่าจะมีนโยบายอย่างไรต่อไป”

“หากกังวล สามารถใช้ทางเลือกอื่นในการรักษาสิวไปก่อน เช่น topical retinoid, salicylic acid, azelaic acid เป็นต้น”

ที่มา AAD

6. สรุปความเห็นส่วนตัว คิดว่า ยังไม่ต้องตื่นตระหนกมากเกินไป

ใครใช้ BPO อยู่ —> ควรเก็บให้ดี ไม่เก็บไว้ในรถหรือในที่อุณหภูมิสูง

ใครกังวล —> ไปทางเลือกอื่น เช่น topical retinoid, salicylic acid, azelaic acid

ทุกคน —> รอประกาศจาก FDA update เพิ่มเติมต่อไป

————————————-

รวมลิงค์ https://opl.to/drwarayuwadee

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

เคล็ดลับ..การทาวิตซี

เป็นที่ทราบกันดีว่า การทา Vitamin C ที่เหมาะสมนั้นไม่เพียงสามารถช่วยบำรุงผิวเท่านั้น การทาวิตามินซียังช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลายอย่างอีกด้วย ทำให้หลายคนต้องมี Vitamin C serum ในสกินแคร์รูทีนแน่ ๆ ปัจจุบันมีหลายแบรนด์พยายามพัฒนาวิตามินซีในรูปแบบทาเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เมื่อทาแล้วสามารถซึมผ่านชั้นผิวหนังกำพร้าลงไปและยังคงตัวอยู่ในสภาพที่ออกฤทธิ์ที่ชั้นหนังแท้ได้ดี มีความเสถียรและระคายเคืองต่อผิวน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

คุณสมบัติของ Vitamin C serum มีหลัก 3 อย่าง คือ

1. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)

โดย L-ascorbic acid ช่วยไปทำลายอนุมูลอิสระที่เกิดจากทั้ง UVA & UVB เช่น superoxide ion, peroxide and singlet oxygen เพื่อไม่ให้ไปทำลายคอลลาเจน, อิลาสติน, proteoglycan ที่ผิว พออ่านมาถึงตรงนี้จะนึกออกเลยว่า หากเราทา Vitamin C ควบคู่ไปกับการทา Sunscreen จะยิ่งปกป้องผิวจากยูวีและอนุมูลอิสระได้ดีขึ้นไปอีก และนอกจากนั้นพบว่า
การใช้ Vitamin E ควบคู่ไปด้วย จะเพิ่มฤทธิ์ของ Vitamin C ขึ้นไปอีกถึง 4 เท่า
การใช้ 0.5% ferulic acid + 15% vit C + 1% Vit E จะเพิ่มฤทธิ์ของ Vitamin C ขึ้นไปอีกถึง 8 เท่า

2. ยับยั้งในกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว (Antipigmentary effect)

วิตามินซี จะไปมีผลต่อ Cu ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของเอนไซม์ tyrosinase ทำให้การสร้างเม็ดสีผิวลดลง แต่เนื่องจาก vitamin C เป็นสารที่ไม่ค่อยเสถียรจึงแนะนำให้ใช้ควบคู่กับ depigmenting agents อื่นร่วมด้วย เช่น soy, licorice, glutathione เพื่อให้ได้ผลดีขึ้น

3. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว (Anti aging)

Vitamin C จำเป็นในกระบวนการสร้าง collagen (collagen biosynthesis) เพราะเป็น cofactor ของเอนไซม์ prolysyl และ lysyl hydroxylase ที่ทำหน้าที่ในขั้นตอนการสร้างคอลลาเจน โดย Vitamin C ในรูปแบบ L-ascorbic acid มีความสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีที่สุด ในขณะที่อนุพันธ์ของวิตามินซีต่างๆ มักจะมีคุณสมบัติเบื้องต้นแค่ 1-2 ข้อแรกเท่านั้น ส่วนใหญ่มักไม่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้

L-ascorbic acid ถือว่ายืนหนึ่งเหนือกว่าอนุพันธ์ของวิตามินซีตัวอื่น เพราะมีคุณสมบัติในทาง Dermatology ครบทั้ง 3 ประการข้างต้น

คุณสมบัติของวิตามินซี topical vitamin c
คุณสมบัติของวิตามินซี

ปัจจุบันมีการพัฒนาสกินแคร์ L-ascorbic acid เพื่อให้มีความ คงตัวและออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

  1. การผสมกับ antioxidants อื่น เช่น Vitamin E, Ferulic acid ช่วยลด UV-induced skin damage
  2. การทำให้อยู่ในค่า pH < 3.5 ซึ่งออกฤทธิ์ดีที่สุด โดยไม่ระคายเคือง
  3. การทำบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม คือ สุญญากาศหัวปั๊ม ทึบแสง
  4. การทำเป็น serum-based พบว่าคงตัวกว่า cream-based หรือ แยกผงวิตามินซีออกจากเซรั่มเพื่อความคงตัว
L Ascorbic Acid (LAA) ​
L Ascorbic Acid (LAA)

วิธีสังเกต Vitamin C serum เสื่อมสภาพ

โดยปกติจะมีสีใส แต่หากมีการโดนแสง ความร้อน จะทำให้เกิดการ oxidized เป็น Dehydro Ascorbic Acid (DHAA) ซึ่งเป็นสีเหลือง นั่นแสดงว่าคุณภาพอาจไม่เท่าเดิมค่ะ

ความเข้มข้นที่ได้ผล

มี Clinical studies พบว่า L-ascorbic acid ชนิดทาที่ความเข้มข้น 8-20% เหมาะสมที่สุดที่ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ และช่วยทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอได้
▪️ความเข้มข้นน้อยกว่านี้
ยังไม่มีข้อมูลสรุปว่ามีคุณสมบัตินี้ได้จริงหรือไม่
▪️ความเข้มข้นมากกว่านี้
มีการศึกษาชัดเจนว่า ไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นมากนัก แต่สิ่งที่มากขึ้นคือ ผลข้างเคียงจากการระคายเคืองผิว และราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน

ข้อควรระวัง

  • ระวังการระคายเคืองในคนที่ผิวระคายเคืองง่าย
  • ระวังการใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองง่าย เช่น AHA, retinol, ยาสิว เช่น benzoyl peroxide โดยแนะนำว่าอาจใช้สลับวันกัน หรือ คนละเวลาเช้าหรือเย็น
  • อาจทำให้มีสีผิวอมเหลืองได้ในบางราย เพราะเกิดจาก oxidized vitamin C ซึ่งหายได้เอง
ข้อควรระวังการทาวิตามินซี​
ข้อควรระวังการทาวิตามินซี

PRACTICAL POINTs

Half-life ของวิตามินซีในผิวหนังหลังการทาจนได้ความเข้มข้นสูงสุด คือ 4 วัน โดยที่เราต้องมีการกันแดดให้ดี เพราะ UV จะทำให้ระดับของวิตามินซีที่ผิวลดลงได้เร็วขึ้น ดังนั้น
▪️การทาวิตามินซีหลังโดน UV ในตอนเช้าจึงมีประโยชน์อย่างยิ่งในแง่ antioxidant และ
▪️ทาวิตามินซีก่อนนอน ก็มีประโยชน์เช่นกันในแง่ antipigment and antiaging สำหรับผู้มีปัญหาจุดด่างดำ รอยดำจากการอักเสบสิว ผิวหมองคล้ำ เริ่มมีริ้วรอย

เทคนิคการทาวิตามินซี​
เทคนิคการทาวิตามินซี

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน
ด้วยความปรารถนาดี


[HELLO SKIN’s choice]

🛒15C Antioxidant vitamin C serum by Dr.PONG
เซรั่มวิตามินซี แบบผสมสดเพื่อลดการเสื่อมสภาพ
เหมาะสำหรับปัญหาผิวหมองคล้ำ, จุดด่างดำ, เริ่มมีริ้วรอย

ส่วนประกอบหลัก
Antioxidant & Brightening
• L-ascorbic acid 15% รูปแบบที่ได้ผลดีสุดของวิตามินซีชนิดทา ลดการสร้างเม็ดสีผิว ต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอยเล็ก
• Glutathione 2% ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่พบว่าได้ผล ช่วยลดการสร้างเม็ดสี ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น และลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้
Moisturization ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว ได้แก่
• Hyalyronic acid/Poly Isopropyl Acrylamide Copolymer
Exfoliant ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ได้แก่
• Gluconolactone ซึ่งเป็นสารผลัดเซลล์กลุ่ม PHA (อ่อนโยนกว่า AHA)
รายละเอียดเพิ่มเติมรูปท้าย

15C Antioxidant Vitamin C Serum by Dr.Pong​
15C Antioxidant Vitamin C Serum by Dr.Pong

สั่งออนไลน์คลิก
Shopee : https://shope.ee/9ewxNFqxOd
Lazada : https://bit.ly/49RBxEf

#กระจ่างใสไร้ริ้วรอยด้วยวิตซี #วิตซีผสมสด #เรื่องผิวเห็นผลวัดได้ด้วยงานวิจัย

References
J Cosmet Dermatol. 2022 Jun;21(6):2349-2359.
J Cosmet Dermatol. 2020 Mar;19(3):671-676.
Nutrients. 2017 Aug 12;9(8):866.
J Clin Aesthet Dermatol. 2017 Jul;10(7):14-17.
Indian Dermatol Online J. 2013 Apr-Jun;4(2):143–146.
Skin Res Technol. 2008 Aug;14(3):376-80.

J Am Acad Dermatol. 2003 Jun;48(6):866-74.

อ่านบทความย้อนหลัง www.helloskinderm.com
รวมลิงค์ https://opl.to/drwarayuwadee
บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Microbiome and wound healing

Skin Microbiome

คือ ระบบของจุลินทรีย์ต่าง ๆ ที่ผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้จะอยู่กันอย่างสมดุลโดยปกติจะไม่ก่อโรค และยังมีส่วนในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่

1. ช่วยระบบอิมมูนผิว ฮอร์โมนและเมตาบอลิสมที่ผิวหนัง ให้มีความสมดุล

2. ช่วยให้กำแพงผิวแข็งแรงต่อสู้เชื้อโรคได้ดี

ดังนั้น หาก Skin Microbiome ไม่สมดุล จะทำให้กำแพงผิวไม่แข็งแรง เกิดหรือมีการกำเริบของโรคผิวหนังบางอย่างได้ เช่น ผิวแห้ง เกิดการอักเสบง่าย เป็นสิวบ่อย ๆ แผลหายช้า เป็นต้น

ผิวหนังมีจุลินทรีย์แบคทีเรีย 4 phyla คือ

  1. Actinibacteria เช่น Corynbacterineae, Propionibacterineae
  2. Proteobacteria
  3. Firmicutes เช่น Staphylococcaceae
  4. Bacteroides

ซึ่งสัดส่วนในแต่ละคนไม่เหมือนกัน เสมือนการที่ลายนิ้วมือของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน และในคนเดียวกันแต่ต่างบริเวณกัน เช่น แขน ขา ก็ไม่เหมือนกัน

กรณีของการสามารถสมานแผล

Skin microbiome ก็มีส่วนช่วยให้กลไกทั้ง 4 ขั้นตอน ดำเนินไปได้อย่างสมบูรณ์ ได้แก่

ขั้นตอน 1 กระบวนการหยุดเลือด

เส้นเลือดจะมีการหดตัว และมีการจับกลุ่มขอบเกล็ดเลือดบริเวณแผล เพื่อให้เลือดหยุด นอกจากนั้นยังมีการหลั่งสาร cytokines ต่าง ๆ มาช่วยในกระบวนการนี้

ขั้นตอน 2 กระบวนการอักเสบ

ทำให้มีอาการปวด บวม แดง ร้อน ตามมาได้ ระยะนี้เซลล์เม็ดเลือดขาวต่าง ๆ จะออกมากระจุกที่แผลเพื่อช่วยกำจัดเชื้อโรคและเนื้อตาย ซึ่ง Skin microbiome จะช่วยให้อิมมูลเซลล์ทำงานรวดเร็วและประสิทธิภาพดีขึ้น

ขั้นตอน 3 กระบวนการสร้างเนื้อเยื่อใหม่

ประกอบด้วย Ground substance, granulation tissue, เส้นเลือด มีการสร้างเส้นใยคอลลาเจน รวมทั้งมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาปกคลุมบริเวณแผล ซึ่งขั้นตอนนี้จะเกิดได้ดีเมื่อแผลอยู่สภาวะความชื้นที่เหมาะสมและ Skin microbiome สมดุล

ขั้นตอน 4 กระบวนการปรับสมดุลโครงสร้างของแผล

จะมีการหดตัวของแผล และ เส้นใยคอลลาเจนมีการเรียงตัวสวยงาม ทำให้แผลแบนราบลง ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาช้าเร็วในแต่ละคนแตกต่างกัน และ จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้ามีความสมดุลของ Skin microbiome

TRIBIOMA เป็นศาสตร์ของไมโครไบโอม เอกสิทธิ์เฉพาะของลา โรช-โพเซย์ (New patented ingredient)

ประกอบด้วย Prebiotics complex หลัก ๆ 3 ชนิดจากการคัดสรรค์ทางชีวภาพ ได้แก่ Sugar, Plant extracts, Ferments ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิว คือ

  1. ช่วยเพิ่มอาหารของ bacteria ตัวดี (S. epidermidis) ลด bacteria ตัวร้าย (S. aureus) ทำให้สมดุลผิวดีขึ้น
  2. ช่วยเสริมกระบวนการซ่อมแซมผิวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ลดการเกิดแผลเป็นตามมา
  3. ช่วยลดการระคายเคืองผิว

ข้อมูลจาก LaRoche Posay ทดสอบการทาสกินแคร์ที่ประกอบด้วย TRIBIOMA ร่วมกับส่วนประกอบหลักอื่น คือ

5% Panthenol (B5) สารช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว

Madicassoside สารสกัดจากใบบัวบกช่วยลดการอักเสบลดรอยดำตามหลังการอักเสบสิวและเพิ่มความชุ่มชื้นผิว

Zn/Manganese สารช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

พบว่าสามารถช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำร้ายได้เร็วขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ใช้

โดยมีพบว่าได้ผลในกรณีเหล่านี้คือ  

  1. ในเด็ก : ผื่นผิวหนังอักเสบ ผิวแห้ง ผื่นผ้าอ้อม ปากแตก
  2. ในผู้ใหญ่ : ผื่นผิวหนังอักเสบ ผิวระคายเคืองจากสารหรือยาต่าง ๆ ผิวแห้งแตก ริมฝีปากอักเสบ ผิวหลังการเป็นงูสวัด
  3. กรณีหลังทำหัตถการ : ผิวหลังทำเลเซอร์ทุกชนิด หลังจี้ไนโตรเจน หลังการทำหัตถการผลัดเซลล์ผิว

BOTTOM LINE

เมื่ออายุเราเพิ่มขึ้น ชนิดของจุลินทรีย์ที่ผิวก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ร่วมกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ มลภาวะ การใช้สกินแคร์ การได้รับยาฆ่าเชื้อ อาชีพ แสงแดด ล้วนมีผลทั้งนั้น ดังนั้น การดูแลเอาใจใส่สุขภาพผิวให้ดี รวมทั้งการเลือกสกินแคร์ให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและแข็งแรง

—————————–

References

J Int Med Res. 2009 Sep-Oct;37(5):1528-42.

Nat Rev Microbiol. 2011 Aug;9(8):626.

Adv Wound Care (New Rochelle). 2014 Jul 1;3(7):502-510.

Curr Allergy Asthma Rep. 2015 Nov;15(11):65.

Open Biol. 2020 Sep;10(9):200223.

Biomedicines. 2021 Sep 16;9(9):1235.

—————————–

รวมลิ้งค์ https://opl.to/drwarayuwadee

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

 

 

Urea cream ใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์กับผิว

Urea (ยูเรีย) เป็น Hygroscopic molecule ส่วนประกอบหนึ่งในผิวหนัง

พบได้ประมาณ 7% ของ NMF (Natural Moisturizing Factor) ซึ่งอยู่ที่ผิวหนังชั้นกำพร้าของเรา ส่วนนี้จะทำหน้าที่ปกป้องผิว กักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้แก่ผิว

Urea cream
หน้าที่ของ Urea

ปริมาณของ urea ใน NMF จะลดลงไปตามอายุที่มากขึ้นเรื่อย ๆ

หาก NMF ไม่สมบูรณ์ ผลคือ สูญเสียน้ำ เสียความยืดหยุ่น ทำให้ผิวแห้งกร้าน ลอก ในที่สุด

ปัจจุบันที่การนำ urea มาผสมหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ครีม, โลชั่น, โฟม, อิมัลชั่น ประมาณ 5-20%

รายงานผลข้างเคียงจากการใช้น้อยมาก เรียกได้ว่าค่อนข้างปลอดภัย

บางทีอาจจู้สึกว่าได้กลิ่นเล็กน้อย ซึ่งเป็นกลิ่นของ voletile amine

อาจมีการระคายเคืองได้กรณีใช้ความเข้มข้นสูง แต่อาจการเหล่านี้เป็นชั่วคราวและหายเอง

Urea (ยูเรีย) ความเข้มข้นที่ต่างกันออกฤทธิ์ไม่เหมือนกัน

  • ความเข้มข้นต่ำ (2-10%) จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น (Moisturizing effect) เป็น Emoillient เติมน้ำให้ผิว และ Humectants ดึงน้ำเข้าสู่ผิว จึงช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งได้ เช่น Xerosis และยังช่วยในการรักษาผื่น Ichthyosis, Atopic dermatitis, Psoriasis นอกจากนั้นยังป้องกันผิวอักเสบจากการฉายแสง (Radiation-induced dermatitis)
  • ความเข้มข้นปานกลาง (10-30%) นอกจากเพิ่มความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หนาผิดปกติ (Keratolytic effect) มักใช้ในรอยโรคผิวหนังที่หนา เช่น Psoriasis ที่เป็นเยอะ หรือ และช่วยเพิ่มการดูดซึมยาได้
  • ความเข้มข้นมาก (30-50%) ออกฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวเป็นหลัก ใช้กับที่เล็บ, รักษาหูด, ตาปลา ส้นเท้าหนาแตกด้าน หรือใช้ทาเตรียมผิวก่อนการรักษา hyperkeratotic actinic keratosis

ดังนั้น การใช้ Urea cream ความเข้มข้นมากขึ้นไม่ได้แปลว่าจะต้องดีกว่าเสมอไป ควรเลือกให้ถูกวัตถุประสงค์ เช่น หากนำ 20% มาใช้กรณีผิวแห้ง ก็อาจทำให้รอยโรคแย่ลงได้จากการผลัดลอกเซลล์ผิวมากขึ้นกว่าเดิม

ปัจจุบันมีการนำ Urea มาใช้ในทางการแพทย์วงการผิวหนังมากขึ้น โรคทางผิวหนังหลายอย่างที่พบว่าได้ประโยชน์จากการทา Urea cream เช่น ภาวะที่มีผิวแห้งจากโรคต่าง ๆ เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง ผิวแห้งเกล็ดปลา ผิวแห้ง เซ็บเดิม สะเก็ดเงิน โรคอัมพฤกษ์ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

Urea มีประโยชน์ในแง่ต่าง ๆ ดังนี้

  1. เพิ่มความแข็งแรงของกำแพงผิว
  2. ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว ลดการสูญเสียน้ำจากผิว
  3. Keratolytic effects ช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวให้สมบูรณ์
  4. ช่วยเพิ่มการดูดซึมยาลงสู่ผิวหนังและเล็บ เช่น ทายาเชื้อรา ยาทาสเตอรอยด์ ยาฮอร์โมน
  5. ช่วยลดอาการคัน

Urea ถึงแม้จะค่อนข้างปลอดภัยไม่ค่อยมีรายงานผลข้างเคียง แต่มีข้อควรระวัง

1. ระคายเคืองได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการทาในที่ผิวบอบบาง เช่น เปลือกตา ริมฝีปาก อวัยวะเพศ รวมทั้งใบหน้า ยกเว้นหากรอยโรคหนาที่หน้าอาจใช้ได้ชั่วคราว และควรใช้ความเข้มข้นต่ำ ไม่แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องนาน และหยุดทาเมื่ออาการดีขึ้นแล้ว

2. หญิงตั้งครรภ์ เลี่ยงการทาบริเวณหน้าอก ป้องกันเวลาลูกกินนม เพราะยังไม่มีรายงานชัดเจนถึงความปลอดภัยในระหว่างให้นมบุตร

3. หลีกเลี่ยงการทาในแผลเปิด

4. บางรายสามารถแพ้ Urea ได้ หากใช้แล้วมีผื่นคัน หรืออาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์

Urea มีประโยชน์มากมายและใช้ได้ผลค่อนข้างดี แต่หากใช้ไม่ถูกวิธีก็เกิดผลเสียตามมา โรคผิวหนังนั้นอาจแย่ลง ก่อนซื้อมาใช้เองควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอว่ารอยโรคนั้น ๆ มีข้อบ่งชี้สำหรับ Urea หรือไม่

ด้วยความปรารถนาดี

—————————–

Reference

Dermatol Ther (Heidelb). 2021 Dec;11(6):1905-1915.

J Cosmet Dermatol. 2021 Apr;20 Suppl 1(Suppl 1):5-8.

Int J Clin Pract. 2020 Dec;74 Suppl 187:e13621.

Topical urea in skincare: A review Dermatology Therapy 2018; e12690.

—————————–

[Advertorial]

Urearepair plus
UreaRepair Plus

UREA Repair Plus โลชั่นบำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวแห้ง – แห้งมาก

ส่วนผสมเอกสิทธิ์นวัตกรรม Urea+

(1) UREA 5% + NMFs 7 ชนิด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว

(2) Ceramides ไขมันจำเป็นภายในผิว ช่วยเสริมความแข็งแรงผิวและลดการเสียน้ำออกจากผิว

(3) Gluco-Glycerol ช่วยเพิ่มการส่งผ่านโมกุลน้ำไปยังผิวชั้นลึก เพิ่มความชุ่มชื้นยาวนาน 48 ชั่วโมง

เนื้อโลชั่นซึมสู่ผิวได้รวดเร็ว ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะบนผิว

น้ำหอมสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะ

พิกัด : ร้าน Boots ทุกสาขาหรือช้อปออนไลน์ได้ที่

Urea Repair Plus 250ml :  https://universal.brtmobile.com/product_1023374

Urea Repair Plus 400ml : https://universal.brtmobile.com/product_1083973

—————————–

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

สรุปอัพเดทเรื่อง Azelaic acid กับ สิว ฝ้า กระ รอยดำ

Azelaic acid เป็น saturated, straight-chained dicarboxylic acid ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีข้อมูลว่ามีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ (ย้ำ..!! เฉพาะเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ)

ดังนั้นจึงสามารถใช้รักษาภาวะที่เกิดจากเม็ดสีทำงานมากผิดปกติ เช่น ฝ้า รอยดำ และมะเร็งผิวหนังชนิด lentigo maligna ได้ด้วย แต่ในคนที่เซลล์สร้างเม็ดสีผิวปกติดี และหวังผลจากการขาวขึ้นจากการใช้ AzA ก็อาจจะไม่ได้ผลเท่าไรนัก

Azelaic acid คืออะไร

นอกจากนั้นยังพบว่าช่วยรักษาสิวอุดตันและสิวอักเสบได้หลายกลไก

เรื่องการทา Azelaic acid กับ การรักษาสิว

กลไก คือ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียหลายชนิด รวมถึง S.aureus, S.epidermidis และ Cutibacterium acnes ซึ่งมีบทบาทในการก่อสิว

AzA มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ จึงช่วยรักษาสิวอักเสบดีขึ้นได้

AzA มีฤทธิ์ anti keratinizing effects พบว่าการทา 20% azelaic acid cream นาน 3 เดือนทำให้ผิวมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการจัดเรียงตัวดีขึ้น จึงลดการเกิดสิวอุดตันตามมาได้

AzA ไม่มีผลต่อการลดการหลั่งน้ำมันผิว ดังนั้น จึงไม่ได้ประโยชน์ในการใช้เพื่อการลดความมันผิว

Azelaic acid รักษาสิว skinoren

สิวที่ได้ผลการรักษาดี คือ สิวในระดับความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง หากสิวหัวหนองที่รุนแรง อาจได้ผลไม่ดีนักจึงควรพบแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนังเพื่อรักษาวิธีอื่นร่วมด้วย

การทา 20% AzA cream วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น จะเริ่มเห็นผลชัดเจนในการรักษาสิวเมื่อใช้ต่อเนื่อง 2 เดือน และหากทาต่อเนื่อง 4 เดือนขึ้นไปผลใกล้เคียงกับการทายาสิวชนิดอื่น

ผลการรักษาสิวอุดตันด้วย 20% AzA เทียบกับ topical 0.05% tretinoin (4 เดือน) พบว่าลดสิวอุดตันได้ใกล้เคียงกัน และผลข้างเคียงจาก AzA น้อยกว่า

ผลการรักษาสิวอักเสบด้วย 15% AzA เทียบกับ 5% benzyl peroxide (3-4 เดือน) พบว่าไม่ต่างกัน การใช้ BPO อาจทำให้สิวอักเสบยุบได้เร็วกว่าเล็กน้อย และพบว่ากลุ่ม BPO พบมีการระคายเคืองมากกว่า

ยังไม่มีรายงานเชื้อดื้อยาจากการรักษาสิวด้วย AzA จึงเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับการใช้ยาทากลุ่มยาทาฆ่าเชื้อ เช่น clindamycin, erythromycin ดังนั้น สามารถทาได้ต่อเนื่องยาวไปหากไม่มีผลข้างเคียงอะไร

เรื่องการทา Azelaic acid กับ การรักษารอยแดงรอยดำจากสิว

AzA มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวอ่อน ๆ จึงได้ผลดีในการช่วยลดรอยแดงและรอยดำตามหลังการเกิดสิวได้ และช่วยให้สีผิวเนียนสม่ำเสมอขึ้น

กรณีต้องการลดรอยดำ สามารถใช้ตั้งแต่ 15% AzA ขึ้นไป

Azelaic รอยดำรอยแดงสิว skinoren

เรื่องการทา Azelaic acid กับ การรักษาฝ้า

การทา 20% AzA ต่อเนื่อง 3-4 เดือน ทำให้ฝ้าจางลงได้ ใกล้เคียง 4% Hydroquinone และพบว่าได้ผลดีกว่า 2% Hydroquinone

การทา AzA ร่วมกับ Retinoic acid สามารถเสริมฤทธิ์ช่วยลดรอยดำได้ดีกว่าการทา AzA เดี่ยว ๆ แต่ต้องระวังการระคายเคือง

แนะนำให้ทาครีมกันแดดร่วมด้วยสม่ำเสมอจะทำให้ผลการรักษาฝ้ามีประสิทธิภาพดีขึ้น

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้เมื่อเริ่มทา AzA

ผลข้างเคียงไม่ค่อยมาก และ ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น จึงสามารถทาได้ทั้ง เช้าหรือเย็น

อาจมีการระคายเคือง ยุบยิบ แสบได้เล็กน้อย ในผู้ที่เริ่มใช้ช่วงแรก อาการเหล่านี้จะค่อยดีขึ้นและหายไปหลังจากผิวมีการปรับสภาพ หากแสบมากแนะนำให้เริ่มทาเป็นบางบริเวณ หรือทาแล้วล้างออก ค่อยเพิ่มระยะเวลามากขึ้น จนสามารถทาทิ้งไว้ได้

AzA สามารถใช้ต่อเนื่องได้ยาว ๆ หากไม่มีข้อห้ามหรือผลข้างเคียงจากการใช้ และสามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ เพียงระวังเรื่องการระคายเคืองที่อาจมากขึ้น และเว้นระยะห่างการทาจากกลุ่ม Vitamin C หรือ AHA, BHA เนื่องด้วยเรื่องของ pH

Azelaic acid, skinoren

Azelaic acid กับ คนท้อง

พบว่ามีการดูดซึมน้อย มีความปลอดภัยและสามารถใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

BOTTOM LINE

บางคนบอกว่า Azelaic acid เหมือนครอบจักรวาล ช่วยแก้ปัญหาผิวได้หมด ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ รอยแดง รอยดำ ฝ้า หน้าแดง หน้าก็ใส คนท้องก็ใช้ได้ ต้องบอกว่า การออกฤทธิ์ที่ค่อนข้างครอบคลุมหลายภาวะหลายกลไกของ AzA จะไม่แรงมาก จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหลายอย่างปะปนกันในความรุนแรงเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ข้อดี คือ ผลข้างเคียงน้อย ค่อนข้างปลอดภัย

Azelaic acid, skinoren

อย่างไรหากอาการไม่ดีขึ้น หรือไม่แน่ใจว่าเป็นสิว ฝ้า จริงหรือไม่ ควรพบแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง (Board-certified Dermatologist) เพื่อร่วมดูแล

ด้วยความปรารถนาดี

▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️

References

J Clin Aesthet Dermatol. 2018; 11(2): 28-37.

Br J Dermatol. 2013; 169 Suppl 3:4-56.

J Cosmet Dermatol. 2011; 10(4): 282-287.

J Drugs Dermatol. 2011; 10(6): 586-90.

Drugs. 1991 May;41(5):780-98.

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

รู้หรือไม่..Shampoo, Conditioner, Hair serum มีประโยชน์ต่างกันอย่างไร

มาเริ่มกันที่ประโยชน์ของ Shampoo ก่อนค่ะ

แชมพูสระผม ไม่เพียงแต่ทำความสะอาดหนังศีรษะ ขจัดเหงื่อและน้ำมันส่วนเกิน ชำระล้างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ตกแต่งผม แล้วยังช่วยให้เส้นผมแข็งแรงได้อีกด้วย

แชมพูบางอย่างมีการผสม active ingredients ที่ช่วยเสริมการรักษาโรคบางชนิดได้ เช่น หนังศีรษะอักเสบ รังแค ผมร่วง ผมบาง สะเก็ดเงินที่หนังศีรษะ เป็นต้น

ประโยชน์ของแชมพู​
ประโยชน์ของแชมพู

ส่วนผสมของ Shampoo

  • Detergents คือ สารชำระล้างหรือสารทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ จะช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกต่าง ๆ มักมีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว (surfactants) เช่น Sodium Lauryl Sulfate (SLS) ซึ่งทำให้ผิวหนังแห้งระคายเคืองได้ หากใครผิวระคายเคืองง่ายหรือเป็นโรคหนังศีรษะอักเสบบ่อย ๆ ควรเลี่ยง SLS และอาจใช้เป็น Sodium Laureth Sulfate (SLES) แทน
  • Conditioning and active ingredients for hair manageability คือ สารปรับสภาพผม กลุ่มนี้มักเป็น Hydrolyzed protein (collagen, silk, animal proteins),, fatty substances เช่น vegetable oils, wax, lecithin, lanolin derivatives ที่สามารถซึมผ่าน hair shaft ได้ เพื่อช่วยบำรุงหนังศีรษะเพื่อให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมต่อการเกิดเส้นผมใหม่ที่แข็งแรงสุขภาพดี แชมพูที่ได้มาตรฐานมักมี conditional effects ร่วมด้วยในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี แข็งแรงและเงางาม หวีจัดทรงง่าย
  • Additives สารเติมแต่งอื่น ๆ เช่น

    สารที่ช่วยทำให้ข้นหนืด (Viscosity control agents), สารที่ทำให้เกิดฟอง (foam stabilizers), สารกันเสีย (preservatives) หากเป็นได้ควรเลี่ยง paraben เพราะมักก่อให้เกิดการแพ้สัมผัสได้บ่อย, น้ำหอม (fragrances)

ส่วนประกอบของแชมพู
ส่วนประกอบของแชมพู

ส่วนกลุ่มที่มีสารที่ช่วยเสริมการรักษาโรคบางชนิดได้ เช่น หนังศีรษะอักเสบ รังแค ผมร่วง ผมบาง สะเก็ดเงินที่หนังศีรษะ เราจะเรียกว่าเป็น Medicated Shampoo เช่น Tar, Salicylic acid, Sulfur, Selenium sulfide, Ketoconazole, Zinc pyrithione เป็นต้น

ในขณะที่ครีมนวดผม (Hair Conditioners)

เป็นอีก options ที่เข้ามาเติมจุดบกพร่องที่แชมพูทำไม่ได้ คือ ช่วยเรื่องความสวยงามของเส้นผม ช่วยบำรุงให้ผมนุ่ม เงางาม และเคลือบไม่ให้ผมชี้ฟู และยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเส้นผมในกรณีผมดัด ย้อม ทำสี

ปกติจะแนะนำให้ใช้ครีมนวดหลังการสระผมด้วยแชมพู แล้วล้างออก หรือ กรณีผมแห้งเสียมาก อาจจะใช้ชนิดหมัก นวดปลายผมและทิ้งไว้ 20-30 นาทีก่อนล้างออก

ครีมนวดผม ประโยชน์ conditioner
ประโยชน์ของครีมนวดผม

ส่วนกรณี Leave-On Hair Serum

คือ การใช้เซรั่มบำรุงผมชนิดทาทิ้งไว้ ไม่ต้องล้างออก (หลักการคล้ายกับ Skin serum ที่ใช้บำรุงผิว) เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันเช่นกัน อาจใช้แทนครีมนวดผมก็ได้ หรือถ้าจะให้ได้ผลดียิ่งขึ้นควรใช้ร่วมกับการสระด้วย Shampoo และ นวดผมด้วย Conditioners

Leave-On Hair Serum
Leave-On Hair Serum

ประโยชน์ของ Leave-On Hair Serum

คือ ช่วยบำรุงเส้นผม เพิ่มความแข็งแรงของเส้นผม ป้องกันการทำร้ายผมจาก pollutions รอบตัว และยังช่วยให้ผมนุ่มและเงางาม

ส่วนผสมใน Leave-On Hair Serum มักเป็นส่วนผสมที่มี oil เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม หรือ กรณีที่ผมแห้งเสียชี้ฟูขาดการบำรุงมาก

แนะนำให้เลือกส่วนผสมที่มีสารบำรุงเข้มข้น และกลุ่ม protein ร่วมด้วย หรือ เทคโนโลยี Biocellular complex ใน Dove Hair Therapy ตัวใหม่ก็เน้นช่วยบำรุงลึกถึงระดับเซลล์ในกลุ่มคนที่ผมแห้งเสีย และสามารถใช้หลังสระผมขณะผมหมาด ก่อนไดร์ผมเพื่อช่วยปกป้องผมจากความร้อนได้ด้วย

เทคนิกการใช้ Leave-On hair serum

  • แนะนำให้ทาลูบเบา ๆ เน้นบริเวณเส้นผมที่มีปัญหาโดยเฉพาะปลายผม โดยสามารถทาได้ทั้งผมแห้ง ผมเปียกหลังการสระ หรือ รอให้ผมหมาดก่อนจึงค่อยทาบำรุงก็ได้ทั้งนั้นค่ะ
  • Hair serum ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกคน แต่แนะนำให้ใช้ร่วมด้วยกรณีหากใครที่ผมแห้ง แข็งกระด้าง ชี้ฟู แตกปลาย
  • คนที่ไดร์ผมด้วยความร้อนบ่อย ๆ แนะนำให้เลือกทา Hair serum ที่ช่วยปกป้องผมจากความร้อน ก่อนไดร์ผม
  • Hair serum ให้ทาที่บริเวณเส้นผม ไม่ควรทาที่โคนผมหรือหนังศีรษะ
  • ใช้ Hair serum บ่อยแค่ไหน ขึ้นกับปัญหาเส้นผมแต่ละคน โดยปกติแนะนำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
เทคนิคการใช้ Leave-On Hair Serum​
เทคนิคการใช้ Leave-On Hair Serum

การมีเส้นผมที่สวย แข็งแรง เงางาม ถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเสริมบุคคลิกภาพให้น่ามองและชวนหลงใหลได้เลยทีเดียว ดังนั้นการให้ความใส่ใจกับการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ 

—————————–

References

Int J Trichology. 2015 Jan-Mar;7(1):2-15.

Recent Pat Inflamm Allergy Drug Discov. 2014;8:48–58.  

J Dtsch Dermatol Ges. 2007 May;5(5):356-65.

Clin Dermatol. 1996;14:123–8.  

—————————–

[Advertorial] DOVE Hair Therapy

เซรั่มบำรุงผม Leave on Hair Serum

Dove hair therapy
  • เทคโนโลยี ไบโอเซลลูล่า คอมเพล็กซ์ บำรุงลึกถึงระดับเซลล์ผม
  • เหมาะสำหรับผมแห้งเสีย ชี้ฟู ลดการขาดหลุดร่วง เนื้อเบาบางซึมเร็วไม่เหนอะหนะ ไม่ทำให้ผมมัน
  • ใช้ได้หลังจากผมหมาดก่อนไดร์ เพื่อปกป้องผมจากความร้อน หรือพกใช้ระหว่างวันช่วยให้ผมจัดทรงง่าย
  • แนะนำใช้คู่กับแชมพูและครีมนวดสูตรสีทอง BREAKAGE REMEDY เพื่อเพิ่มการบำรุงให้ล้ำลึกไปอีกขั้น
  • ไบโอ เซลล์ลูล่า คอมเพล็กซ์ + vitamin C ช่วยให้ผมแข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วง
  • ครีมนวดผมมี 2 หัว เป็น 2-in-1 เซรั่มวิตามิน + คอนดิชันเนอร์เข้มข้น ที่ผสมสดใหม่ทุกครั้ง เพื่อประสิทธิภาพที่ดี

หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าทั่วไป และ Tops Watsons และทางออนไลน์ Shopee Lazada

#DoveHairTherapy #จบปัญหาผมเรื้อรังที่ระดับเซลล์

—————————–

‍⚕️อ่านบทความย้อนหลังที่ 

รวมลิ้งค์ https://opl.to/drwarayuwadee

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

ทำความรู้จัก Encapsulated Salicylic Acid Acne Mask

ซาลิไซลิกข้ามคืน..นวัตกำจัดสิว

หลายท่านประสบปัญหาใช้ยาปฏิชีวนะแต้มสิวช่วงแรกได้ผลสิวยุบดี แต่ผ่านไปสักระยะแล้วเกิดไม่ได้ผลขึ้นมา แบบนี้แสดงว่า .. คุณอาจจะกำลังเผชิญกับภาวะสิวดื้อยาก็เป็นได้

Salicylic acid (SA)

ถือเป็นหนึ่งในส่วนผสมยอดฮิตที่นิยมใช้ผสมในสกินแคร์ที่ใช้แต้มสิว (Spot treatment หรือ Acne mask) เพราะคุณสมบัติหลายอย่างที่ช่วยให้สิวดีขึ้นได้ #โดยไม่ทำให้เกิดภาวะสิวดื้อยาในอนาคต เมื่อใช้ต่อเนื่องในระยะยาว

SA เป็นสารที่ละลายได้ดีในไขมัน จึงสามารถซึมลงในรูขุมขนเพื่อละลายสิ่งอุดตันรูขุมขนให้หลุดออกมาได้ ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้ทำให้เป็นข้อได้เปรียบของ salicylic acid ที่เหนือกว่ากลุ่ม AHA (ซึ่งทำแบบนี้ไม่ได้) ผลที่ตามมา คือ ช่วยให้สิวอุดตันดีขึ้น

ประโยชน์ของ salicylic acid ละลายสิวอุดตัน

นอกจากนั้น SA ช่วยเรื่องสิวอุดตันแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ (anti inflammation) จึงช่วยสิวอักเสบได้ด้วย เมื่อแต้มสิวด้วย SA แล้วจึงเห็นว่าอาการเจ็บบวมแดงก็ดีขึ้นได้ ส่งผลให้เกิดรอยดำหลังการเกิดสิวลดลงตามมา

ประโยชน์ของ salicylic acid ลดการอักเสบ

บางคนสงสัยว่า หน้ามันสามารถใช้ SA ได้ไหม ❓

คำตอบคือ
SA มีคุณสมบัติช่วยลดการสร้าง sebum ได้ ผลที่ตามมา คือ ควบคุมความมันของผิว ดังนั้น คนหน้ามันจึงได้ประโยชน์อย่างยิ่งจากการใช้ SA

นอกจากนั้น SA ยังมีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วอย่างอ่อนโยน ผลที่ตามมา คือ ช่วยให้ผิวเนียนเรียบสม่ำเสมอขึ้น รอยจากสิวต่าง ๆ ก็ดีขึ้นตามมา

ในสกินแคร์ลดสิว กลุ่ม spot treatment หรือ acne mask จึงมักผสม salicylic acid ลงไปเป็นสารออกฤทธิ์หลัก ประมาณ 0.5-2% เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองเกินไป และเป็นความเข้มข้นที่สามารถออกฤทธิ์ได้ประสิทธิภาพดีต่อการใช้เพื่อเสริมการรักษาลดสิว

ปัจจุบันมีการพัฒนานวัตกรรมของ Salicylic acid แบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการออกฤทธิ์ให้ได้ดีและยาวนานขึ้น โดยที่ผลข้างเคียงเรื่องการระคายเคืองผิวน้อยลงมาก

ยกตัวอย่างเช่น Encapsulated salicylic acid
ซึ่งเป็นลักษณะโครงสร้างแคปซูลที่กักเก็บ SA ไว้และค่อย ๆ ปล่อยสารออกฤทธิ์ออกมาช้า ๆ อย่างต่อเนื่อง (Time released) โดยมีข้อมูลการศึกษาพบว่า มีข้อได้เปรียบกว่า SA แบบปกติ ดังนี้

✔️ ออกฤทธิ์ได้ยาวนานมากถึง 6 ชั่วโมง (ปกติ salicylic acid แบบทั่วไปออกฤทธิ์ที่ผิวได้ 10-15 นาที)
✔️ ซึมลงรูขุมขนได้ดีขึ้น จึงลดการอุดตันรูขุมขนได้ดีกว่า SA แบบทั่วไป
✔️ คุมความมันผิวในระหว่างวันได้ยาวนานขึ้น
✔️ การระคายเคืองน้อยกว่า SA แบบทั่วไป

Encapsulated salicylic acid ซาลิไซลิกข้ามคืน

ยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์ TOMEI Acne Mask ซึ่งพัฒนานวัตกรรมมาในรูปแบบของการใช้มาสก์หน้าข้ามคืน เพื่อค่อย ๆ ปล่อยให้ encapsulated salicylic acid ทำงานบนผิวอย่างช้า ๆ ต่อเนื่อง 6 ชั่วโมงระหว่างนอน [อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมท้ายบทความ]

PRACTICAL POINT

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม Encapsulated Salicylic Acid เป็นอีกทางเลือกในการใช้เป็น spot treatment หรือ acne mask เพื่อช่วยลดการเกิดดื้อยาจากการใช้ยาแต้มสิวกลุ่มยาปฏิชีวนะ และผลข้างเคียงน้อยกว่า salicylic acid แบบทั่วไป


References

J Drugs Dermatol. 2019 Jan 1;18(1):80-85.
J Clin Aesthet Dermatol. 2019;12(7):18–21.
J Cosmet Dermatol. 2018 Feb;17(1):8-14.
Indian J Dermatol. 2011;56(1):2-6.

https://doi.org/10.1016/j.jaad.2021.06.240


[Disclaimer] สนับสนุนความรู้โดย
TOMEI Acne Mask นวัตกรรมมาสก์สิวข้ามคืน

ACTIONs:
Encapsulated salicylic acid รูปแบบแคปซูลค่อย ๆ ปล่อยให้ SA ทำงานบนผิวอย่างช้า ๆ ออกฤทธิ์ลดการอักเสบสิวต่อเนื่องได้นาน 6 ชั่วโมง ช่วยคุมมัน ลดการอุดตันรูขุมขนได้ดีขึ้น
• Zinc oxide, zinc gluconate ลดการหลั่งน้ำมันผิว ช่วยคุมความมันระหว่างวัน
Niacinamide ลดการสร้างเม็ดสี ลดการอักเสบ ช่วยลดการเกิดรอยแดงรอยดำจากสิว

เหมาะสำหรับผิวผสม ผิวมัน ผิวที่เป็นสิว

Tomei Acne Mask

*ผลลัพธ์การตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ขึ้นกับสภาพผิวแต่ละบุคคล

แจกโค้ดส่วนลด
Shopee: https://cutt.ly/2NNhvAT
LZD: https://cutt.ly/1NNjS43

โค้ดส่วนลด: TOMEKOL28 (ซื้อครบ 329 บ. ลดทันที 40 บาท)

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.