รู้ก่อนซื้อ ! กินวิตามินซีตัวไหนดี

30ข้อควรรู้ก่อนซื้อวิตามินซีมารับประทาน [ ตอนที่ 1]

🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰

ปัจจุบันมีวิตามินซีชนิดรับประทานมากมายหลายยี่ห้อ เราจะทราบได้อย่างไรว่าควรเลือกยี่ห้อไหนดี ⁉️
ในโพสต์นี้หมอจะขอเล่าหลักการเบื้องต้น เพื่อนำไปประกอบการเลือกซื้อวิตามินซีมาทาน หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่านนะคะ

อ่านย่อ -> ดูรูป

อ่านละเอียด -> ในโพสต์นี้

🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊

1.🌈 วิตามินซียี่ห้อที่ดี ควรมีข้อมูลระบุชัดเจนดังนี้ ข้อมูลผ่าน อย, ระบุวันเดือนปีผลิตและหมดอายุ, ระบุสถานที่ผลิต, ระบุชนิดของวิตามินซีให้แน่ชัดว่าเป็นชนิดไหน หากไม่ระบุชนิดส่วนตัวหมอเองจะไม่เลือก เพราะไม่มีอะไรการันตีว่าจะได้รับวิตามินซีนั้นจริงหรือไม่

2.🌈 วิตามินซีแบบเม็ด แคปซูล เยลลี่ ผงละลายน้ำชงดื่ม เม็ดฟู่ พบว่าได้ประโยชน์ไม่ต่างกัน
การเลือกรูปแบบขึ้นกับความสะดวก เช่น
แบบเยลลี่มีน้ำตาล เด็กกินง่าย แต่ระวังฟันผุได้
แบบอม เป็นกรด กัดเคลือบฟัน ระวังฟันกร่อนได้
แบบผงชงดื่ม เหมาะกับคนไม่สะดวกกินเม็ดใหญ่

3.🌈 วิตามินซีแบบผงหรือเม็ดฟู่
สามารถผสมน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ก็ได้ ไม่มีผลอะไร เวลากินต้องละลายให้ฟองหมดก่อนกิน ไม่งั้นท้องอืด แต่แบบนี้ดีสำหรับคนมีปัญหาการกินยาเม็ดใหญ่ หรือผู้สูงอายุที่มีปัญหาการดูดซึม

4.🌈 วิตามินซีรูปแบบธรรมดา คือ L-ascorbic acid
เป็นแบบที่เสื่อมสลายง่าย ดูดซึมทันที และมักระคายเคืองกระเพาะอาหาร มีความเป็นกรดเยอะ ไม่แนะนำสำหรับคนที่มีโรคกระเพาะอาหาร

5.🌈 วิตามินซีแบบธรรมดา & แบบ Slow release
มีงานวิจัยพบว่าหลังทานแล้วทั้ง 1 เดือน, 2 เดือน พบว่าระดับ ascorbic acid ในกระแสเลือดไม่ต่างกัน ดังนั้น ผลที่ได้รับไม่ต่างกัน บางงานวิจัยยังพบว่าการดูดซึมของชนิด slow release น้อยลงด้วยซ้ำ และราคาค่อนข้างสูงกว่าโดยไม่จำเป็น

6.🌈 วิตามินซีรูปแบบเกลือกรดแอสคอร์บิก (Buffered C)
จะมีความเป็นกรดลดลง ช่วยลดผลข้างเคียงจากการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ แต่ได้ผลไม่แตกต่างจากวิตามินซีธรรมดา
ในกลุ่มนี้มีข้อระวังในการเลือกทานให้ดี เพราะมีการดูดซึมสารอื่นร่วมด้วย เช่น
✨ Sodium ascorbate
มี Na 111 mg/1000 mg ระวังในคนเป็นโรคไตและความดันโลหิตสูง

✨ Potassium ascorbate
มี K 175 mg/1000 mg ระวังการทานในคนที่ไตวาย หรือทานยาบางชนิดที่อาจทำให้โพแทสเซียมสูงจนเป็นอันตราย

✨ Magnesium ascorbate
อาจทำให้ท้องเสีย ปวดมวนท้อง คลื่นไส้ได้
✨ Zinc ascorbate
✨ Molydenum ascorbate, Chromium ascorbate ยังไม่มีข้อมูลแนะนำปริมาณชัดเจน

7.🌈 วิตามินซีรูปแบบ Ester-C หรือ Ascorbate & Vitamin C metabolite
มีการศึกษาของเจ้าของบริษัทพบว่าช่วยในเรื่องการดูดซึมได้ดีขึ้น ส่วนงานวิจัยอื่น ๆ พบว่า ผลที่ได้ไม่แตกต่างจากวิตามินซีธรรมดา ดังนั้นรูปแบบนี้อาจจะยังข้อมูลไม่ชัดเจน
กลุ่มนี้จะมีส่วนผสมของ Calcium ascorbate + Metabolites (DHA, Ca threonate)
มี Ca 90-110 mg/1000mg ระวังการกินในคนที่มีความเสี่ยงต่อแคลเซียมสูง หรือคนที่กินแคลเซียมเสริมอยู่แล้ว

8.🌈 วิตามินซีที่ผสม Bioflavonoids และ rosehip
มีรายงานวิจัยบางอันพบว่าช่วยเพิ่มการดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น 30-40% แต่ในขณะที่บางรายงานพบว่าไม่แตกต่างกัน ดังนั้นก็อาจเป็น ทางเลือก แล้วแต่จะพิจารณา

9.🌈 วิตามินซีรูปแบบ Ascorbyl Palmitate
ละลายในน้ำและน้ำมัน ข้อมูลเรื่องเพิ่มการดูดซึมยังไม่มากนัก นิยมนำมาใช้ในรูปแบบทา และแบบนี้ยังมีผลช่วย antioxidants ได้อย่างดี

10.🌈 วิตามินซีรูปแบบ Pureway C หรือ Vitamin C + Lipid Metabolites
การศึกษายังไม่มาก พบว่าไม่แตกต่างจากวิตามินซีธรรมดา

11.🌈 วิตามินซีรูปแบบ Liposomal vitamin C
เป็นรูปแบบที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมได้ดีกว่าวิตามินซีธรรมดา (L ascorbic acid) และสามารถกินสองรูปแบบพร้อมกันได้โดยไม่แย่งกันดูดซึม ที่สำคัญคือ การดูดซึมดีมากเรียกได้ว่าเป็นรองแค่การฉีดวิตามินซีเข้ากระแสเลือดเท่านั้น จึงมีการใช้รูปแบบนี้กรณีต้องการ dose สูง เช่น ฆ่าเซลล์มะเร็ง นอกจากนั้นยัง ไม่ค่อยมีผลข้างเคียงระคายเคืองกระเพาะอาหาร

12.🌈 หากไม่มีโรคประจำตัวอะไร และอยากทานวิตามินซีเสริม แนะนำทานวันละ 500-1,000 มก/วัน เพราะส่วนหนึ่งก็ได้จากอาหารร่วมด้วย พบว่าการกินวิตามินซีระดับนี้อย่างต่อเนื่อง 4-5 ปี ไม่มีอันตรายอะไรถ้าหากไม่มีโรคประจำตัว

13.🌈 วิตามินซีละลายในน้ำ มีจุดอิ่มตัวในการดูดซึม และต้องมีตัวนำพาเข้าเซลล์ โดย
🚙 L-ascorbic acid อาศัยตัวนำพา Na-dependent VC transporter (SVCT 1,2)
🚙 DHA (Dehydroascorbic acid) อาศัยตัวนำพา Glucose transporter (GLUT 1,2,3,4)

ยิ่งกินครั้งละปริมาณมากจะดูดซึมได้น้อยลงเรื่อย ๆ เช่น

ทานครั้งละ 500 มก. ร่างกายจะดูดซึมได้ 63%
แต่ทานครั้งละ 1,250 มก. จะดูดซึมได้แค่ 46%
ดังนั้น แนะนำทานแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 1,000 มก. และแบ่งทาน 2-4 ครั้งต่อวัน

14.🌈 เวลาที่ได้ผลดีที่สุด คือ ทานหลังอาหารเช้า จะช่วยออกฤทธิ์ antioxidant เต็มที่ทั้งวัน และร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะภายใน 4-6 ชั่วโมง จะไม่มีการตกค้างในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งหากทานก่อนนอนและไม่ได้ลุกปัสสาวะอาจเกิดการสะสมและรวมตัวกับแคลเซียมในร่างกายเป็นนิ่วได้ และการกินก่อนอาหารอาจแสบท้องได้

15.🌈 RDA แนะนำระดับที่ควรรับประทานต่อวันเพื่อ ป้องกันภาวะขาดวิตามินซี (Scurvy)
ชาย 65 มก/วัน, หญิง 90 มก/วัน, ตั้งครรภ์ 80 มก/วัน, ให้นมบุตร 120 มก/วัน

16.🌈 พบว่าคนสูบบุหรี่และผู้ใกล้ชิด (passive smokers) มีระดับวิตามินซีในเลือดต่ำกว่าคนปกติ จึงแนะนำให้เสริมวิตามินซีเพิ่มอย่างน้อย 35 มก/วัน จึงแนะนำทานวันละ 110 มก/วัน

17.🌈 วิตามินซีจากธรรมชาติ & วิตามินซีสังเคราะห์ ไม่มีผลแตกต่างกันชัดเจน เลือกอะไรก็ได้

18.🌈 กรณีเป็นหวัด พบว่าการทานวิตามินซีเสริม 1,000-3,000 มก.ต่อวันในช่วงที่ป่วย ช่วยให้หายจากอาการหวัดเร็วขึ้น และความรุนแรงของหวัดน้อยลง ส่วนการกินเพื่อป้องกันการเป็นหวัดยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด

19.🌈 วิตามินซีที่ดี ควรบรรจุในบรรจุภัณฑ์ทึบแสง ซีลขวดป้องกันอากาศเข้า ดังนั้นยี่ห้อที่ไม่ใส่กระปุกหรือซองทึบ และไม่ซีลให้ดี มีโอกาสเสื่อมสภาพและได้ผลไม่ดีนัก และอาจไม่คุ้มค่ากับเงินซื้อที่เสียไป

20.🌈 วิตามินซี & อิมมูน พบว่าช่วยปกป้องสารอนุมูลอิสระ, ช่วยในการสร้างคอลลาเจน, ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

21.🌈 การทานวิตามินซี 2 กรัม/วัน รูปแบบใดก็ได้ นานประมาณ 1 เดือนขึ้นไป สามารถช่วยลดระดับ histamine มีการวิจัยว่าช่วยให้ลดการกำเริบและอาการของภูมิแพ้ดีขึ้นได้

22.🌈 วิตามินซีช่วยในการทำงานของเม็ดเลือดขาว (neutrophils, macrophages) ในการกำจัดเชื้อโรค และ ช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อโรคได้ดีขึ้น พบว่าการเสริมวิตามินซีอย่างน้อย 250 มก/วัน ช่วยเพิ่ม Neutrophils chemotaxis 20%
⭐️ ผลด้านนี้จะดีขึ้นถ้ากินคู่กับ vitamin E

23.🌈 ขาดวิตามินซี ทำให้เป็นโรคลักปิดลักเปิด หรือ Scurvy มีอาการผิวหนังดังรูปที่เคยโพสต์ไปค่ะ

24.🌈 กินผักผลไม้ 5 servings/day ให้วิตามินซี 200-250 มก/วัน

25.🌈 แนะนำไม่ให้ทานเกิน 2 กรัม/วัน เพราะอาจเกิด ผลข้างเคียง ปวดมวนท้อง ท้องเสียจาก osmotic diarrhea และมีความเสี่ยงต่อการเกิดเกิดนิ่วไตได้จากการเปลี่ยนเป็น oxalate แล้วไปจับแคลเซียมตามมา (โดยเฉพาะคนไตวายเพิ่งความเสี่ยงมากขึ้น)

26.🌈 วิตามินซีทำให้เม็ดเลือดแดงแตกได้ห้ามให้ในคนไข้ขาดเอนไซม์ G6PD และ PNH

27.🌈 วิตามินซีช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก มีประโยชน์ในคนผมร่วงที่เกิดจากการขาดธาตุเหล็ก แต่ยังไม่มีรายงานว่าได้ผลในคนผมร่วงจากสาเหตุอื่น

28.🌈 ระดับวิตามินซี 1,000 มก/วัน (คือทานวันละประมาณ 2 กรัม) สามารถช่วยให้ขาวขึ้นได้ เพราะวิตามินซีช่วยลดการสร้างเม็ดสี ช่วยปกป้องการทำร้ายผิวจากอนุมูลอิสระและแสงแดด แต่ความขาวขึ้นจะไม่มีทางขาวเวอร์ไปมากกว่าระดับสีผิวเดิมของคน ๆ นั้น และความขาวใสที่เกิดขึ้นนี้ต้องปฏิบัติตัวอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น การปกป้องแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ

29.🌈 กินวิตามินซีแล้วก็ยังต้องทาร่วมด้วย เพราะวิตามินซีจากการกินจะถูกดูดซึมทางกระแสเลือดมาเลี้ยงผิวหนังได้ไม่ถึงชั้นตื้น ๆ ซึ่งต้องอาศัยวิตามินซีจากการทาร่วมด้วยค่ะ

30.🌈 Acerola Cherry เป็นพืชชนิดหนึ่ง พบว่าใน 100 g จะมี vitamin C 1,677 mg
ดังนั้น ใน 1000 mg จะมี vitamin C 16.77 mg

วิตามินซีตอนที่ 1 จบแล้วค่ะ อ่านจบกันไหม 😊
🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰

👩🏻‍⚕️ ขอถามความเห็น อยากให้ทำเปรียบเทียบวิตามินซีชนิดกินยี่ห้อเด็ดๆมั้ยคะ ❓ ถ้าชอบถ้าอยากรู้พิมพ์ “อยากรู้” หน่อยค่า
👩🏻‍⚕️ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อวิตามินซีชนิดรับประทานกันนะคะ

▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

⭐️วิตามินซีแบบทา -> https://www.facebook.com/476743752739537/posts/832838493796726/
⭐️โรคลักปิดลักเปิด -> https://www.facebook.com/476743752739537/posts/971757463238161/
▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️
References
Vitamin C and Immune Function
Nutrients 2017 Nov; 9(11): 1211.
Cochrane Reviews Douglas et al., 2000, Hemila et al., 2007, Hemila & Chalker, 2013
Vitamin C physiology: the known and the unknown and Goldilocks
Oral Dis. 2016 Sep; 22(6): 463-493.
The Role of Vitamins and Minerals in Hair loss: A Review
Dermatol Ther (Heidelb). 2019 Mar: 9(1): 51-70.

▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️

เรียบเรียงโดย แพทย์หญิงวรายุวดี อมรภิญโญ อายุรแพทย์โรคผิวหนัง
บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s