Category Archives: Hair and Nail care

รู้หรือไม่..Shampoo, Conditioner, Hair serum มีประโยชน์ต่างกันอย่างไร

มาเริ่มกันที่ประโยชน์ของ Shampoo ก่อนค่ะ

แชมพูสระผม ไม่เพียงแต่ทำความสะอาดหนังศีรษะ ขจัดเหงื่อและน้ำมันส่วนเกิน ชำระล้างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ตกแต่งผม แล้วยังช่วยให้เส้นผมแข็งแรงได้อีกด้วย

แชมพูบางอย่างมีการผสม active ingredients ที่ช่วยเสริมการรักษาโรคบางชนิดได้ เช่น หนังศีรษะอักเสบ รังแค ผมร่วง ผมบาง สะเก็ดเงินที่หนังศีรษะ เป็นต้น

ประโยชน์ของแชมพู​
ประโยชน์ของแชมพู

ส่วนผสมของ Shampoo

  • Detergents คือ สารชำระล้างหรือสารทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ จะช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกต่าง ๆ มักมีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว (surfactants) เช่น Sodium Lauryl Sulfate (SLS) ซึ่งทำให้ผิวหนังแห้งระคายเคืองได้ หากใครผิวระคายเคืองง่ายหรือเป็นโรคหนังศีรษะอักเสบบ่อย ๆ ควรเลี่ยง SLS และอาจใช้เป็น Sodium Laureth Sulfate (SLES) แทน
  • Conditioning and active ingredients for hair manageability คือ สารปรับสภาพผม กลุ่มนี้มักเป็น Hydrolyzed protein (collagen, silk, animal proteins),, fatty substances เช่น vegetable oils, wax, lecithin, lanolin derivatives ที่สามารถซึมผ่าน hair shaft ได้ เพื่อช่วยบำรุงหนังศีรษะเพื่อให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมต่อการเกิดเส้นผมใหม่ที่แข็งแรงสุขภาพดี แชมพูที่ได้มาตรฐานมักมี conditional effects ร่วมด้วยในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี แข็งแรงและเงางาม หวีจัดทรงง่าย
  • Additives สารเติมแต่งอื่น ๆ เช่น

    สารที่ช่วยทำให้ข้นหนืด (Viscosity control agents), สารที่ทำให้เกิดฟอง (foam stabilizers), สารกันเสีย (preservatives) หากเป็นได้ควรเลี่ยง paraben เพราะมักก่อให้เกิดการแพ้สัมผัสได้บ่อย, น้ำหอม (fragrances)

ส่วนประกอบของแชมพู
ส่วนประกอบของแชมพู

ส่วนกลุ่มที่มีสารที่ช่วยเสริมการรักษาโรคบางชนิดได้ เช่น หนังศีรษะอักเสบ รังแค ผมร่วง ผมบาง สะเก็ดเงินที่หนังศีรษะ เราจะเรียกว่าเป็น Medicated Shampoo เช่น Tar, Salicylic acid, Sulfur, Selenium sulfide, Ketoconazole, Zinc pyrithione เป็นต้น

ในขณะที่ครีมนวดผม (Hair Conditioners)

เป็นอีก options ที่เข้ามาเติมจุดบกพร่องที่แชมพูทำไม่ได้ คือ ช่วยเรื่องความสวยงามของเส้นผม ช่วยบำรุงให้ผมนุ่ม เงางาม และเคลือบไม่ให้ผมชี้ฟู และยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเส้นผมในกรณีผมดัด ย้อม ทำสี

ปกติจะแนะนำให้ใช้ครีมนวดหลังการสระผมด้วยแชมพู แล้วล้างออก หรือ กรณีผมแห้งเสียมาก อาจจะใช้ชนิดหมัก นวดปลายผมและทิ้งไว้ 20-30 นาทีก่อนล้างออก

ครีมนวดผม ประโยชน์ conditioner
ประโยชน์ของครีมนวดผม

ส่วนกรณี Leave-On Hair Serum

คือ การใช้เซรั่มบำรุงผมชนิดทาทิ้งไว้ ไม่ต้องล้างออก (หลักการคล้ายกับ Skin serum ที่ใช้บำรุงผิว) เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันเช่นกัน อาจใช้แทนครีมนวดผมก็ได้ หรือถ้าจะให้ได้ผลดียิ่งขึ้นควรใช้ร่วมกับการสระด้วย Shampoo และ นวดผมด้วย Conditioners

Leave-On Hair Serum
Leave-On Hair Serum

ประโยชน์ของ Leave-On Hair Serum

คือ ช่วยบำรุงเส้นผม เพิ่มความแข็งแรงของเส้นผม ป้องกันการทำร้ายผมจาก pollutions รอบตัว และยังช่วยให้ผมนุ่มและเงางาม

ส่วนผสมใน Leave-On Hair Serum มักเป็นส่วนผสมที่มี oil เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม หรือ กรณีที่ผมแห้งเสียชี้ฟูขาดการบำรุงมาก

แนะนำให้เลือกส่วนผสมที่มีสารบำรุงเข้มข้น และกลุ่ม protein ร่วมด้วย หรือ เทคโนโลยี Biocellular complex ใน Dove Hair Therapy ตัวใหม่ก็เน้นช่วยบำรุงลึกถึงระดับเซลล์ในกลุ่มคนที่ผมแห้งเสีย และสามารถใช้หลังสระผมขณะผมหมาด ก่อนไดร์ผมเพื่อช่วยปกป้องผมจากความร้อนได้ด้วย

เทคนิกการใช้ Leave-On hair serum

  • แนะนำให้ทาลูบเบา ๆ เน้นบริเวณเส้นผมที่มีปัญหาโดยเฉพาะปลายผม โดยสามารถทาได้ทั้งผมแห้ง ผมเปียกหลังการสระ หรือ รอให้ผมหมาดก่อนจึงค่อยทาบำรุงก็ได้ทั้งนั้นค่ะ
  • Hair serum ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกคน แต่แนะนำให้ใช้ร่วมด้วยกรณีหากใครที่ผมแห้ง แข็งกระด้าง ชี้ฟู แตกปลาย
  • คนที่ไดร์ผมด้วยความร้อนบ่อย ๆ แนะนำให้เลือกทา Hair serum ที่ช่วยปกป้องผมจากความร้อน ก่อนไดร์ผม
  • Hair serum ให้ทาที่บริเวณเส้นผม ไม่ควรทาที่โคนผมหรือหนังศีรษะ
  • ใช้ Hair serum บ่อยแค่ไหน ขึ้นกับปัญหาเส้นผมแต่ละคน โดยปกติแนะนำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
เทคนิคการใช้ Leave-On Hair Serum​
เทคนิคการใช้ Leave-On Hair Serum

การมีเส้นผมที่สวย แข็งแรง เงางาม ถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเสริมบุคคลิกภาพให้น่ามองและชวนหลงใหลได้เลยทีเดียว ดังนั้นการให้ความใส่ใจกับการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ 

—————————–

References

Int J Trichology. 2015 Jan-Mar;7(1):2-15.

Recent Pat Inflamm Allergy Drug Discov. 2014;8:48–58.  

J Dtsch Dermatol Ges. 2007 May;5(5):356-65.

Clin Dermatol. 1996;14:123–8.  

—————————–

[Advertorial] DOVE Hair Therapy

เซรั่มบำรุงผม Leave on Hair Serum

Dove hair therapy
  • เทคโนโลยี ไบโอเซลลูล่า คอมเพล็กซ์ บำรุงลึกถึงระดับเซลล์ผม
  • เหมาะสำหรับผมแห้งเสีย ชี้ฟู ลดการขาดหลุดร่วง เนื้อเบาบางซึมเร็วไม่เหนอะหนะ ไม่ทำให้ผมมัน
  • ใช้ได้หลังจากผมหมาดก่อนไดร์ เพื่อปกป้องผมจากความร้อน หรือพกใช้ระหว่างวันช่วยให้ผมจัดทรงง่าย
  • แนะนำใช้คู่กับแชมพูและครีมนวดสูตรสีทอง BREAKAGE REMEDY เพื่อเพิ่มการบำรุงให้ล้ำลึกไปอีกขั้น
  • ไบโอ เซลล์ลูล่า คอมเพล็กซ์ + vitamin C ช่วยให้ผมแข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วง
  • ครีมนวดผมมี 2 หัว เป็น 2-in-1 เซรั่มวิตามิน + คอนดิชันเนอร์เข้มข้น ที่ผสมสดใหม่ทุกครั้ง เพื่อประสิทธิภาพที่ดี

หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าทั่วไป และ Tops Watsons และทางออนไลน์ Shopee Lazada

#DoveHairTherapy #จบปัญหาผมเรื้อรังที่ระดับเซลล์

—————————–

‍⚕️อ่านบทความย้อนหลังที่ 

รวมลิ้งค์ https://opl.to/drwarayuwadee

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

10 ไอเทมผลิตภัณฑ์สำหรับคนผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมน

[ Topical treatment for Patterned Hair loss ]

เช็คลิสต์10อย่าง‼️

มาต่อเรื่องผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมน ตอนที่ 2 กันค่ะ
ใครเพิ่งเจอบทความนี้ อยากให้กลับไปอ่านตอนที่ 1 ก่อนหน้านี้

คราวนี้มาพูดถึงยาทาในการรักษาภาวะผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมนกันบ้าง ขอพูดถึงตัว minoxidil เยอะหน่อยเพราะเป็นยาทาตัวเดียวที่ FDA-approved ในตอนนี้ค่ะ ส่วนข้อ 2-10 ก็มีรายงานมากขึ้นว่าใช้ได้ผล

มาเริ่มเลยค่ะ
🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰

1️⃣⭐️ Topical minoxidil

✔️เป็นยาทาตัวเดียวที่ FDA-approved
▫️สำหรับผู้ชาย คือ 2% และ 5% (5% ผลดีกว่า 2%)
▫️ส่วนผู้หญิง คือ 2% (ความเข้มข้นมากกว่านี้ได้ผลไม่แตกต่าง และอาจมีผลข้างเคียงมากขึ้น)
▫️แบบ 5% foam งานวิจัยรับรองได้ผลทั้งหญิง (ทาวันละครั้ง) และชาย (ทาเช้าเย็น)
🔴 ดังนั้น ควรเลือกความเข้มข้นให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และผลข้างเคียงน้อยที่สุด และไม่เป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายหรือราคาที่สูงขึ้นโดยไม่จำเป็น
✔️ปริมาณที่ใช้ต่อครั้ง : 1 ml (solution), ครึ่งฝา (foam)
🔴 ดังนั้น การใช้มากเกินไป อาจไม่ช่วยให้ผลการตอบสนองดีขึ้นไปมากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับผลข้างเคียงที่ตามมา
✔️ เริ่มเห็นผล 4-6 เดือน หากหยุดทาจะทำให้ผมเริ่มกลับมาบางลงใหม่ใน 4-6 เดือน
🔴 ดังนั้น ควรทาอย่างต่อเนื่องไปตลอดถ้าหากไม่มีข้อห้ามหรือผลข้างเคียงอะไร
✔️ ช่วงเริ่มใช้ 4-6 สัปดาห์แรก อาจมีการผลัดผมให้ร่วงมากขึ้นได้ และต่อไปจะค่อย ๆ มีผมขึ้นมาใหม่
🔴 ดังนั้น จึงไม่ต้องตกใจและไม่จำเป็นต้องหยุดทายา
✔️ ผลข้างเคียง :
❌ อาการแพ้จาก minoxidil
❌ การระคายเคืองจากสาร propylene glycol
❌ ขนขึ้นเยอะตามใบหน้า หรือบริเวณที่สัมผัส
🔴 ดังนั้น หากมีผื่นคัน หน้าบวมหรืออาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาว่าเป็นการระคายเคืองจากสาร PG หรือเป็นการแพ้ minoxidil
🔴 กรณีระคายเคือง PG อาจเปลี่ยนสูตรที่ไม่มี PG หรืออาจใช้เป็นรูปแบบ foam alcohol-based
🔴 กรณีเปลี่ยนสูตรแล้วไม่ดีขึ้น อาจเป็นจากการแพ้ minoxidil แนะนำหยุดใช้
✔️ ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงตั้งครรภ์
✔️ อาจมีบางผลิตภัณฑ์ที่ผสมกับ tretinoin solution, finasteride, amenexil ก็ใช้ได้

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์

💰 Minodil
💰 Nuhair
💰 Regaine
💰 Reten Five

2️⃣⭐️ Topical finasteride
เป็น 5-alpha reductase inhibitors
✔️ แนะนำ 0.05% gel หรือ 0.1% lotion
✔️ ใช้คู่กับ topical minoxidil ได้ผลดีขึ้น

3️⃣⭐️ Topical antiandrogen
ที่มีบางรายงานว่าได้ผลในผู้ชาย แต่ไม่ค่อยได้ผลในผู้หญิง เช่น
✔️ Fluridil 2% solution ทาเช้าเย็น
✔️ Alfatraiol 0.025% lotion ทาเช้าเย็น

4️⃣⭐️ Topical prostglandin analogs
มีรายงานได้ผลในผู้ชายที่ผมบางไม่รุนแรงนัก
✔️ Latanoprost 0.1% วันละครั้ง

5️⃣⭐️ Topical ketoconazole shampoo
ใช้ร่วมกับ oral finasteride ก็ช่วยได้ดี
ใช้ 2-4 ครั้ง/สัปดาห์

6️⃣⭐️ Topical melatonin 0.1% ทาวันละครั้ง

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์

💰NutraM

7️⃣⭐️ Topical adenosine 0.75% ทาเช้าเย็น

8️⃣⭐️ Topical Saw palmetto (Serenoa repens) lotion ทาเช้าเย็น

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์

💰Biothymus-M

9️⃣⭐️ Topical Cellium
ประกอบด้วยสารสกัดจาก Allium species, Citrus species

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์

💰CG210
💰CG428

🔟⭐️ Topical Capixyl
ประกอบด้วย Acetyl tetrapeptide-3, Biochanin A

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์

💰 Hirsuit

อ่านจบกันมั้ย และอย่าลืมว่า..การตอบสนองต่อการใช้ยาแต่ละชนิดในแต่ละบุคคลก็ไม่เหมือนกัน ทั้งหมดนี้อาจ เป็นทางเลือกเสริมให้ลองพิจารณาเลือกให้เหมาะกับตัวเองค่ะ
และหากไม่แน่ใจว่าคุณผมร่วงหรือผมบางจากภาวะนี้หรือไม่ แนะนำให้พบแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการตรวจวินิจฉัย ก่อนเริ่มทำการรักษาอย่างถูกวิธี ไม่แนะนำให้ลองผิดลองถูกเพราะอาจเกิดผลข้างเคียงตามมา

▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️
No Sponsored Content
Product Mentioned: #minoxidil #finasteride #CG210 #CG428 #Hirsuit #BiothymusM #Nuhair #Regaine #RetenFive

▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️
References
Int J of Women’s Dermato. 2018; 4(4): 203-211.
Am J Clin Dermatol. 2014; 15: 217-230.
Int J Trichology. 2012; 4(4): 236-247.

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

10 ข้อสรุป ผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมน ‼️

10 ข้อควรรู้ เรื่องผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมน ‼️

👴🏻👴🏻👴🏻👴🏻👴🏻👴🏻👴🏻👴🏻👴🏻

1️⃣⭐️ ในเพศชาย เรียก Male Androgenetic Alopecia หรือ Male Patterned Hair Loss (MPHL) ในเพศหญิง เรียก Female Androgenetic Alopecia หรือ Female Patterned Hair Loss (FPHL)

ที่เรียกชื่อแบบนี้เพราะลักษณะของผมที่บาง จะมีแพทเทิร์นที่มีลักษณะเฉพาะ โดยมีปัจจัยหลัก 2 อย่าง คือ พันธุกรรม และ/หรือ ฮอร์โมน
👴🏻ดังนั้น บางคนอาจไม่มีพันธุกรรมร่วมด้วยก็ได้

2️⃣⭐️ ปัจจัยเรื่องฮอร์โมนแอนโดรเจนจะทำให้เส้นผมบางบริเวณมีขนาดเล็กลง โดย เพศหญิงมักเริ่มบางจากกลางศีรษะก่อน และ เพศชายมักเริ่มเถิกจากหน้าผากบริเวณขมับสองข้าง ขึ้นไปเป็นรูปตัว M ต่อมาจะเริ่มบางบริเวณกลางศีรษะ และหากเป็นเยอะก็จะลามออกมารวมกับด้านหน้า ดังรูป แต่ในเพศหญิงบางคนอาจบางรูปแบบของเพศชายได้
👴🏻ดังนั้น บริเวณที่ตอบสนองต่อการทายา คือบริเวณดังกล่าวนั่นเอง ส่วนบริเวณอื่นที่ไม่ได้มีอิทธิพลจากฮอร์โมนอาจต้องรักษาวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ปลูกผม

3️⃣⭐️ กรณีฝาแฝด หากคนหนึ่งผมบาง พบว่าส่วนมากอีกคนมักเกิดขึ้นเช่นกัน เพราะส่วนหนึ่งเกิดจาก ปัจจัยเรื่องพันธุกรรมร่วมด้วย
👴🏻ดังนั้น คู่แฝดส่วนใหญ่มัก หัวล้าน/ไม่ล้าน เหมือนกันทั้งคู่ แต่ก็ไม่เสมอไป 100%

4️⃣⭐️ คนหัวล้านหรือผมบาง ควรต้องระวังเรื่องการป้องกันแสงแดดให้ดี เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิด มะเร็งผิวหนังที่บริเวณหนังศีรษะเพิ่มขึ้นได้
👴🏻ดังนั้น แนะนำให้ใส่หมวก กางร่ม เวลาออกกลางแดด และหากมีตุ่มหรือแผลผิดปกติควรพบแพทย์เพื่อประเมิน

5️⃣⭐️ ในเพศหญิงอายุน้อยที่ผมบางเร็ว อาจมี ปัจจัยอื่น ๆ ที่กระตุ้นให้เกิด FPHL ได้ เช่น ภาวะขาดธาตุเหล็ก ขาดวิตามินบางชนิด เป็นต้น
👴🏻ดังนั้น กลุ่มนี้แนะนำให้พบแพทย์เพื่อ ตรวจเลือดหาสาเหตุร่วมด้วยเสมอ ก่อนด่วนสรุปว่าเป็นจากฮอร์โมนหรือพันธุกรรมเพียงเท่านั้น เพราะคนไข้อาจเสียโอกาสในการรักษาด้วยวิธีอื่นที่ตรงสาเหตุร่วมด้วย

6️⃣⭐️ มีงานวิจัยพบว่าคนผมบางหัวล้านมีความกังวลและเครียดมากขึ้น บางรายมากจนถึงขึ้นเป็นโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะเพศหญิงจะมากกว่าเพศชาย ซึ่งพบว่า คนไม่ประสบปัญหานี้อาจไม่เข้าใจ
👴🏻ดังนั้น แนะนำว่าหากเป็นไปได้ไม่ควรล้อเลียนผู้อื่นเรื่องนี้ เพราะอาจเป็นปัจจัยทำให้สภาวะทางจิตใจแย่ไปกว่าเดิม

7️⃣⭐️ เพศชายที่ผมบางตั้งแต่ Grade 3 ขึ้นไป ก่อนอายุ 30 ปี (โดยเฉพาะคนที่ผมบางกลางศีรษะ > เถิกที่หน้าผาก) พบมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดมากขึ้น
👴🏻ดังนั้น ควรหมั่นดูแลสุขภาพให้ดี ดูแลเรื่องอาหารการกิน และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

8️⃣⭐️ ภาวะนี้ไม่เร่งด่วน การรักษาขึ้นกับความต้องการและความพึงพอใจของแต่ละคน และการรักษาในแต่ละวิธีต้องอาศัยความต่อเนื่องไปตลอด ไม่ว่าจะกินหรือทายา หรือแม้กระทั่งปลูกผมแล้วก็ยังต้องกินยาและทายาต่อไป เพราะหากหยุดการรักษาก็อาจทำให้ ผมกลับมาบางได้อีก
👴🏻ดังนั้น ควรตัดสินใจก่อนเริ่มการรักษาให้ดีก่อนเริ่มต้นการรักษาไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม และการตอบสนองต่อการรักษาของแต่ละคนต่อการรักษาแต่ละวิธีก็ไม่เหมือนกัน เนื่องจากขึ้นกับหลายปัจจัย และหากไม่แน่ใจก็ แนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินก่อนว่าเป็นภาวะนี้จริงหรือไม่ ก่อนเริ่มทำการรักษา

9️⃣⭐️ การรักษามีหลายวิธี

✔️ ใส่วิก

✔️ ยาทา ได้แก่
▫️ Topical minoxidil (FDA approved)
3-5% minoxidil ในเพศชาย
2% minoxidil ในเพศหญิง
**ระยะเวลาเริ่มเห็นผลชัดเจน คือ 6-12 เดือน
**หลังเริ่มใช้อาจมีผมร่วงมากขึ้นใน 2-8 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นต่อไปผมจึงจะเริ่มขึ้น
**หากหยุดทายา ผมจะเริ่มกลับมาร่วงใน 4-6 เดือน
**ผลข้างเคียง แพ้ระคายเคือง
▫️Topical finasteride 0.1%
▫️Topical anti-androgen เช่น fluridil, alfatradiol 0.025%
▫️Latanoprost, ketaconazole shampoo

✔️ ยารับประทาน ได้แก่
▫️Finasteride 1-5 มก ต่อวัน (เพศชาย), 2.5-5 มก ต่อวัน (หญิงวัยหมดประจำเดือน) (FDA-approved)
**อาจทำให้ระดับ serum PSA ลดลงได้ประมาณ 50% แนะนำให้ตรวจระดับ serum PSA ก่อนให้ยา เพื่อป้องกัน false negative กรณีมะเร็งต่อลูกหมาก
▫️Dutasteride 0.5-2.5 มก ต่อวัน
**ประสิทธิภาพดีกว่า แต่ half life นานกว่า finasteride จึงควรหยุดยาอย่างน้อย 6 เดือนก่อนบริจาคเลือด
**ผลข้างเคียง พบใน dutasteride มากกว่า finasteride ได้แก่ ความต้องการทางเพศลดลง (1.9%), อวัยวะเพศไม่แข็งตัว (1.4%) ซึ่งพบไม่บ่อย และดีขึ้นกลับเป็นปกติเมื่อหยุดยา
▫️ Minoxidil 5 มก ต่อวัน
▫️กรณีเพศหญิง ยาที่อาจใช้ได้ คือ Oral anti-androgens ซึ่งวิธีนี้ไม่ใช้ในเพศชาย ได้แก่ Spironolactone, Cyproterone acetate

✔️ Platelet rich plasma (PRP)

✔️ Low Level Laser Therapy (LLLT)

✔️ การปลูกผม (Hair transplantation)
แนะนำเมื่อรักษาด้วยวิธีอื่นมาแล้ว 1-2 ปี และยังไม่ได้ผลที่พึงพอใจ

✔️ การสักอณูสี (Scalp micropigmentation)
มักทำในคนที่ผมบางระยะท้าย ๆ ที่กว้างเกินไปสำหรับการปลูกผม

🔟 แชมพูหรือสเปรย์ที่มี Evidence-based —> ถ้ามีคนอยากรู้จะมาต่อรีวิวตอนที่ 2

References
Cranwell W, Sinclair R. Male Androgenetic Alopecia. [Updated 2016 Feb 29]. Endotext
J Eur Acad Dermtol Venereol. 2018; 32(12): 2112-2125.
J Dtsch Dermatol Ges. 2007; 5: 391-5.

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

12 ข้อ ที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ผม”

12 ข้อที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่อง “ผม”

🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰

1️⃣ ยิ่งตัดผมบ่อย ๆ จะยิ่งทำให้ผมยาวขึ้น —> ❌❌❌
อัตราการยาวของผมได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ประมาณ 1 ซม ต่อเดือน (อาจยาวช้าหรือเร็วกว่าปกติได้นิดหน่อยในบางกรณี) ดังนั้น หากตัดผมเดือนละครั้ง ๆ ละ 1 ซม. ผลคือ ผมยาวเท่าเดิมหรือหากตัดออกมากกว่านี้ ผลคือสั้นลงด้วยซ้ำ

2️⃣ การโกนผม จะทำให้ผมที่ขึ้นใหม่มีมากขึ้น —> ❌❌❌
จำนวนของเส้นผมได้ถูกกำหนดไว้แล้วตามจำนวนของ hair follicles ที่มี การโกนออกไปเท่าไหร่ ผมที่งอกใหม่ก็งอกออกมาตามจำนวนของ hair follicles ที่มีบนหนังศีรษะ การโกนผมไม่ได้ส่งผลให้จำนวน hair follicles เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

3️⃣ ยิ่งหนังศีรษะแห้งจะยิ่งทำให้เกิดรังแคมากขึ้น —> ❌❌❌
รังแคหรือเซบเดิร์มไม่ได้เกิดจากการมีหนังศีรษะแห้ง แต่เกิดจากมีการอักเสบของต่อมไขมัน ในทางกลับกันโรคนี้มักพบในกลุ่มคนที่หนังศีรษะค่อนข้างมันด้วยซ้ำ

4️⃣ ยิ่งหวีผมบ่อย ๆ จะยิ่งทำให้ผมนุ่มสลวยไม่พันกัน —> ❌❌❌
การหวีผมนอกจากช่วยให้ผมไม่พันกันแล้ว ยังกระตุ้นให้ต่อมไขมันที่หนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นด้วย น้ำมันเหล่านั้นจะช่วยเคลือบหนังศีรษะและเส้นผมให้สุขภาพดีและเงางาม ในทางกลับกันหากหวีผมบ่อยเกินไปจะส่งผลเสียทำร้ายเส้นผม เกิดผมแตกปลาย ผมมันเกินไปอาจลีบแบน ดังนั้นควรหวีผมเท่าที่จำเป็น เช่น เวลาผมพันกัน หรือเช้าเย็นก็เพียงพอถ้าหากไม่มีปัญหาอื่นใด

5️⃣ แชมพูสามารถเพิ่มขนาดเส้นผมให้ใหญ่ขึ้นได้ —> ❌❌❌
ขนาดเส้นผมได้ถูกกำหนดไว้แล้วด้วยพันธุกรรม คล้าย ๆ กับจำนวนของเส้นผมที่กล่าวไป ไม่มีครีมแชมพูหรือยาอะไรที่ทำให้เส้นผมที่ปกติกลายเป็นขนาดใหญ่ขึ้นได้ #ยกเว้นกรณีภาวะผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมนที่จะทำให้ผมเปลี่ยนระยะกลายเป็นระยะที่เส้นเล็กลง กรณีนี้สามารถใช้ยาหรือแชมพูบางชนิดช่วยให้ผมกลับไปใหญ่เป็นระยะเดิมซึ่งเป็นขนาดปกติของระยะนั้น

6️⃣ ยิ่งสระผมบ่อย ผมจะยิ่งสะอาด —> ❌❌❌
การสระผมที่เหมาะสมควรจะเป็น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ลองดูว่าผมเริ่มมันนั่นแหละคือเวลาที่เหมาะสมของแต่ละบุคคล หรือหากมีความจำเป็นที่ต้องสระเพิ่มเติม เช่น หลังเล่นกีฬา เปื้อนสกปรก สระมากกว่านี้ไม่ได้มีผลดีมากขึ้น เพราะจะล้างไขมันที่เคลือบเส้นผมและหนังศีรษะออกไป ทั้งยังอาจทำให้หนังศีรษะแห้งเกิดการอักเสบตามมาได้อีก

7️⃣ การถอนผมหงอกจะทำให้มีผมดำขึ้นใหม่มาทดแทน —> ❌❌❌
ผมหงอกไม่ควรถอน การถอนเป็นการดึงและทำลายเอาสเต็มเซลล์สร้างเม็ดสีที่อยู่รากผมทิ้งออกไป ผมที่เกิดใหม่จะยิ่งเหลือสเต็มเซลล์น้อยลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้น ผมหงอกห้ามถอน การรักษาที่ทำให้ผมหายหงอกยังมีเพียงวิธีเดียว คือ การย้อมผม แต่อาจต้องติดตามรอฟังข่าวดีเร็ว ๆ นี้ถึงผลการรักษาด้วยยาตัวใหม่ล่าสุดที่ช่วยแก้เรื่องผมหงอกได้จากกลไกกระตุ้นที่สเต็มเซลล์ โดยตรงไว้จะมาเล่าให้ฟัง

8️⃣ ผลิตภัณฑ์บางชนิดช่วยทำให้ผมหายแตกปลายได้ —> ❌❌❌
ไม่มีอะไรทำให้ผมที่แตกปลายแล้วกลับไปติดกันได้เหมือนเดิม ทำได้เพียงตัดเล็มปลายผม และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ปลายผมแยกจากกัน เช่น ความร้อน
การที่ผลิตภัณฑ์บางชนิดโฆษณาช่วยแก้ผมแตกปลายนั้น มักใช้ออยเป็นส่วนผสมเพื่อทำให้ปลายผมที่แตกปลายกลับไปติดกันเพียงชั่วคราวเท่านั้น

9️⃣ ในแต่ละครั้งควรสระผม 2 รอบขึ้นไปจึงจะดี —>❌❌❌
ไม่มีกำหนดว่าจะสระกี่รอบ เพียงแต่ต้องสระผมให้สะอาดเท่านั้น และต้องไม่มากเกินไป หากสระผมหลายรอบเกินไปจะทำให้หนังศีรษะแห้งและระคายเคืองตามมาได้ หากสระผม 1 รอบแล้วสะอาดพอก็ไม่จำเป็นต้องสระอีกหลายครั้ง

🔟 การสระผมและนวดผมต้องทำให้ทั่วเพื่อความสะอาดหมดจด —> ❌❌❌
การสระผมควรเน้นสระที่หนังศีรษะ แต่การนวดผมให้เน้นที่ปลายผม เนื่องจากที่โคนผมมีน้ำมันหล่อเลี้ยงเพียงพออยู่แล้ว

1️⃣1️⃣ Dry shampoo ควรใช้หลังออกกำลังกาย —> ❌❌❌
ควรใช้ตอนเช้าวันที่จะไปออกกำลังกาย เพื่อคอยดูดซับน้ำมันหรือความสกปรกที่จะออกมาเพิ่มตอนออกกำลังกาย การใช้สระหลังจากออกกำลังกาย ซึ่งตอนนั้นผมที่เหงื่อและเหนียวเหนอะ จะยิ่งทำให้ผมจับตัวเป็นก้อนและดูแลยากขึ้น

1️⃣2️⃣ น้ำมันมะพร้าวช่วยรักษาผมร่วงได้ —> ❌❌❌
ในน้ำมันมะพร้าวมีโปรตีนที่โครงสร้างคล้ายเส้นผม และยังมีไขมันชนิด medium chain triglyceride การนำมาหมักผมสามารถช่วยบำรุงเส้นผมได้ดี ทำให้ผมนุ่มสุขภาพดีขึ้นได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์บอกว่าน้ำมันมะพร้าวสามารถรักษาผมร่วงได้

สุดท้าย อยากบอกให้ทุกคนหาข้อเท็จจริงให้ดีก่อนหลงเชื่อคำโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ว่าได้ผลจริงหรือไม่ ก่อนซื้อมาใช้เพียงเพราะคำบอกเล่าต่อ ๆ กัน

หากคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ ช่วยกดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้หมอด้วยค่ะ ❤️

▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

⭐️ เคล็ดลับการดูแลผมให้สวยสุขภาพดี
https://www.facebook.com/476743752739537/posts/478673859213193/


บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

มือแห้งอันตรายกว่าที่คิด


โพสนี้สรุปการดูแลผิวที่มือ..สามารถนำไปปรับใช้และเป็นข้อมูลประกอบในการเลือกผลิตภัณฑ์ได้เลย
💦💦💦💦💦💦💦💦💦💦💦💦💦💦

ในทางทฤษฎี มีงานวิจัยระบุไว้ชัดเจนว่า การล้างมือบ่อยกว่า 8-10 ครั้งต่อวัน ทำให้เพิ่มโอกาสการเกิดมือแห้งอักเสบได้ และมาในวันนี้ การล้างมือบ่อย ๆ เป็นสิ่งจำเป็นที่เลี่ยงไม่ได้ที่ทุกคนต้องทำ

ผลที่ตามมาคือ มือแห้ง ลอก อักเสบ ซึ่งจะทำให้โครงสร้างในการปกป้องผิวสูญเสียหน้าที่ไป ผลคือ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่มือมากขึ้น

สรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับวิธีการดูแลผิวที่มือ
(เพิ่มเติมจากการล้างมือให้ถูกวิธี 20 วินาที)
ให้ทุกคนนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ดังนี้

🌟 ใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นก็ได้ ไม่มีผลต่อการกำจัดเชื้อโรค เพียงแค่ล้างให้ถูกวิธีและล้างให้นานพอ

🌟 ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างมือในรูปแบบที่เหมาะสมและปริมาณมากเพียงพอในแต่ละครั้ง

💯 Alcohol gel ดีกว่า Soap
💯 กรณีใช้ alcohol ชนิดที่ไม่ต้องล้างออก และหวังผลในเรื่องการฆ่าเชื้อด้วย แนะนำเป็น gel ดีกว่า spray เนื่องจากเราต้องการ contact time ในการออกฤทธิ์ที่นานพอ
💯 ควรมีส่วนผสมของสารเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น glycerin, aloe vera
💯 ปริมาณที่ใช้ ต่อการล้างมือ 2 ข้าง 1 ครั้ง คือ 3-5 ml (ประมาณ 0.5-1 ช้อนชา) ขึ้นกับขนาดของมือว่าเล็กหรือใหญ่ 💯Alcohol ติดไฟได้ หลังจากใช้โดยเฉพาะชนิดที่ไม่ต้องล้างออก ควรรอให้แห้งก่อนเข้าใกล้ไฟ เช่น ทำอาหาร สูบบุหรี่

🌟 หลังล้างมือ ใช้ผ้าสะอาดซับหรือเป่าด้วยเครื่องเป่าลม และรีบทาครีมบำรุงทันทีตอนขณะที่มือยังมีความชุ่มชื้นจากน้ำอยู่ จะทำให้ครีมมีประสิทธิภาพมากกว่าการทาครีมบำรุงตอนมือแห้งสนิทแล้ว

🌟 ใช้ Hand cream ที่เหมาะสม

💯 แนะนำแบบ Cream หรือ Oil-based ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีกว่าแบบ gel เพราะแบบเจลจะทำให้มีการระเหยสูญเสียน้ำออกจากผิว ผลคือผิวจะยิ่งแห้ง
💯 หากใช้เป็นกลุ่ม Barrier cream ได้จะดีมาก
💯 เลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ระบุ Anti-aging เนื่องจากมักมีสารผลัดเซลล์หรือกลุ่ม retinol ที่มักก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
💯 แนะนำส่วนผสมที่มี Petrolatum, urea, dimethicone, olive oil, shea butter

🌟 การใส่ถุงมือหลังทาครีมตอนก่อนนอน เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีมได้ดี เนื่องจากเสมือนเป็น Occlusive effect

📚📚📚 สรุปโพสนี้อยากบอกว่า 📚📚📚

🆘 การล้างมืออย่างถูกวิธี ที่ทุกท่านทราบกันดีว่า ล้างอย่างน้อย 20 วินาที และล้างให้สะอาดตามขั้นตอน สามารถช่วยชะล้างสิ่งสกปรกบนผิวมือได้ แต่เท่านี้ อาจไม่เพียงพอ

🆘 การดูแลผิวที่บริเวณมือก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะสามารถช่วยป้องกันผลเสียที่ตามมาจากการล้างมือบ่อย ได้แก่ ผิวอักเสบ ผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย จนเกิดการเจ็บปวด เป็นบ่อเกิดของการติดเชื้อแทรกซ้อนตามมาทั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้ออื่นๆจากการไปสัมผัส

▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️
When in doubt,
Ask your Board-certified Dermatologist

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

ผมสวยสุขภาพดี..ใคร ๆ ก็มีได้

“คุณหมอมีเคล็ดลับแนะนำในการดูแลเส้นผมอย่างไรบ้างคะ.. หนูอยากผมสวยสุขภาพดีบ้าง”

เทคนิคสั้น ๆ ง่าย ๆ ใครก็ทำได้ตามนี้เลยค่ะ

👩🏻‍⚕️ การหวีผม
🔹อย่าหวีผมบ่อยเกินไป เพราะจะทำลายน้ำมันเคลือบผมตามธรรมชาติ ทำให้เกิดการแตกปลายและผมชี้ฟู
🔹หลังอาบน้ำ ใช้หวีซี่ห่าง หรืออาจใช้นิ้วในการสางผม แทนการหวี

👩🏻‍⚕️ การตัดผม
🔹เล็มปลายผมทุก 4-6 สัปดาห์ โดยตำแหน่งที่เล็มคือ เหนือจากจุดที่ผมแยกจากกันมาประมาณ 1/4 นิ้ว

👩🏻‍⚕️ การสระผมและการหมักผม
🔹สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว การสระผมทุกวันนั้นไม่จำเป็น อีกทั้งยังเป็นการทำลายไขมันธรรมชาติที่เคลือบเส้นผม ทำให้ผมแห้งเสียได้ง่าย
🔹ไม่ควรสระผมด้วยน้ำร้อน แนะนำให้ใช้น้ำเย็นจะช่วยให้ cuticle ชั้นนอกของเส้นผมเรียงตัวดี ผลคือ ผมเงางามยิ่งขึ้น หรืออาจใช้น้ำเย็นเป็นน้ำสุดท้ายเพื่อ cool down ให้ cuticle เรียงตัวเพื่อความเงางามของเส้นผม
🔹ไม่เกาหนังศีรษะ แนะนำให้นวดเบาๆแทน
🔹ไม่ใช้ยาสระผมในปริมาณมากเกินไปเพราะจะทำลายเส้นผมได้
🔹การหมักบำรุงผมนั้นดีต่อเส้นผมมากๆ เพราะจะทำให้ผมนุ่มสลวย แข็งแรงและยังชุ่มชื้นขึ้น แนะนำสัปดาห์ละครั้ง
🔹แนะนำให้ใช้ครีมนวดผม ช่วยให้ผมเงางาม ไม่พันกัน ลดการชี้ฟู มีสุขภาพดี และครีมนวดที่เป็น protein-rich conditioner ช่วยลดผมแตกปลายได้ และทำให้ผมหนานุ่มขึ้น

👩🏻‍⚕️ การดัดย้อมทำสียืดผม
🔹หลีกเลี่ยงการยืดผมถาวร
🔹หลีกเลี่ยงการดัดหรือย้อมสี บ่อยเกินเดือนละ 1 ครั้ง ควรมีช่วงเว้นจากการทำสีให้ผมได้พักบ้าง

👩🏻‍⚕️ การมัดรวบผม
🔹หลีกเลี่ยงการรัดผมรวบตึงเกินไปเพราะจะทำลายรากผมและก่อให้เกิดผมบางจากการดึงรั้งได้
🔹ใช้วิธีการรวบผมเบาๆ หรือเปลี่ยนทรงผมไปมา หรือใช้ที่คาดผมแทนเก๋ๆ

👩🏻‍⚕️ อาหารเสริม
🔹ไบโอติน สังกะสีและวิตามินซีช่วยส่งเสริมให้ผมและเล็บแข็งแรงขึ้น

👩🏻‍⚕️ หมอนหนุนนอน
🔹การใช้หมอนหนุนนอนที่ทำจากผ้าไหม ช่วยลดการเสียดสีกับเส้นผม ทำให้ลดการแตกหักของเส้นผม เป็นผลให้เส้นผมมีสุขภาพดี ยาวและเงางามยิ่งขึ้นนะคะ

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.