Urea cream ใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์กับผิว

Urea (ยูเรีย) เป็น Hygroscopic molecule ส่วนประกอบหนึ่งในผิวหนัง

พบได้ประมาณ 7% ของ NMF (Natural Moisturizing Factor) ซึ่งอยู่ที่ผิวหนังชั้นกำพร้าของเรา ส่วนนี้จะทำหน้าที่ปกป้องผิว กักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้แก่ผิว

Urea cream
หน้าที่ของ Urea

ปริมาณของ urea ใน NMF จะลดลงไปตามอายุที่มากขึ้นเรื่อย ๆ

หาก NMF ไม่สมบูรณ์ ผลคือ สูญเสียน้ำ เสียความยืดหยุ่น ทำให้ผิวแห้งกร้าน ลอก ในที่สุด

ปัจจุบันที่การนำ urea มาผสมหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ครีม, โลชั่น, โฟม, อิมัลชั่น ประมาณ 5-20%

รายงานผลข้างเคียงจากการใช้น้อยมาก เรียกได้ว่าค่อนข้างปลอดภัย

บางทีอาจจู้สึกว่าได้กลิ่นเล็กน้อย ซึ่งเป็นกลิ่นของ voletile amine

อาจมีการระคายเคืองได้กรณีใช้ความเข้มข้นสูง แต่อาจการเหล่านี้เป็นชั่วคราวและหายเอง

Urea (ยูเรีย) ความเข้มข้นที่ต่างกันออกฤทธิ์ไม่เหมือนกัน

  • ความเข้มข้นต่ำ (2-10%) จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น (Moisturizing effect) เป็น Emoillient เติมน้ำให้ผิว และ Humectants ดึงน้ำเข้าสู่ผิว จึงช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งได้ เช่น Xerosis และยังช่วยในการรักษาผื่น Ichthyosis, Atopic dermatitis, Psoriasis นอกจากนั้นยังป้องกันผิวอักเสบจากการฉายแสง (Radiation-induced dermatitis)
  • ความเข้มข้นปานกลาง (10-30%) นอกจากเพิ่มความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หนาผิดปกติ (Keratolytic effect) มักใช้ในรอยโรคผิวหนังที่หนา เช่น Psoriasis ที่เป็นเยอะ หรือ และช่วยเพิ่มการดูดซึมยาได้
  • ความเข้มข้นมาก (30-50%) ออกฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวเป็นหลัก ใช้กับที่เล็บ, รักษาหูด, ตาปลา ส้นเท้าหนาแตกด้าน หรือใช้ทาเตรียมผิวก่อนการรักษา hyperkeratotic actinic keratosis

ดังนั้น การใช้ Urea cream ความเข้มข้นมากขึ้นไม่ได้แปลว่าจะต้องดีกว่าเสมอไป ควรเลือกให้ถูกวัตถุประสงค์ เช่น หากนำ 20% มาใช้กรณีผิวแห้ง ก็อาจทำให้รอยโรคแย่ลงได้จากการผลัดลอกเซลล์ผิวมากขึ้นกว่าเดิม

ปัจจุบันมีการนำ Urea มาใช้ในทางการแพทย์วงการผิวหนังมากขึ้น โรคทางผิวหนังหลายอย่างที่พบว่าได้ประโยชน์จากการทา Urea cream เช่น ภาวะที่มีผิวแห้งจากโรคต่าง ๆ เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง ผิวแห้งเกล็ดปลา ผิวแห้ง เซ็บเดิม สะเก็ดเงิน โรคอัมพฤกษ์ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

Urea มีประโยชน์ในแง่ต่าง ๆ ดังนี้

  1. เพิ่มความแข็งแรงของกำแพงผิว
  2. ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว ลดการสูญเสียน้ำจากผิว
  3. Keratolytic effects ช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวให้สมบูรณ์
  4. ช่วยเพิ่มการดูดซึมยาลงสู่ผิวหนังและเล็บ เช่น ทายาเชื้อรา ยาทาสเตอรอยด์ ยาฮอร์โมน
  5. ช่วยลดอาการคัน

Urea ถึงแม้จะค่อนข้างปลอดภัยไม่ค่อยมีรายงานผลข้างเคียง แต่มีข้อควรระวัง

1. ระคายเคืองได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการทาในที่ผิวบอบบาง เช่น เปลือกตา ริมฝีปาก อวัยวะเพศ รวมทั้งใบหน้า ยกเว้นหากรอยโรคหนาที่หน้าอาจใช้ได้ชั่วคราว และควรใช้ความเข้มข้นต่ำ ไม่แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องนาน และหยุดทาเมื่ออาการดีขึ้นแล้ว

2. หญิงตั้งครรภ์ เลี่ยงการทาบริเวณหน้าอก ป้องกันเวลาลูกกินนม เพราะยังไม่มีรายงานชัดเจนถึงความปลอดภัยในระหว่างให้นมบุตร

3. หลีกเลี่ยงการทาในแผลเปิด

4. บางรายสามารถแพ้ Urea ได้ หากใช้แล้วมีผื่นคัน หรืออาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์

Urea มีประโยชน์มากมายและใช้ได้ผลค่อนข้างดี แต่หากใช้ไม่ถูกวิธีก็เกิดผลเสียตามมา โรคผิวหนังนั้นอาจแย่ลง ก่อนซื้อมาใช้เองควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอว่ารอยโรคนั้น ๆ มีข้อบ่งชี้สำหรับ Urea หรือไม่

ด้วยความปรารถนาดี

—————————–

Reference

Dermatol Ther (Heidelb). 2021 Dec;11(6):1905-1915.

J Cosmet Dermatol. 2021 Apr;20 Suppl 1(Suppl 1):5-8.

Int J Clin Pract. 2020 Dec;74 Suppl 187:e13621.

Topical urea in skincare: A review Dermatology Therapy 2018; e12690.

—————————–

[Advertorial]

Urearepair plus
UreaRepair Plus

UREA Repair Plus โลชั่นบำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวแห้ง – แห้งมาก

ส่วนผสมเอกสิทธิ์นวัตกรรม Urea+

(1) UREA 5% + NMFs 7 ชนิด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว

(2) Ceramides ไขมันจำเป็นภายในผิว ช่วยเสริมความแข็งแรงผิวและลดการเสียน้ำออกจากผิว

(3) Gluco-Glycerol ช่วยเพิ่มการส่งผ่านโมกุลน้ำไปยังผิวชั้นลึก เพิ่มความชุ่มชื้นยาวนาน 48 ชั่วโมง

เนื้อโลชั่นซึมสู่ผิวได้รวดเร็ว ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะบนผิว

น้ำหอมสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะ

พิกัด : ร้าน Boots ทุกสาขาหรือช้อปออนไลน์ได้ที่

Urea Repair Plus 250ml :  https://universal.brtmobile.com/product_1023374

Urea Repair Plus 400ml : https://universal.brtmobile.com/product_1083973

—————————–

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

Leave a comment