Tag Archives: Hair

Oral minoxidil ช่วยเรื่องผมบาง แต่บางคนอาจเกิดขนดกที่อื่นตามมา

รูปนี้น่าสนใจ นำมาจาก Journal of American Academy of Dermatology เลยอยากมาเล่าให้ฟังสั้น ๆ ค่ะ

Oral minoxidil เป็นยาที่ FDA-approved ในรักษา ภาวะความดันโลหิตสูง โดยขนาดยาที่ใช้คือ 10-40 มก/วัน และค่อย ๆ ปรับขึ้นได้ถึง 100 มก/วัน นอกจากนั้น ยังมีการนำมาใช้แบบ off-label ในการรักษาภาวะผมบางและปัญหาทางเส้นผมอื่น แต่กรณีนี้จะใช้ขนาดยาที่ต่ำลงมา คือ 0.25-5 มก/วัน เรียกว่า Low-dose oral minoxidil (LDOM)

มีการศึกษาที่เพิ่งตีพิมพ์ใน JAAD โดยทำการศึกษาในผู้ป่วย 105 คน ที่ใช้ LDOM ตั้งแต่ Jan 2019-June 2020 เพื่อรักษาภาวะผมบาง พบว่ามีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้

• พบว่า ส่วนใหญ่ 90% เริ่มมีขนขึ้นมากกว่าปกติ หลังทาน LDOM ไปแล้วประมาณ 2-3 เดือน แต่บางคนอาจยาวนานได้ถึง 6 เดือนค่อยมีขนดกก็เป็นได้เช่นกัน

• พบว่า ยิ่งทาน dose สูงขึ้น ขนดกยิ่งเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

บริเวณที่มักมีขนขึ้นเยอะ ได้แก่
มากที่สุด ได้แก่ ขมับ และ ข้างแก้ม (70-80%)
รองลงมา คือ ต้นแขน, หนวด และเครา (30-50%)
พบไม่มาก คือ หน้าผาก, หว่างคิ้ว และแก้ม (5-20%)
ดังรูป

ส่วนใหญ่ขนขึ้นเยอะจากการทานยา minoxidil มักไม่ค่อยรุนแรง บางครั้งผู้ป่วยบางคนแทบไม่ได้กังวลใจด้วยซ้ำ

ในขณะบางคนก็อาจกังวล และได้รับการรักษาด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น เลเซอร์กำจัดขน แว๊กซ์ โกน ครีมกำจัดขน ถอนขน ฯลฯ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นข้อห้ามอะไร แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าเป็นการกำจัดขนเพียงชั่วคราว เพราะหากยังทานยาต่อก็อาจมีขนขึ้นมาใหม่ได้อีก

บางเคสลดขนาดยา minoxidil ก็ช่วยให้ภาวะขนดกนี้ดีขึ้นได้เช่นกัน แต่ก็มีส่วนน้อยที่ต้องหยุดทานยา (4%)

ดังนั้น ถ้าหากใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ แนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผิวหนังและเส้นผม เพื่อให้คำแนะนำการรักษาขนที่ขึ้นเยอะจนอาจทำให้รำคาญใจ โดยที่อาจจะยังไม่จำเป็นต้องหยุดทานยาก็ได้ค่ะ

Reference:
Characterization and management of hypertrichosis induced by low-dose oral minoxidil in the treatment of hair loss.
https://www.jaad.org/article/S0190-9622(20)32594-9/fulltext

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.

ผมสวยสุขภาพดี..ใคร ๆ ก็มีได้

“คุณหมอมีเคล็ดลับแนะนำในการดูแลเส้นผมอย่างไรบ้างคะ.. หนูอยากผมสวยสุขภาพดีบ้าง”

เทคนิคสั้น ๆ ง่าย ๆ ใครก็ทำได้ตามนี้เลยค่ะ

👩🏻‍⚕️ การหวีผม
🔹อย่าหวีผมบ่อยเกินไป เพราะจะทำลายน้ำมันเคลือบผมตามธรรมชาติ ทำให้เกิดการแตกปลายและผมชี้ฟู
🔹หลังอาบน้ำ ใช้หวีซี่ห่าง หรืออาจใช้นิ้วในการสางผม แทนการหวี

👩🏻‍⚕️ การตัดผม
🔹เล็มปลายผมทุก 4-6 สัปดาห์ โดยตำแหน่งที่เล็มคือ เหนือจากจุดที่ผมแยกจากกันมาประมาณ 1/4 นิ้ว

👩🏻‍⚕️ การสระผมและการหมักผม
🔹สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว การสระผมทุกวันนั้นไม่จำเป็น อีกทั้งยังเป็นการทำลายไขมันธรรมชาติที่เคลือบเส้นผม ทำให้ผมแห้งเสียได้ง่าย
🔹ไม่ควรสระผมด้วยน้ำร้อน แนะนำให้ใช้น้ำเย็นจะช่วยให้ cuticle ชั้นนอกของเส้นผมเรียงตัวดี ผลคือ ผมเงางามยิ่งขึ้น หรืออาจใช้น้ำเย็นเป็นน้ำสุดท้ายเพื่อ cool down ให้ cuticle เรียงตัวเพื่อความเงางามของเส้นผม
🔹ไม่เกาหนังศีรษะ แนะนำให้นวดเบาๆแทน
🔹ไม่ใช้ยาสระผมในปริมาณมากเกินไปเพราะจะทำลายเส้นผมได้
🔹การหมักบำรุงผมนั้นดีต่อเส้นผมมากๆ เพราะจะทำให้ผมนุ่มสลวย แข็งแรงและยังชุ่มชื้นขึ้น แนะนำสัปดาห์ละครั้ง
🔹แนะนำให้ใช้ครีมนวดผม ช่วยให้ผมเงางาม ไม่พันกัน ลดการชี้ฟู มีสุขภาพดี และครีมนวดที่เป็น protein-rich conditioner ช่วยลดผมแตกปลายได้ และทำให้ผมหนานุ่มขึ้น

👩🏻‍⚕️ การดัดย้อมทำสียืดผม
🔹หลีกเลี่ยงการยืดผมถาวร
🔹หลีกเลี่ยงการดัดหรือย้อมสี บ่อยเกินเดือนละ 1 ครั้ง ควรมีช่วงเว้นจากการทำสีให้ผมได้พักบ้าง

👩🏻‍⚕️ การมัดรวบผม
🔹หลีกเลี่ยงการรัดผมรวบตึงเกินไปเพราะจะทำลายรากผมและก่อให้เกิดผมบางจากการดึงรั้งได้
🔹ใช้วิธีการรวบผมเบาๆ หรือเปลี่ยนทรงผมไปมา หรือใช้ที่คาดผมแทนเก๋ๆ

👩🏻‍⚕️ อาหารเสริม
🔹ไบโอติน สังกะสีและวิตามินซีช่วยส่งเสริมให้ผมและเล็บแข็งแรงขึ้น

👩🏻‍⚕️ หมอนหนุนนอน
🔹การใช้หมอนหนุนนอนที่ทำจากผ้าไหม ช่วยลดการเสียดสีกับเส้นผม ทำให้ลดการแตกหักของเส้นผม เป็นผลให้เส้นผมมีสุขภาพดี ยาวและเงางามยิ่งขึ้นนะคะ

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © HELLO SKIN by หมอผิวหนัง All rights reserved.